ผบ.ตร. เผยค้น 11 จุด เอี่ยวดิไอคอน-เร่งสอบคลิปเสียง

บช.ก. 22 ต.ค. – ผบ.ตร.เผยค้น 11 จุด เอี่ยวดิไอคอน เตือนคนดังตรวจข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ข้อมูล เร่งตรวจสอบคลิปเสียง พบผิดถึงใครไม่มีละเว้น เผยยังไม่พบชื่อภรรยา “บอสกันต์” ในรายชื่อลอต 2 และยังไม่พบออกนอกประเทศ


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. และพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ร่วมเเถลงความคืบหน้าหลังเข้าประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า สำหรับการเข้าแจ้งความตลอดช่วงเช้าวันนี้พบยังคงมีผู้เสียหาย เดินทางมาเพื่อรับบัตรคิวเข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้ว ประมาณ 50 คิว และสำหรับยอดรวมผู้เสียหายทั่วประเทศ ที่เข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสถานีตำรวจท้องที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 – 21 ต.ค.2567 พบมีประชาชนเดินทางมาแจ้งทั้งสิ้น 6,979 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,046 ล้านบาท


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน อยู่ในการควบคุมที่เรือนจำพิเศษ ส่วนการขยายผลอยู่ระหว่างการสอบสวนทั้งเรื่องเส้นทางการเงิน การวิเคราะห์บัญชีการเงิน โดยในวันนี้มีการไปตรวจค้นทั้งหมด 11 จุด ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในฐานะพนักงานและคนใกล้ชิดกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติการตรวจค้นและยังไม่ได้รายงานผลเข้ามา เนื่องจากต้องการที่จะปิดข้อมูลหรือหลักฐานต่างๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคดี สำหรับหมายจับลอตที่ 2 อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเกี่ยวข้องกับ 11 จุด ที่ไปตรวจหรือไม่ก็อยู่ที่พยานหลักฐาน หากพบหลักฐานชัดเจนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่าถ้าผลการสอบสวนและหลักฐานพาดพิงไปถึงใครระดับใดก็ตามก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าภรรยาของนายกันต์ มีรายชื่ออยู่ในหมายจับลอตที่ 2 ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบในรายชื่อ และยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ สำหรับการแยกระหว่างผู้เสียหายหรือผู้ต้องหานั้น ต้องเรียนว่าผู้เสียหายบางคน เมื่อสอบปากคำแล้วอาจจะพบว่าเป็นผู้ต้องหาในภายหลัง เพราะฉะนั้นก็จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งทั้งหมดอยู่ในการวิเคราะห์คำให้การอย่างละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายที่มาแสดงตัวก็ให้สิทธิ์เป็นผู้เสียหายก่อน โดยคำให้การทั้งหมดก็จะต้องผ่านการวิเคราะห์ในเรื่องของพยานหลักฐานก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาอะไรเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบความผิดอื่นเพิ่ม ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป


ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับเรื่องข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบอสพอล ที่มีขึ้นต้นด้วยเลข 5 นั้น เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ พบว่าเป็นการแจ้งตกหล่นในการสำรวจ และมีการเพิ่มชื่อทีหลัง แต่ยืนยันว่าเป็นคนไทย ยังไม่พบว่าเป็นต่างด้าว อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่จะมีกลุ่มผู้เสียหายได้ไปร้องเรียนกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ในเรื่องพนักงานสอบสวนชี้นำทำให้เกิดความเสียหายเท็จขึ้นมา ทางตำรวจจะชี้แจงอย่างไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ แต่อยากจะเรียนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการทำงานหนักมาก และในการสอบสวนจำเป็นต้องมีความรอบคอบ รัดกุม ซึ่งความผิดแต่ละประเภทนั้นจะมีองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย หากใช้ความรู้สึกอย่างเดียวแล้วแจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดผู้หนึ่ง เราอาจจะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเองก็ได้

สำหรับเรื่องคลิปเสียงทั้งหมด ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบ ร่วมกับ บก.ปปป. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและก็ขยายหลักฐานทั้งหมดว่าเกี่ยวพันกับผู้ใดบ้าง แต่ขณะนี้ขอยังไม่เปิดเผย แต่บอกได้ว่ามีการสอบปากคำบอสพอล และได้รับคำยืนยันว่าเสียงนั้นเป็นเสียงบอสพอลจริง ทั้งนี้ หากพบว่าบุคคลใดที่มีหลักฐานชัดเจนและเป็นการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานของรัฐหรือความผิดต่อแผ่นดินตำรวจจะไม่ทำการละเว้นในการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ส่วนบุคคลใดที่จะแสดงตัวหรือแสดงความบริสุทธิ์ เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหลักฐาน ซึ่งจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้างอยู่ระหว่างการสอบสวนและตรวจสอบ และกรณีที่มีกระแสข่าวว่านักร้องเรียนหญิงมีความสนิทสนมกับตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่นั้น หากพบว่าเป็นตำรวจหรือไม่ว่าใครสังกัดใดก็ตาม หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจะดำเนินคดีไม่มีละเว้น ทั้งนี้ไม่มีความกังวลและไม่มีความหนักใจ

สำหรับเงินที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีพระผู้ใหญ่จำนวนเงิน 1 ล้านบาท จะต้องทำการอายัดมาตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า อย่างไรก็ต้องดูว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ จะต้องตรวจสอบและใช้ดุลพินิจและวิจารณญาณที่ละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง แต่หากเงินดังกล่าวเป็นเงินต้องสงสัยก็สามารถอายัดได้ เป็นไปตามกระบวนการการสอบสวนและยึดอายัดทรัพย์อยู่แล้ว เบื้องต้นในส่วนของตำรวจมีการยึดทั้งอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ต้องหาทั้งหมดในขณะนี้กว่า 400 ล้านบาทแล้ว

ส่วนที่มีกระแสข่าวที่ผู้ต้องหามีการแปลงสกุลเงินดิจิทัลนั้น เรื่องนี้ได้มีการสอบปากคำและก็ตรวจสอบ โดย บก.ปปป. อยู่แล้ว แต่อยากเรียนว่า “บุคคลที่มีชื่อเสียงหรืออินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ ควรจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนจะนำข้อมูลเหล่านั้นออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะชน ทำให้ประชาชนเกิดความไขว้เขวต่อข้อเท็จจริงว่าทำไมเจ้าหน้าที่รัฐถึงมีการปล่อยปละให้มีการถ่ายโอนทรัพย์สินในรูปแบบคริปโต ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบอยู่และข้อเท็จจริงจะปรากฏเร็วๆ นี้ แต่หากใครที่ให้ข้อมูลเท็จต่อสื่อสาธารณชน จะต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดี” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ในส่วนของพยานที่มาให้ปากคำกับ บก.ปปป. และ DSI เป็นคนเดียวกันหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ขอยังไม่พูดเนื้อหารายละเอียดของเรื่องการสอบสวนและพาดพิงถึงบุคคลใดหากยังไม่ชัดเจนในข้อเท็จจริง ส่วนบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จะเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์

ทั้งนี้ ตนอยากเตือนพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย ที่มีการพยายามยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินนั้น จะยิ่งทำให้ปรากฏพฤติการณ์ทำผิดในทางคดีอย่างชัดเจน เบื้องต้นขอยืนยันว่าจะทำคดีแล้วเสร็จทัน 48 วัน ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน

ขณะที่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า จากที่มีข่าวปรากฏว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ทางตำรวจเองก็จะมีการไปตรวจสอบทั้งในเรื่องของกล้องวงจรปิดโดยการกระทำในลักษณะนี้อาจจะเข้าข่ายการฟอกเงิน ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งดำเนินการ.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]