เอกชนห่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ วอนทุกฝ่ายร่วมพิจารณา

ตรัง 19 พ.ค. – หอการค้าสัญจรภาคใต้ถกประเด็นเศรษฐกิจ แต่ยังกังวลขั้นตอนจัดตั้งรัฐบาลใหม่ วอนทุกฝ่ายหันหน้าเจรจาเพื่อให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่เร็วที่สุดเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมเสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนไว้ 4 แนวทางสำคัญให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าแก้ไข


นายสนั่นอังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้า เห็นว่าหลังผลการเลือกตั้งออกมาแสดงให้เห็นถึง ความตื่นตัว และความต้องการของประชาชน ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศในการอยากเห็นรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารงานนับจากนี้ ขณะเดียวกันกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ก็มีความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางที่ดีโดยสามารถที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันกฎหมายที่สำคัญต่าง ๆ

ทั้งนี้ ข้อกังวลของหลายส่วน ที่มีต่อการรวมเสียงเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงนั้น หอการค้า เห็นว่าในช่วงระหว่างนี้ยังสามารถรวบรวมเสียงจาก ส.ส. เข้ามาเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กระแสที่อยากให้ สว. เข้ามาร่วมโหวตให้การสนับสนุนนั้น หอการค้ามองว่า หากพรรคแกนนำได้มีการนำเสนอประเด็นและหลักการให้มีความชัดเจน เน้นสร้างความเข้าใจเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เชื่อว่า สว. จะมีการพิจารณา และให้การสนับสนุน


อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายห่วงว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่คงจะเป็นไปด้วยความ รวดเร็วและราบรื่น ซึ่งจะเห็นได้ว่าภายหลังผลการเลือกตั้งออกมากระแสของสื่อทั้งไทยและต่างประเทศต่างนำเสนอผลการเลือกตั้ง และแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลไปในทิศทางที่ดี ขณะที่ มุมมองภาคธุรกิจปัจจุบันยังมีความรู้สึกไม่แน่นอน และไม่ชัดเจน ว่าทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นอย่างไรสะท้อนได้จากทิศทางของตลาดหุ้นที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อผลการเลือกตั้ง นี่จึงเป็นความกังวลที่หอการค้าเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด

“นโยบายของว่าที่พรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคร่วม ที่หลายฝ่ายได้รับทราบกันมาแล้วนั้นส่วนหนึ่งเราได้เห็นภาพของนโยบายใหม่ๆ โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัย นโยบายด้านเศรษฐกิจปากท้อง การเพิ่มสวัสดิการประชาชน และนโยบายการศึกษา ที่มีความโดดเด่น และเชื่อว่าจะตอบโจทย์สถานการณ์ของประเทศที่กำลังต้องการแรงเสริมเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากกว่าที่คาดการณ์”นายสนั่นกล่าว

ส่วนการวางตัวบุคคลากรที่จะเข้ามาเป็นฝ่ายบริหารและทีมงานต่าง ๆ  คิดว่ามีความน่าสนใจและจะได้เห็นทีมบริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ ผสานกับบุคคลากรที่มีประสบการณ์ทั้งในด้านการเมือง การบริหารธุรกิจ ของสองพรรคแกนนำ และสิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นหลังจากรัฐบาลสามารถจัดตั้งได้ คือ 1. การลดต้นทุนในภาคธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ 2. นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟู SME Startup ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อ 3. นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน 4. เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เกิดความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส


อย่างไรก็ตาม โดยในระหว่างวันที่ 18-20 พ.ค.นี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารสัญจร ในพื้นที่ภาคใต้ ณ จังหวัดตรัง โดยหอการค้าไทย และหอการค้าภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด ได้มีการหยิบยกประเด็นข้อเสนอเพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการ โดยเห็นว่าการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งเงินทุนได้อย่างง่ายขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านเครดิตบูโร และเครดิตสกอริ่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อฟื้นฟูและขยายกิจการได้ และข้อเสนอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ให้มีความต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพ รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการขึ้นค่าแรงซึ่งภาคธุรกิจยังเห็นว่าจำเป็นต้องใช้กลไกของคณะกรรมการไตรภาคีที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด เข้ามามีส่วนกำหนดค่าแรงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และไม่เป็นภาระด้านต้นทุนของภาคธุรกิจ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีข้อกังวลถึงการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด ซึ่งหากยืดเยื้อถึงสิงหาคม อาจจะกระทบต่อกระบวนการพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 ซึ่งจะทำให้การอนุมัติงบประมาณอาจจะลากยาวส่งผลให้กว่าจะได้ใช้งบประมาณอาจจะถึงเดือนมีนาคมปีหน้า และหอการค้าไทยยังมีแผน จัดประชุมคณะกรรมการบริหารสัญจรในอีก 4 ภาคทั่วประเทศเพื่อรับฟังข้อเสนอในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแต่ละภาค เพื่อเป็นแนวทางในการผลักดันต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประเด็นเร่งด่วนเพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่ได้พิจารณาแนวทางการสนับสนุนและช่วยเหลือภาคธุรกิจทั่วประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.ขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2

