ซิดนีย์ 7 ก.ค. – ออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า ได้ขยายแผนการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เข็มที่ 4 ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ในขณะที่ต้องรับมือกับจำนวนคนไข้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้นที่เป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย บีเอ 4 และ บีเอ 5
รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย เตือนว่า กำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิด ที่เป็นผลมาจากสายพันธุ์ย่อยบีเอ 4 และ บีเอ 5 ส่วนรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า สายพันธุ์ย่อยนี้กำลังเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในรัฐนี้ นายมาร์ค บัตเลอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุด ขณะนี้ออสเตรเลียกำลังเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 3 ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับระบบสาธารณสุขและโรงพยาบาล ขณะนี้มีคนไข้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในออสเตรเลียราว 4,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อครั้งโอไมครอนระบาดหนัก นายบัตเลอร์กล่าวว่า ตั้งแต่วันจันทร์ทีจะถึงนี้เป็นต้นไป ประชาชนที่อายุ 30 ปี ขึ้นไป จะมีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 หลังจากกลุ่มที่ปรึกษาเรื่องภูมิคุ้มกันปรับปรุงแก้ไขเรื่องคำแนะนำในการฉีดวัคซีน การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ประชาชนมากกว่า 7 ล้านคนมีสิทธิ์เข้ารับการฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 2 เชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยที่พบใหม่นี้กำลังระบาดกลายเป็นสายพันธุ์หลักในหลายประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดกล่าวเตือนว่า อาจจะทำให้มีผู้ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้นและมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสายพันธุ์ย่อยนี้สามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย