ธปท.-คลัง-เอกชน ประชุมร่วม กลไกกำหนดดอกเบี้ยสมดุลความเสี่ยงผู้กู้

กรุงเทพฯ 12 ก.ย.- ธปท.-คลัง-ภาคเอกชน ร่วมประชุมเพื่อออกแบบกลไกการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สมดุลกับความเสี่ยงของผู้กู้ ภายใต้โครงการ Reinvent Thailand พลวัตใหม่เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย ช่วยลูกหนี้ได้เงื่อนไขสินเชื่อดีขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และผู้แทนภาคการเงิน จากสมาคมธนาคารไทย และผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย 3 แห่ง ได้ประชุมร่วมกันครั้งแรก (kick-off) เพื่อออกแบบกลไกการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สมดุลกับความเสี่ยงของผู้กู้ (Risk-Based Pricing) ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างแรงผลักดันให้เกิดการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแต่ละภาคส่วนเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาด้านการเข้าถึงสินเชื่ออย่างเหมาะสมและเป็นธรรมอย่างยั่งยืน กลไก Risk-Based Pricing ที่อิงกับ credit score ของลูกหนี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งปัจจุบันมีการพึ่งพาหนี้นอกระบบสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ อีกทั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างประวัติทางการเงินใน NCB ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้ได้รับเงื่อนไขสินเชื่อที่ดีขึ้นในอนาคตตามพฤติกรรมการชำระหนี้ ขณะเดียวกันลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีก็จะได้รับการเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงเช่นกัน ตามแนวทาง “เสี่ยงสูงกู้ได้ เสี่ยงต่ำกู้ถูกลง” ทั้งนี้ ในการหารือได้พิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ในการเริ่มดำเนินการ โดยในระยะต้นสามารถดำเนินการทดสอบใน sandbox ก่อน เพื่อประเมินว่าผู้ให้บริการทางการเงินสามารถดำเนินการได้ตามหลักการข้างต้นได้จริงหรือไม่ ก่อนที่จะเปิดให้บริการเป็นการทั่วไป ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาคการเงิน และภาครัฐ ในครั้งนี้เป็นหนึ่งใน pilot projects ภายใต้โครงการ Reinvent […]

ไทยพาณิชย์ปรับกลยุทธ์ ชู Consumer Banking  เร่งเครื่อง AI-First Bank

นครราชสีมา 13 ก.ย.- ไทยพาณิชย์ปรับกลยุทธ์ดำเนินงานเน้นเสริมแกร่งธุรกิจหลัก ปรับองค์กรให้ลีน-เร็ว ปรับโครงสร้างธุรกิจรายย่อย ชู Consumer Banking ตามพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ เร่งเครื่อง AI-First Bank เสริมศักยภาพการแข่งขัน นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปี ของการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ยังคงสร้างความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ในระยะข้างหน้า อุตสาหกรรมธนาคารยังต้องเผชิญความท้าทายจากอีกหลายปัจจัยทางเศรษฐกิจและธุรกิจทั้งจากการแข่งขันกับคู่แข่งรายใหม่อย่างธนาคารไร้สาขา ความก้าวหน้าของ AI ที่ธุรกิจธนาคารจะต้องวิ่งตามให้ทัน ทำให้ธนาคารต้องเร่งปรับตัว เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันและขยายขีดความสามารถในการให้บริการอย่างครอบคลุมและตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ปรับธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความคล่องตัวให้กับธุรกิจ 2) ลงมือทำรวดเร็วและชัดเจน โดยกำหนดเป้าหมายและปฏิบัติงานสอดคล้องกับบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนไป และ 3) เสริมแกร่งธุรกิจหลัก เน้นการรักษาคุณภาพและขยายธุรกิจหลักที่เป็นผู้นำและมีศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจลูกค้าขนาดใหญ่ และธุรกิจลูกค้าบุคคล ตั้งแต่ต้นปี 2568 ที่ผ่านมา […]

