ออสเตรเลีย

ซิดนีย์ 15 ธ.ค.- รัฐบาลออสเตรเลียแจ้งวันนี้ว่า สมาชิก 5 คนที่เหลือของแก๊งบาหลีไนน์ (Bali Nine) ซึ่งเป็นแก๊งค้ายาเสพติด ได้เดินทางกลับออสเตรเลียแล้ว หลังจากถูกคุมขังที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียนานกว่า 19 ปี นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลสามารถยืนยันได้ว่านายแมทธิว นอร์แมน,นายสกอตต์ รัช, นายมาร์ติน สตีเฟน, นายเฉิน ซื่อยี่ และนายไมเคิล ชูเกจ ได้เดินทางกลับออสเตรเลียแล้ว ชาวออสเตรเลียกลุ่มนี้ได้รับโทษจำคุกที่อินโดนีเซียนานกว่า 19 ปี และถึงเวลาที่จะกลับบ้าน รัฐบาลออสเตรเลียขอขอบคุณอย่างยิ่งที่รัฐบาลอินโดนีเซียให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกให้พวกเขาได้กลับบ้านด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม คนกลุ่มนี้จะมีโอกาสในการเดินหน้าฟื้นฟูตนเองและกลับเข้าสู่สังคมออสเตรเลียอีกครั้ง ด้านรัฐบาลอินโดนีเซียแถลงว่า ผู้ต้องขังทั้ง 5 คนได้รับการส่งตัวออกจากเกาะบาหลีในเช้าวันนี้ และเดินทางถึงเมืองดาร์วิน เมืองเอกของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ชายทั้ง 5 คนอยู่ในกลุ่มชาวออสเตรเลีย 9 คนที่ถูกจับกุมในปี 2548 ขณะพยายามลักลอบนำเฮโรอีนน้ำหนักมากกว่า 8 กิโลกรัมออกจากเกาะบาหลี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซีย หัวหน้าแก๊ง 2 คนถูกประหารชีวิตในปี 2558 ทำให้ออสเตรเลียประท้วงด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศ สมาชิกแก๊งที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวได้รับการปล่อยตัวในปี […]

รัฐบาลออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า มีแผนการที่จะออกระเบียบใหม่ที่จะเรียกเก็บเงินจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี หลายล้านดอลลาร์ หากบริษัทเหล่านี้ไม่ยอมจ่ายเงิน

เมลเบิร์น 6 ธ.ค.- ตำรวจออสเตรเลียกำลังสอบสวนเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โบสถ์ยิวในนครเมลเบิร์นซึ่งเกิดขึ้นช่วงเช้ามืดของวันนี้ ตำรวจรัฐวิกตอเรียแถลงว่า ผู้ที่มาโบสถ์อาดาสส์ อิสราเอล (Adass Israel) ให้ข้อมูลว่าเห็นผู้ต้องสงสัย 2 คนสวมหน้ากากปิดบังใบหน้ากำลังราดสิ่งที่น่าจะเป็นเชื้อเพลิงภายในโบสถ์ ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุไฟไหม้เกิดจากคนร้ายจงใจจุดไฟขึ้น และไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว นักดับเพลิงและรถดับเพลิงจำนวนมากรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ชานเมืองทางตอนใต้ของนครเมลเบิร์นเมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทย เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน และอาคารโบสถ์ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะนี้ตำรวจกำลังตามล่าตัวผู้ก่อเหตุ ทางการออสเตรเลียได้ยกระดับการเฝ้าระวังการก่อเหตุรุนแรงจากการต่อต้านชาวยิว นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากทำสงครามในฉนวนกาซา ตอบโต้ที่กลุ่มฮามาสข้ามพรมแดนเข้ามาก่อเหตุสะเทือนขวัญเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 29 พ.ย.- วัยรุ่นในออสเตรเลียและอีกหลายประเทศแสดงความคิดเห็น หลังจากรัฐสภาออสเตรเลียผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย วุฒิสภาออสเตรเลียผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวเเมื่อเย็นวันที่ 28 พฤศจิกายน หลังจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีสายกลางซ้ายได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายค้านสายอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 และจะกลายเป็นมาตรฐานให้แก่ประเทศอื่นในการบังคับให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องมีความรับผิดชอบในการปกป้องเด็ก นักเรียนหญิงในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียที่มีอายุครบ 16 ปีได้ไม่กี่วันยอมรับว่า โซเชียลมีเดียมีส่วนทำให้เกิดประเด็นเรื่องการเปิดเผยร่างกายและการรังแกทางไซเบอร์ แต่การห้ามใช้โดยสิ้นเชิงอาจผลักให้เด็กหลุดไปยังพื้นที่อันตรายและไม่เปิดเผยในโลกอินเทอร์เน็ต และจะสร้างคนรุ่นที่สามารถใช้เทคโนโลยีหลบหลีกการปิดกั้นได้เก่งยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่ผลที่ทางการต้องการ ส่วนที่เบลเยียมซึ่งห้ามเด็กใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในกรุงบรัสเซลส์และแคว้นที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เด็กหญิงวัย 12 ปี มองว่า กฎหมายของออสอตรเลียไม่สมเหตุสมผล ทางการควรแบนบัญชีต้นทางที่โพสต์สิ่งไม่เหมาะสม มากกว่าการห้ามเด็กใช้งานอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับเด็กชายวัย 12 ปีคนหนึ่งในสเปนที่ไม่เห็นด้วย เพราะคนจำนวนมากที่ทำอาชีพนี้อาจได้รับผลกระทบ ขณะที่เด็กในวัยของเขาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ด้านเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในคิวบาเผยว่า มีเพื่อนสนิทถูกข่มขู่ทางไซเบอร์มาโดยตลอด จึงอยากให้ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งคิวบาบังคับใช้กฎหมายแบบออสเตรเลีย.-814.-สำนักข่าวไทย