ศาล รธน. 30 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากขยายเวลา นายกฯ ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหารอบ 2 คลิปสนทนา “ฮุนเซน” ถึง 4 ส.ค.นี้ ชี้อนุญาตเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ยื่นแจงถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ที่เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ผู้ถูกร้อง กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 และนางสาวแพทองธาร […]

โรงงานพลุระเบิด เสียชีวิต 9 ราย เจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุโรงงานพลุระเบิด ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง ความคืบหน้าเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านโพธิ์ทราย ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนหนึ่ง บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง รถยนต์ 1 คัน เบื้องต้นไม่พบใบอนุญาตทำพลุ เจ้าหน้าที่ EOD และพิสูจน์หลักฐานเร่งดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ดินปืนยังปะทุไม่หยุด ลูกสาวของคนงานรายหนึ่งที่เข้าไปทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า แม่ของตนปกติทำงานที่ไร่แตงโม เพิ่งมารับจ้างทำพลุลูกนกได้ประมาณ 2 วัน ตอนนี้พยายามโทรติดต่อแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์พลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เฉพาะที่ ต.บ้านโพธิ์ เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ปี 2549 ปี 2558 รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ […]

“พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญ ผช.ทูตทหารต่างชาติ ลงชายแดน

กลาโหม 30 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” สั่ง ทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูความเสียหายประชาชนจากการปฏิบัติของกัมพูชา พร้อมยืนยันประท้วงแน่ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ต้องบอกนานาชาติ ชี้เป็นธรรมชาติ “กัมพูชา” บิดเบือน แต่ไทยมีหลักฐานหมด ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ-เทคโนโลยี เข้าสู่กระบวนการเจรจา ยอมรับทำงานภายใต้แรงกดดัน วอนสื่อทำความเข้าใจ ชี้แจง ปชช. (30 ก.ค.68) เวลา 08.15 น. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีฝ่ายไทยเตรียมให้กองทัพบกประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่า จะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงนั้น […]

สภาฯ ยืนไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบชายแดน

รัฐสภา 30 ก.ค.- “สภาฯ” ยืนไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ครูมานิตย์” ชื่นชมทหารกล้า ลั่นถ้าไม่มีอาวุธที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตัวเอง เผย ไปนั่งเฝ้าที่ศูนย์อพยพ มีทั้งจิตตก ซึมเศร้า กินข้าวไม่ได้ ต้องกินกาแฟแทน เพราะคิดถึงบ้าน พร้อมเสนอลดค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านที่ผู้อพยพไปอยู่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงหารือ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือถึงปัญหาการสู่รายแดนไทย กัมพูชา ว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ที่เกิดเหตุรุนแรงการสู่รบในหลายจังหวัด ซึ่ง จังหวัดที่โดนรุนแรงมากที่สุดคือจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเพราะมีประสาทต่างๆแและอันดับสองคือจังหวัดศรีสะเกษซึ่งมีหลายมิติ แต่มิติแรกที่จบไปโดยตัวมันเองว่าทหารมีไว้ทำไม ถ้าไม่มีทหารไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยคนสุรินทร์ตายเป็นเบือ ดีไม่ดีรวมตนด้วย เพระายุทธวิธีในวันนั้นเห็นได้ชัด ก่อนที่จะชะลอการหยุดยิง เพราะตนยังไม่เชื่อว่าจะยุติโดยสิ้นเชิง เพราะตนอยู่ในพื้นที่ แต่ทหารเรามีความกล้าหาญและมียุทธวิธีที่ดีประคับประคองคิดพื้นที่ไม่ให้พี่น้องเราเดือดร้อนไปมากกว่านี้ “เสียใจกับ 15 วีรบุรุษ จึงขอฝากทางราชการว่าอะไรที่มอบให้เขาได้ใหญ่ก็มอบให้เถอะไม่ว่าจะเป็นการชดเชยให้กับครอบครัว หรือเพิ่มยศให้กับเขาให้โอกาสลูกของเขา ผมเกิดมาก็เพิ่งเห็นเที่ยวนี้ว่าเอฟ […]