ซีอีโอ SCB ระบุรัฐบาลใหม่ต้องติดกระดุมเม็ดแรกสร้างเชื่อมั่น ฟื้นเศรษฐกิจไทย

นครราชสีมา 13 ก.ย.-ซีอีโอ SCB ชี้ 3 โจทย์สำคัญที่รัฐบาลใหม่ต้องชัดเจน เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน-เร่งคลอดนโยบายการเงินการคลัง-สร้างความเข้มแข็งเอสเอ็มอี เชื่อหากบูรณาการได้ จะฟื้นเศรษฐกิจได้ จีดีพีปีหน้าอาจขยับขึัน นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึง แนวโน้มเศรษฐกิจของไทยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทายอย่างมาก จากความไม่แน่นอนนโยบายการค้าโลก ส่งผลการส่งออกจะขยายตัวต่ำลงมากในช่วงครึ่งปีหลัง สินค้าจินติตลาดไทยมากขึ้น ขณะที่การเข้าถึงสินเชื่อรายย่อยยังมีข้อจำกัด จากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ส่งผลการบริโภคที่อาจจะขยายตัวชะลอลง เงินบาทที่แข็งค่ากดดันการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาทราบโจทย์ดีและเชื่อว่าแผนงานทางเศรษฐกิจที่เตรียมออกมาน่าจะช่วยบรรเทาความท้าทายลงได้บ้าง ขณะที่ภาคธนาคารต้องช่วยภาครัฐด้วยเช่นกัน ด้วยการช่วยให้ลูกค้าที่ยังพอไปต่อได้เพื่อให้เดินหน้าต่อ ด้วยการให้คำปรึกษาทางการเงินอย่างรอบคอบ ทันสถานการณ์ แนะนำผลิตภัณฑ์การเงิน ที่เหมาะสม ยั่งยืน อย่างไรก็ตามยอมรับว่าภาคธนาคารเพิ่มความระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ และเฝ้าระวังความเสี่ยงธุรกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยว ทั้งนี้มองว่า สิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาเพื่อประคองเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นวิกฤติในช่วงนี้ไปให้ได้นั้น มีอยู่ 3 ประเด็นหลัก อันดับแรกการสร้างความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด การติดกระดุมเม็ดแรกที่สร้างความไว้ใจ ความวางใจ และสบายใจ สร้างความเชื่อมั่นใน ครม.ชุดใหม่ แม้จะเจอโจทย์ที่ท้าทายเพียงใด รัฐบาลก็จะสามารถพาประชาชนไปตลอดรอดฝั่ง ประการที่สอง คือนโยบายการเงินการคลังที่สอดคล้องและต้องออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งกระตุกเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว […]

มสธ. จับมือสถาบันสื่อบริหารธุรกิจไทย-จีน ผลักดันความร่วมมือวิชาการและธุรกิจ

กรุงเทพฯ 13 ก.ย.-มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) จับมือ สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน ลงนาม MOU เดินหน้าผลักดันความร่วมมือทางด่านวิชาการและธุรกิจเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัย และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสื่อและบริหารธุรกิจระหว่างไทย-จีน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนมพัทธ์ สมิตานนท์ กรรมการสภามหาวิทยาลัย รักษาราชการแทนอธิการบดี มสธ. และ นางสาวคันธรส หาญไชยพิบูลย์กุล ผู้อำนวยการสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัย และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสื่อและบริหารธุรกิจระหว่างไทย–จีน โดยบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ครอบคลุมการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้งบุคลากร สถานที่ และอุปกรณ์การเรียนการสอน รวมถึงการฝึกอบรม การศึกษาดูงาน การวิจัย และการให้คำปรึกษาทางวิชาการ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและผู้เรียนให้สามารถทำงานร่วมกันในบริบทไทย–จีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผศ.ดร.พนมพัทธ์ กล่าวว่ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ให้เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศ การจับมือกับสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน จะช่วยเสริมศักยภาพการจัดการศึกษาและการวิจัย โดยเฉพาะด้านสื่อสารมวลชนและธุรกิจระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมและประเทศได้อย่างแท้จริง นางสาวคันธรส กล่าวว่า ความร่วมมือกับ มสธ. ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการเชื่อมพลังความรู้จากภาคการศึกษาไทยกับประสบการณ์การทำงานของนักวิชาชีพสื่อและธุรกิจในจีน เราเชื่อว่าจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการและบุคลากรไทย เข้าใจพลวัตเศรษฐกิจและการสื่อสารในบริบทไทย–จีนอย่างลึกซึ้ง และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจไทย–จีน กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ เกิดจากดำริของดร.กำพล […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]

ก.ล.ต. เตือน CHARAN เร่งส่งงบการเงินงวดไตรมาส 1/68 ฉบับแก้ไข

กรุงเทพฯ 12 ก.ย.- ก.ล.ต. สั่ง CHARAN เร่งส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2568 ฉบับแก้ไข ภายใน 15 ก.ย.68 ตามกำหนดเดิม ชี้ไม่มีเหตุพอให้ขยายเวลา พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณชนผ่านระบบ SETLink สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แจ้งให้บริษัท จรัญประกันภัย จำกัด (มหาชน) (CHARAN) ให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชีในการสอบทานงบการเงินงวดไตรมาส 1 ปี 2568 และให้นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี ต่อ ก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินดังกล่าวต่อสาธารณชนผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ภายในวันที่ 15 กันยายน 2568 เนื่องจากผู้สอบบัญชีของ CHARAN เสนอรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลแบบไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินงวดไตรมาส 1 ปี 2568 เพราะไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะใช้ในการสอบทานการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17) มาถือปฏิบัติ ซึ่งเริ่มใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 […]

รฟท.เตรียมพัฒนาบริการสาธารณะบนที่ดินรถไฟ

กรุงเทพ 12 ก.ย.-รฟท. จับมือ กทม. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พัฒนาบริการสาธารณะบนที่ดินรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวก-ปลอดภัยให้ประชาชน ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อมอบอำนาจให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล บำรุงรักษา และจัดทำบริการสาธารณะในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งการบำรุงรักษาทางบกและทางระบายน้ำ การขนส่ง การจัดการจราจรและวิศวกรรมจราจร การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับถนนในบริเวณพื้นที่ของ รฟท. อันเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เชื่อมโยงการสัญจรของประชาชน นายวีริศ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรุงเทพมหานคร สามารถจัดทำบริการสาธารณะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมงานสำคัญ อาทิ การก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมถนนและทางจราจร การจัดระเบียบการจอดรถและการจัดการจราจร การก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบระบายน้ำ การก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ตลอดจนภารกิจอื่น ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การลงนามในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง รฟท. และ กทม. เพื่อให้การดูแลสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานในกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ […]

ธปท.-แบงก์พาณิชย์ เร่งปรับปรุงขั้นตอนอายัดบัญชีต้องสงสัย ไม่ให้กระทบบัญชีปกติ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – ธปท.-ธนาคารพาณิชย์-ตำรวจ เร่งปรับปรุงขั้นตอนอายัดบัญชีต้องสงสัยไม่ให้กระทบบัญชีปกติ-รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังเกิดเหตุธนาคารแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบ-ปลดอายัดบัญชีล่าช้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงประเด็นที่มีกระแสข่าวลูกค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบและการปลดอายัดบัญชีล่าช้านั้น กรณียอดเงินในบัญชีติดลบ ธปท. ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ (1) เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 มีการปรับปรุงข้อมูลรายการเคลื่อนไหวของเงินฝากช่วงสิ้นวันไม่ครบถ้วน ส่งผลให้บัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งมียอดเงินคงเหลือไม่เป็นปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้แก้ไขให้ถูกต้องเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย รวมถึงได้เข้าตรวจสอบและติดตามให้ธนาคารมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีกในอนาคต ตลอดจนกำชับให้ทุกธนาคารมีมาตรการเชิงป้องกันเช่นกัน (2) เกิดจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งธนาคารให้อายัดเงินในบัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ระบบจึงแสดงยอดเงินในบัญชีติดลบ ซึ่งแต่ละธนาคารมีแนวทางการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารเร่งสร้างความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนแล้ว สำหรับประเด็นการอายัดบัญชีต้องสงสัยเพื่อติดตามเงินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบการทำธุรกรรมของประชาชนส่วนหนึ่งนั้น ธปท. ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหาและอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงกระบวนการอายัดและการปลดอายัด ให้สามารถจัดการกับมิจฉาชีพและดูแลผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการปกติ รวมทั้งมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการปลดอายัดบัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์  ทั้งนี้ […]

หุ้นไทยปิดบวก 5.59 จุด

กทม. 12 ก.ย.-SET ปิดวันนี้ที่ 1,293.62 จุด เพิ่มขึ้น 5.59 จุด (+0.43%) มูลค่าซื้อขาย 38,576.94 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นและลดช่วงบวก โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,289.31 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,299.19 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 254 หลักทรัพย์ ลดลง 191 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 210 หลักทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