แคนเบอร์รา 29 พ.ย.- รัฐสภาออสเตรเลียลงมติผ่านกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากมองว่าเสี่ยงต่อสุขภาพกายและใจของเด็ก ถือเป็นประเทศที่มีกฎหมายคุมเข้มเรื่องการใช้งานสื่อออนไลน์ในเด็กมากที่สุดในโลก รัฐสภาออสเตรเลียผ่านกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากการอภิปรายกันอย่างเผ็ดร้อนหลายวันจนถึงช่วงดึกวานนี้ วุฒิสภาหรือสภาสูงลงมติให้ผ่านกฎหมายดังกล่าว โดยที่รัฐบาลพรรคแรงงานฝ่ายกลางซ้ายของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยม เป็นการกำหนดมาตรฐานให้ประเทศอื่น ๆ ปฏิบัติตามในการผลักดันระดับโลกเพื่อควบคุมอำนาจของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ คาดว่ากฎหมายจะบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายนปี 2568  กำหนดมาตรการควบคุมการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้มงวดที่สุดในโลก และจะบังคับให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่า มีการคุ้มครองการยืนยันอายุก่อนเข้าใช้งาน การที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นด่านสุดท้ายทางนิติบัญญัติ หลังจากที่สภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซี ซึ่งกำลังพยายามเพิ่มคะแนนนิยมก่อนการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ย้ำเตือนก่อนหน้านี้ว่า สื่อสังคมออนไลน์โซเชียลก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพกายและใจของเด็ก และเขากำลังมองหาการสนับสนุนจากผู้ปกครอง ให้ออสเตรเลียเดินหน้าแผนทดลองใช้ระบบตรวจสอบอายุ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลชีวภาพหรือการระบุตัวตนของรัฐบาลเพื่อบังคับใช้การห้ามดังกล่าว การทดลองดังกล่าวจะดำเนินไปเป็นเวลาหลายเดือน และผลการทดลองจะได้รับการทบทวนภายในกลางปี 2568.-815(814).-สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 25 พ.ย.- บิดาของสตรีชาวออสเตรเลียที่เป็น 1 ในผู้เสียชีวิต 6 คน จากกรณีคลัสเตอร์เหล้าเถื่อนใน สปป.ลาว เรียกร้องให้สืบสวนอย่างเต็มที่ บิดาของ น.ส.เบียงก้า โจนส์ วัยรุ่นชาวออสเตรเลียวัย 19 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วขณะถูกนำตัวมารักษาในโรงพยาบาลที่ไทย ได้แถลงข่าวเปิดใจกับการสูญเสียว่า บุตรสาวเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตหลังจากจบการศึกษา เป็นการท่องเที่ยวผจญโลกกับเพื่อนสนิทซี่งควรจะเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของชีวิต เขาอยากให้ชีวิตของลูกสาวเป็นบทเรียนและใช้ปกป้องชีวิตของคนอื่น ๆ ไม่ให้ต้องประสบชะตาเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้ทางการ สปป.ลาวสืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เบียงก้า โจนส์ เป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยว 6 คนที่เสียชีวิตระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในเมืองวังเวียง ประกอบด้วยชาวเดนมาร์ก 2 คน ออสเตรเลีย 2 คน อเมริกัน 1 คน และอังกฤษ 1 คน จากการชันสูตรพบว่า มีสารเมทานอลปนเปื้อนในร่างกาย จึงคาดว่าเกิดจากการดื่มสุราปลอมที่ใช้เมทานอลเป็นส่วนประกอบ  ด้านรัฐบาล สปป.ลาวได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิต และย้ำว่าได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและจะนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ตำรวจท่องเที่ยวได้ควบคุมตัวผู้จัดการโรงแรมที่นักท่องเที่ยวหลายคนเข้าพักก่อนเสียชีวิต เพราะมีการแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ฟรี แต่ทางโรงแรมชี้ว่า ได้แจกให้นักท่องเที่ยวนับร้อยคน แต่คนอื่น ๆ […]

นิวคาสเซิล 24 พ.ย.- ตำรวจออสเตรเลียกวาดจับนักเคลื่อนไหว 138 คน ที่พากันพายเรือเล็กจำนวนมาก กีดขวางไม่ให้เรือใหญ่ลำหนึ่งเข้าไปเทียบท่าที่ท่าเรือส่งออกถ่านหินใหญ่ของประเทศในวันนี้ ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์แจ้งว่า ได้จับกุมนักเคลื่อนไหวเหล่านี้ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของตำรวจที่ให้ออกไปจากร่องน้ำใกล้ท่าเรือนิวคาสเซิล ซึ่งเป็นท่าเรือส่งออกถ่านหินใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียและของโลก ด้านไรซิงไทด์ (Rising Tide) ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ เผยว่า มีคนมากกว่า 100 คน เข้าร่วมในการรณรงค์ขัดขวางการเทียบท่าเรือขนถ่านหินเป็นเวลา 50 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ชาวออสเตรเลียที่มาร่วมเคลื่อนไหวพายเรือคายักจำนวนมากมารวมตัวใกล้เรือของกรีนพีซ ที่เป็นกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมกับชูใบพายขึ้นมา ทำให้เรือขนถ่านหินที่กำลังจะเข้ามาเทียบท่าต้องหันหัวเรือกลับไป.-814.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลออสเตรเลียได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาในวันนี้ ที่มีเป้าหมายในการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย0