“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

21 พ.ย. – “สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก


นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความ ให้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดมรรยาทนายความกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา

โดยนายสนธิกล่าวว่า สิ่งที่ทนายตั้มทำกับมาดามอ้อยนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการฉ้อโกงหรือฟอกเงิน แต่เป็นขบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้กฎหมายมาเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้ จึงจำเป็นต้องลงมาเล่นเอง ต้องไม่ให้คนแบบนี้มีที่ยืนในสังคม ล่าสุดตนได้รับมอบอำนาจจากมาดามอ้อยให้ดำเนินคดีและดำเนินกระบวนการทางยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ทนายตั้มฉ้อโกงทั้งหมด จึงมายื่นเรื่องในนามมาดามอ้อย ต่อสภาทนายความให้ดำเนินการเอาผิดทางมรรยาททนายความกับทนายตั้ม ซึ่งกระทำผิดไร้จรรยาบรรณ ส่วนทางสภาทนายความจะดำเนินการลงโทษทนายตั้มอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพักใบอนุญาตทนายความหรือถอดชื่อจากทะเบียนทนายความ ก็สุดแท้แต่สภาทนายความจะพิจารณา


นอกจากนี้ ตนยังได้ยื่นเรื่อง เพื่อเอาผิดมรรยาททนายความกับทนายเดชา เนื่องจากทำผิดจรรยาบรรณทนายความ หลังกล่าวหาตนโดยไม่มีพยานหลักฐาน เช่น กล่าวหาว่าตนฉ้อโกงเงินธนาคาร ตบทรัพย์สายการบินใหญ่ของประเทศ หรือตบทรัพย์นักการเมืองอาวุโสรายหนึ่ง พร้อมกันนี้ยังได้ยื่นพยานหลักฐานที่เป็นบรรดาโพสต์ Facebook ต่าง ๆ และการพูดวิเคราะห์ของทนายเดชา ซึ่งลืมตัวไปว่าเป็นทนายความ แต่ออกมาพูดสนุกปาก โดยตนหวังว่าทางสภาทนายความจะให้ความเป็นธรรมในกรณีนี้ และฝากถึงทนายเดชา ให้รอรับของขวัญจากตนได้เลยในเดือนธันวาคมนี้

นายสนธิยังได้เล่าต่อไปว่า มาดามอ้อยพบเจอกับทนายตั้มได้จากการโพสต์ Facebook ซึ่งลักษณะการโพสต์เป็นการอวยตัวเอง ซึ่งตนมองว่า หมดยุคหมดสมัยแล้วที่ทนายต้องมาโอ้อวดตัวเองในโลกออนไลน์ รวมทั้งการโอ้อวดดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณภาพและเป็นการหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองต้องออกมาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เพราะทนายตั้มมีความยิ่งใหญ่มากจนไม่มีใครกล้ามาแตะ แต่สำหรับตนแล้ว ไม่ว่าใครจะมีความยิ่งใหญ่แค่ไหน หากมีความอยุติธรรมเกิดขึ้น ตนรับไม่ได้และจะจัดการเรื่องนั้น

ส่วนการที่ตนได้รับมอบอำนาจจากมาดามอ้อยให้รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับทนายตั้มทั้งหมดนั้น ตนในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจขอยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้นกับทนายตั้มเด็ดขาด จะดำเนินคดีจนสุดซอย ถ้าซอยมันตันตนก็จะทะลุซอยออกไป เพราะกรณีของมาดามอ้อยนั้นเป็นการต่อสู้กับผู้ที่รู้เรื่องทางกฎหมายและได้ตระเตรียมสร้างพยานหลักฐานเอกสารเท็จมาต่อสู้คดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำสัญญาปลอมและพินัยกรรมปลอม ฉะนั้น ทนายตั้มและทีมงานในคดีนี้ ไม่ว่าใครก็ตาม นอกจากจะถูกดำเนินคดีฉ้อโกงและฟอกเงินแล้ว ก็อาจจะถูกดำเนินคดีฐานอั้งยี่ซ่องโจรซึ่งเป็นอาญาแผ่นดินและยอมความไม่ได้


