เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนา

โซล 20 ส.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้คาดว่า ทางการจะลดระดับการติดเชื้อของโรคโควิด-19 ลงเป็นระดับต่ำสุดเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในเดือนสิงหาคมนี้ ปัจจุบันเกาหลีใต้ให้โรคโควิด-19 มีระดับการติดเชื้อที่ระดับ 2 เท่ากับโรคสุกใสและโรคหัด หากลดลงเป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด จะเท่ากับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้จะเปิดประชุมวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม และคาดว่าจะประกาศเรื่องการลดระดับการติดเชื้อในวันพุธ แต่จะมีผลเมื่อใดอาจต้องขึ้นกับมาตรการที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญจะดำเนินการเพื่อป้องกันผู้ป่วยความเสี่ยงสูง และการให้ความสนับสนุนทางการแพทย์แก่ผู้ติดเชื้อ ข้อมูลของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) ระบุว่า ช่วงวันที่ 6-12 สิงหาคม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 349,279 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากสัปดาห์ก่อนหน้า อัตราการเพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม ขณะที่อัตราการเสียชีวิตยังทรงตัวที่ร้อยละ 0.03.-สำนักข่าวไทย

ซีดีซีของจีน เผยภาพรวมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เอ็กซ์บีบี ทั่วประเทศจีน อยู่ในสภาพคงที่และควบคุมได้

โซล 13 พ.ค.- เกาหลีใต้พบผู้ติดโรคโควิด-19 รายใหม่ต่ำกว่าวันละ 20,000 คนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันนี้ หลังจากประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดเกือบทั้งหมดเพื่อกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) แจ้งว่า พบผู้ติดโควิดรายใหม่ 19,352 คน ในจำนวนนี้เดินทางมาจากต่างประเทศ 30 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบการระบาดจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 31 ล้าน 3 แสน 9 หมื่น 699 คน ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ลดลงเล็กน้อยจาก 19,989 คนเมื่อวันศุกร์ แต่สูงกว่าเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว 7,000 คน ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้น 6 คนในวันนี้ ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมที่ 34,597 คน ส่วนยอดผู้ป่วยอาการหนักยังคงทรงตัวที่ 153 คน ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้ประกาศในการประชุมรับมือโรคโควิด-19 เมื่อวันศุกร์ ยกเลิกมาตรการจำกัด เกือบทั้งหมด เท่ากับจัดให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป […]

องค์การอนามัยโลกปรับคำแนะนำสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยพิจารณาจากภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้น หลังจากประชาชนจำนวนมากได้รับการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อ

วอชิงตัน 21 มี.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐลงนามร่างกฎหมายที่กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐเรื่องโรคโควิด-19 ระบาดอาจมีความเกี่ยวข้องกับห้องทดลองปฏิบัติการหรือห้องแล็บในเมืองอูฮั่นของจีน ประธานาธิบดีไบเดนแถลงว่า จำเป็นต้องค้นหาลึกลงไปถึงต้นตอของโควิด-19 รวมถึงความเชื่อมโยงกับสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น รัฐบาลจะปฏิบัติตามร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วยการเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้เกี่ยวกับต้นตอโควิด ประธานาธิบดีไบเดนเคยกล่าวในปี 2564 หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นานว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านข่าวกรองใช้ทุกวิถีทางสอบสวนเรื่องต้นตอโควิด และจะเปิดเผยให้มากที่สุดโดยไม่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติ เอเอฟพีมองว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นความเสี่ยงทางการเมืองต่อไบเดนที่กำลังเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในขณะที่ความสัมพันธ์ร้าวฉาน เพราะจีนยืนกรานปฏิเสธว่าโควิดระบาดทั่วโลกไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสเล็ดลอดขณะมีการวิจัยที่ห้องแล็บในอู่ฮั่น แต่สมาชิกสภาสหรัฐส่วนใหญ่โดยเฉพาะพรรครีพับลิกันต้องการเดินหน้ากดดันจีน และได้ผ่านร่างกฎหมายในเดือนนี้กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐเกี่ยวกับต้นตอโควิด.-สำนักข่าวไทย

โซล 19 มี.ค.- เกาหลีใต้จะยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยบนยานพาหนะขนส่งมวลชนตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมนี้ หลังจากใช้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 การยกเลิกดังกล่าวครอบคลุมทั้งรถไฟใต้ดิน รถโดยสาร รถแท็กซี่ และเครื่องบิน มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลังจากเกาหลีใต้ได้ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิดเกือบทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ยกเว้นยานพาหนะขนส่งมวลชน โรงพยาบาลและสถานที่เสี่ยงสูงบางแห่ง ขณะที่ยอดผู้ติดโรคโควิด-19 รายใหม่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผลสำรวจเมื่อวันที่ 7 มกราคมพบว่า ผู้ตอบ 7 ใน 10 คนจะสวมหน้ากากอนามัยต่อไปเพื่อปกป้องสุขภาพแม้ว่าทางการจะยกเลิกการบังคับก็ตาม สำหรับสถานที่ที่ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไปประกอบด้วยสถานที่ทางพยาบาล ร้านขายยา บ้านพักคนชรา และสถานที่ที่เสี่ยงติดเชื้อสูง ยกเว้นร้านขายยาในสถานที่สาธารณะ เช่น ร้านขายสินค้าราคาย่อมเยา สถานีรถไฟ รัฐบาลจะตัดสินใจเรื่องจะยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ข้างต้นหรือไม่ในปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม เพราะองค์การอนามัยโลกอาจจะมีมติในการประชุมสิ้นเดือนเมษายนเรื่องลดระดับความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระดับโลก.-สำนักข่าวไทย