กำแพงเพชร 21 พ.ย. – ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน
กรณีก่อนหน้านี้มีคลิปสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ให้เด็กใช้ผ้าปิดตา อธิษฐานจิต ทายตัวเลขและสีในกระดาษที่เขียนไว้ รวมถึงให้ปิดตาปั่นจักรยาน อ้างว่าเป็นการฝึกเรียนให้มี “หูทิพย์ ตาทิพย์” ที่หนักกว่านั้นคือให้ผู้มาปฏิบัติธรรมไปนั่งสมาธิกรรมฐานกับศพ อ้างว่าหากฝึกจิตได้จะทำให้มองเห็นสิ่งที่ถูกบังตาไว้ได้
เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ไป ช่วงต้นสัปดาห์ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข สำนักพุทธฯ ได้เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์ พบว่ามีเนื้อที่ประมาณ 92 ไร่ และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสำนักสงฆ์ ส่วนผู้ที่อยู่ในสำนักสงฆ์ ในวันที่ตรวจสอบมีพระ 4 รูป แม่ชี 4 คน ผู้ถือศีลปฏิบัติธรรม 3 คน ส่วนหัวหน้าสำนักสงฆ์ มีชื่อว่า พระปราโมช
พระลั่นคลิปเก่า-ทดลองให้เด็กปิดตาทายเล่นๆ
พระปราโมช บอกกับทุกคนว่าคลิปสอนหูทิพย์ ตาทิพย์ ให้เด็ก เป็นแค่การฝึกสมาธิให้กับลูกหลานของผู้มาปฏิบัติธรรม ก่อนจะมีการทดลองปิดตาเล่นกันว่าเมื่อฝึกสมาธิแล้วปิดตาจะมองเห็นภาพที่นำมาทายหรือไม่ และคลิปดังกล่าวถ่ายไว้เมื่อ 5 เดือนก่อน ปัจจุบันไม่ได้เปิดสอนหูทิพย์ ตาทิพย์ แต่อย่างใด
ส่วนศพที่นำมาให้ผู้ปฏิบัติธรรมฝึกจิตใจนั้น ยืนยันว่าทั้งศพและโครงกระดูก ญาติของผู้เสียชีวิตนำมามอบให้เอง โดยบอกว่าให้ใช้เพื่อการสอนวิปัสสนากรรมฐาน ขณะที่มีบางศพเป็นของพระและแม่ชี
พบ 12 ศพ-โครงกระดูกโผล่ในสำนักฝึกหู-ตาทิพย์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวนำมาสู่การเข้าค้นสำนักสงฆ์อีกครั้งเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) การค้นตลอดเช้าไปถึง 6 โมงเย็น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำแพงเพชร พบศพจำนวน 12 ศพ จากเพิงที่ใช้พักศพ 17 จุด โดยที่ศพส่วนใหญ่ถูกโรยเกลือป้องกันกลิ่นเหม็นเน่า การพบศพทั้งหมดนี้เรียกว่ามากกว่าข้อมูลเดิมที่ได้รับจากพระปราโมช ที่ตอนแรกบอกว่ามีแค่โครงกระดูก 7 ศพ
นอกจากการพบศพเพิ่มในเพิงพักศพ เจ้าหน้าที่ยังพบหลุมฝังศพอยู่รอบพื้นที่ แต่การตรวจสอบไม่พบศพหรือโครงกระดูก ทำให้คาดว่าถูกขุดออกไปก่อนหน้า ซึ่งในประเด็นนี้ พระปราโมชอ้างว่านำไปเผาแล้ว พร้อมนำเอกสารเกี่ยวกับศพและโครงกระดูกที่ถูกพบมามอบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อยืนยันว่าศพถูกนำมามอบให้จริง
หัวหน้าสำนักโร่มอบเอกสารแจง ทุกศพญาติบริจาคให้เอง
การตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นปรากฏว่า 10 ศพ มีสำเนาใบมรณบัตรที่ญาตินำมามอบให้กับสำนักสงฆ์ และอีก 2 ศพ เป็นชาย 1 ศพ หญิง 1 ศพ แม้ไม่มีใบมรณบัตร แต่มีเอกสารการอุทิศร่างที่ญาตินำมามอบให้ไว้ หากไล่เรียงตามบัญชีรายชื่อศพที่ถูกนำมามอบให้สำนักสงฆ์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีมาจากทั่วสารทิศ ดังนี้
1.พระอรุณ ถูกส่งมาจาก จ.พิจิตร สภาพศพอยู่ในโลงแก้ว และยังคงสภาพเดิม ผิวหนังแห้งติดกระดูก
2.นายตี๋ ถูกส่งมาจาก จ.ลำปาง สภาพศพโรยเกลือและหยวกกล้วย สภาพศพยังสมบูรณ์ แต่ผิวหนังแห้งติดกระดูก
3.นายเฉลิมชัย มาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ศพแห้งหนังติดกระดูก ทาขมิ้นทั้งตัว
4.นางสาวสายพิณ มาจาก จ.นนทบุรี สภาพร่างเป็นโครงกระดูกแยกชิ้นส่วน
5.นายบุญเลิศ มาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ศพแห้งหนังติดกระดูก ทาขมิ้นทั้งร่าง
6.นางปราณี มาจาก จ.นครราชสีมา ศพแห้งหนังติดกระดูก ลักษณะศพสมบูรณ์
7.นายจำรัส มาจาก จ.กำแพงเพชร ศพแห้งหนังติดกระดูก แต่ถูกห่อด้วยผ้าขาว
8.นายดำเนิน มาจาก จ.อำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่พบในสภาพเป็นโครงกระดูกแยกชิ้นส่วน
9.นายเจอ มาจาก จ.นครสวรรค์ ศพแห้งหนังติดกระดูก ทาขมิ้นทั้งร่าง
10.นายนันทวัฒน์ มาจาก กทม. ศพถูกโรยเกลือ หยวกกล้วย และถ่าน สภาพศพยังคงสมบูรณ์ ผิวหนังแห้งติดกระดูก
- นายบัญชา มาจาก จ.กำแพงเพชร ศพถูกโรยเกลือ หยวกกล้วย ผิวหนังแห้งติดกระดูก
- นางสาวมลธิดา มาจาก จ.อุดรธานี เป็นโครงกระดูกแยกชิ้นส่วน
เก็บดีเอ็นเอตรวจยืนยัน-เอาผิด หน.สำนักเก็บศพ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าศพและโครงกระดูกตรงตามเอกสารที่พระปราโมชได้นำมาแสดงหรือไม่ พิสูจน์หลักฐานและแพทย์จึงตัดเก็บชิ้นส่วนศพและโครงกระดูก ส่งให้พิสูจน์หลักฐาน 5 จ.ลำปาง ตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับญาติ ส่วนศพและโครงกระดูกทั้งหมด พนักงานสอบสวนได้อายัดและประสานวัดคูหาสวรรค์ ในการเก็บรักษาระหว่าง รอจนผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ
ขณะที่การเอาผิดกับสำนักสงฆ์ เบื้องต้นสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และสำนักพุทธฯ เห็นตรงกันว่าการกระทำเกี่ยวกับศพในพื้นที่เข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถาน พ.ศ. 2528 จึงดำเนินการเอาผิดกับพระปราโมช ในข้อหา “เก็บ ฝัง หรือเผาศพในสถานที่อื่นนอกจากในสุสานและฌาปนสถาน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท ส่วนความผิดอื่นอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน .-สำนักข่าวไทย