บสย.พักชำระค่าธรรมเนียม ช่วยผู้ประสบอุทกภัย

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – บสย. เร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัย ลูกค้า-ลูกหนี้ พักชำระค่าธรรมเนียม-ค่าจัดการค้ำฯ-ค่างวด นานสูงสุด 6 เดือน นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในขณะนี้ได้ขยายวงกว้าง ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ประสบอุทกภัย ส่งผลกระทบต่อประชาชน และผู้ประกอบการ SMEs เป็นจำนวนมาก บสย.เร่งเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งลูกค้าและลูกหนี้ให้สามารถไปต่อได้ โดยออกมาตรการเร่งด่วนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประสบอุทกภัย และมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประกาศ ดังนี้ (หลังครบระยะเวลาพักชำระ 3 เดือน ให้ผ่อนชำระตามเงื่อนไขเดิม) สำหรับสถานประกอบการที่เป็นลูกค้า บสย. ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 23 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประกาศ ณ วันที่ 4 กันยายน 2568 ได้แก่ จังหวัด เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ […]

สรท.จี้ ธปท.ดูแลค่าเงินบาทรับมือการแข่งขันรุนแรงในตลาดโลก

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ชี้เงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่น หวั่นฉุดการเร่งเครื่องส่งออกโค้งสุดท้ายของปี จี้ ธปท.ดูแลค่าเงินให้สอดคล้องกับทิศทางค่าเงินของภูมิภาค เพื่อรับมือการแข่งขันรุนแรงในตลาดโลก นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวภายหลังการประชุมร่วม คณะกรรมการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า สถานการณ์การส่งออกสินค้าจากเอเชียไปยังสหรัฐอเมริกา เริ่มมีทิศทางเติบโตลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก สะท้อนจากตลาดขนส่งทางทะเลในเส้นทาง Trans-Pacific Eastbound ซึ่งแม้สายการเดินเรือจะเริ่มทยอยยกเลิกเที่ยวเรือ (Blank Sailing) แต่ยังคงมีระวางเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากการจองระวางเรือก่อนช่วง Golden Week ของจีนน้อยกว่าปีก่อนหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งทดแทนด้วยการส่งสินค้าไปยังภูมิภาคอื่นของโลก และจะส่งผลให้การแข่งขันทางการค้าทั้งในตลาดโลกและในประเทศรุนแรงมากขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี แต่ประเทศไทยกลับเสียเปรียบคู่แข่งสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่น อาจทำให้เสียโอกาสในการเร่งเครื่องส่งออกโค้งสุดท้ายของปี คณะกรรมการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ได้เสนอ 7 มาตรการเร่งด่วนเพื่อให้รัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการ ประกอบด้วย1.ขอให้ ธปท. กำกับดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ และสอดคล้องกับทิศทางค่าเงินของภูมิภาค2.ขอให้รัฐบาลและ ธปท. ลดต้นทุนการประกอบธุรกิจ อาทิ อัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน ต้นทุนพลังงาน […]

บอร์ดดุสิตธานีตั้ง “ชนินทธ์” ควบกรุ๊ปซีอีโอ หลัง “ศุภจี” ตอบรับนั่ง รมว.พาณิชย์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – คณะกรรมการดุสิตธานี มีมติแต่งตั้ง “ชนินทธ์ โทณวณิก” รักษาการประธานกรรมการ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) หลังจาก “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ขอเกษียณก่อนครบกำหนดจากการปฏิบัติหน้าที่ มีผลตั้งแต่วันนี้ (12 ก.ย.) เป็นต้นไป มั่นใจไม่กระทบการดำเนินงานของกลุ่มดุสิตธานี ย้ำ “ดุสิตธานี” ผ่านการวางรากฐานอย่างแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะเติบโตอย่างมั่นคงภายใต้บริบทใหม่ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าหลังจากได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้เข้าดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” และนางศุภจีได้ตัดสินใจตอบรับการทาบทามเพื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมีความประสงค์จะขอเกษียณอายุก่อนครบกำหนดจากตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม” บมจ. ดุสิตธานี เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมเศรษฐกิจ ที่จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ เพื่อพัฒนาประเทศในช่วงที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน และเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมั่นคง คณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง […]

1 2 3 4,106
...