โดยนายสนธิ ได้เล่าย้อนต่อไปว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ทนายสายหยุดซึ่งเป็นทนายความของทนายตั้ม ได้แจ้งมาผ่านทนายความของมาดามอ้อยว่า ประสงค์ที่จะขอเจรจาจ่ายเงินเพื่อให้มาดามอ้อยยุติคดี ทั้งมาดามอ้อยและคุณน้อยซึ่งเป็นเลขาส่วนตัวจึงได้มาปรึกษากับตน ตนจึงได้บอกไปว่า เป็นสิทธิ์ของมาดามอ้อย เพราะเงินดังกล่าวเป็นของมาดามอ้อย แต่คดีความดังกล่าวนั้นมีทีมงานของตนช่วยกันเปิดโปงพร้อมกับสื่อมวลชนหลายสำนัก มีประชาชนเป็นจำนวนมากทั่วทั้งประเทศที่ให้กำลังใจมาดามอ้อย อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนร่วมร้อยกว่านายที่ลงมาทำคดีดังกล่าว จึงต้องคิดถึงความรู้สึกของกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย นั่นจึงทำให้มาดามอ้อยบอกกับตนว่า เรื่องนี้ให้ตนเป็นผู้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวและพร้อมจะปฏิบัติตามทุกอย่าง เพราะถือว่าตนเป็นคนเดียวที่กล้าออกมาเสี่ยงกับทนายตั้มที่มีความสนิทสนมกับนายตำรวจระดับสูง ตนไม่มีอะไรต้องกลัวกลุ่มคนเหล่านี้ เลยเป็นที่มาที่ทำให้เมื่อคืนนี้หลังจากมาดามอ้อยสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามแล้วเสร็จ จึงได้ทำหนังสือมอบอำนาจมาให้ตนเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้แต่เพียงผู้เดียว ก่อนมาดามอ้อยจะเดินทางกลับฝรั่งเศสในวันนี้

อนึ่ง นายสนธิตั้งข้อสังเกตว่า การที่ทนายสายหยุดอ้างว่ามาเจรจากับทนายความของมาดามอ้อยด้วยตนเอง ทนายตั้มไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนมองว่าทนายสายหยุดน่าจะลืมที่เคยกล่าวกับสื่อมวลชนเอาไว้ว่า ไม่สามารถทำอะไรเองได้หากไม่ได้ถามลูกความ จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันเอง

นายสนธิ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ภายในเดือนธันวาคม ตนจะไปยื่นเรื่องกับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบว่า เงินจำนวน 71 ล้านบาทที่ทนายตั้มได้มา ซึ่งแน่ชัดว่าไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการให้โดยเสน่หานั้น ได้ดำเนินการเสียภาษีเงินได้หรือไม่ รวมทั้งให้ตรวจสอบเงินค่าจ้างที่มาดามอ้อยโอนให้ทนายตั้มเดือนละ 300,000 บาท รวม 12 เดือนเป็นเงิน 3.6 ล้านบาท ซึ่งทนายตั้มได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีของพี่สาว อยากให้ตรวจสอบว่าเงินก้อนนี้มีการเสียภาษีหรือไม่ อีกทั้งขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของพี่สาวทนายตั้ม เพราะทราบว่าเป็นแม่บ้านผู้ถือบัญชีเงินคอยรับเงินเข้าออกจากทนายตั้มว่ามีเส้นเงินที่ผิดกฎหมายหรือไม่และเสียภาษีถูกต้องหรือไม่.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” นักแสดงตลกดัง เสียชีวิตในวัย 57

ปิดตำนาน “อาฉี เสียงหล่อ” หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เสียชีวิตในวัย 57 ปี ญาติและทีมงานทำใจไม่ได้ เผยเตรียมกลับมาในแพลตฟอร์มต่างๆ อีกครั้ง แต่มาเสียชีวิตก่อน

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น