“เดชอิศม์” มองจัดงบ 1.57 แสนล้าน กระจุกตัวจนดูน่าเกลียด

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “เดชอิศม์” โวยกลางครม.จัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านน่าเกลียด กระจุกตัวพื้นที่น้ำเงิน กระบี่-สตูล-บุรีรัมย์ ทำอนุกลั่นกรองต้องทบทวนใหม่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการขอหารือการใช้งบประมาณ กระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทของท้องถิ่น ซึ่งยังมีส่วนที่เหลืออีกกว่า 4 หมื่นล้านบาท ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ว่า งบประมาณในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่ามีการกระจุก บางพื้นที่เป็นอบต. ขนาดเล็ก ได้งบประมาณถึง 60-70 ล้านบาท แต่บางพื้นที่กลับไม่มีการจัดส่งงบประมาณลงไป ตนจึงท้วงติงว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องกระจายอย่างทั่วถึง เหมือนกันทุกพื้นที่ ซึ่งได้รับคำตอบว่า ยังไม่ผ่าน เนื่องจากยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณลงไป ตนจึงถามต่อว่า จะมีการจัดสรรงบประมาณใหม่ได้หรือไม่ เนื่องจากช่วงนั้นเทศบาลต่างๆ เพิ่งได้รับการเลือกมา ยังไม่ได้รับการรับรองจาก กกต. ทำให้เขาเสียโอกาส ซึ่งทางที่ประชุมครม. ได้ให้ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปตรวจดูว่าสามารถเกลี่ยงบประมาณไปยังพื้นที่ใดบ้าง ก่อนยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ใดได้งบประมาณดังกล่าว ซึ่งคณะอนุกรรมการฯชุดดังกล่าว จะมีการประชุมภายใน 1-2 วันนี้ ว่าจะให้คำตอบอย่างไรได้บ้าง […]

ทบ.แจงทหารกัมพูชาไม่ได้ยึดภูมะเขือฝ่ายเดียว ย้ำแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี

16 ก.ค. – ทบ.แจงทหารกัมพูชาไม่ได้ยึดภูมะเขือฝ่ายเดียว ยันภูมะเขือเป็นพื้นที่ทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิ ย้ำไทยยึดมั่นในจุดยืนไม่รุกรานใคร แก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ส่วนกระแสข่าวว่าทหารเขมรยึดภูมะเขือ ใกล้ๆ กับปราสาทrระวิหาร มีการสร้างกระเช้า สร้างบันไดขึ้นมา พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ปัจจุบันมีทั้งฐานปฏิบัติการทางทหารของไทยและกัมพูชา วางกำลังเผชิญหน้ากัน ไม่ใช่มีเฉพาะทหารกัมพูชาฝ่ายเดียว และที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา ไม่ได้ล้ำเส้นปฏิบัติการตามแผนที่ 1:50,000 ของไทย โดยพื้นที่ “ภูมะเขือ” เป็นประเด็นพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา มาตั้งแต่ปี 2554 โดยฝ่ายกัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ตีความคำพิพากษาเดิม โดยเฉพาะพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร ปัจจุบันต่างอ้างสิทธิ โดยไทยยึดถือเส้นแนวสันปันน้ำ ตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ของกรมแผนที่ทหาร ส่วนฝ่ายกัมพูชา ยึดถือแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ในห้วงเกิดข้อพิพาท ทั้งสองฝ่ายได้เคลื่อนกำลังเข้าแย่งยึดพื้นที่กัน ซึ่งตอนนี้ก็ตั้งฐานทั้ง 2 ฝ่าย ในอดีตการเข้าถึงพื้นที่ด้านบนของภูมะเขือทางฝั่งกัมพูชา ใช้วิธีการสร้างกระเช้าและบันได เป็นทางขึ้นสู่ยอดภูเขา เนื่องจากสภาพภูมิประเทศฝั่งกัมพูชามีลักษณะลาดชัน ในระยะหลังฝ่ายกัมพูชาสร้างถนนลัดเลาะตามไหล่เขาในเขตกัมพูชา เพื่อใช้เป็นทางขึ้นสู่ด้านบนของภูมะเขือ สำหรับการสร้างกระเช้าและถนนขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ ฝ่ายไทยเห็นว่าเข้าข่ายเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม แม้ไม่ได้ล้ำแนวเส้นปฏิบัติการของทหารไทย แต่ถือว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงตาม MOU […]

“ประภา​-อรอุมา” จับมือแถลง​ ไปต่อกับภูมิใจไทย​

พรรคภูมิใจไทย 15 ก.ค.-“ประภา​-อรอุมา” จับมือแถลง​ ยืนยันไปต่อกับภูมิใจไทย ​ไม่เคยคิดย้ายพรรค ย้ำเจตนา​ หวังถอนกาสิโน​ ชี้​ประชาชนพื้นที่เข้าใจ​ ภายหลังการประชุมสส.พรรคภูมิใจ​ไทย​เสร็จสิ้นนางสาวประภา​ เฮงไพบูลย์​ สส.กาฬสินธุ์ และนางอรอุมา​ บุญศิริ​ สส.​บึงกาฬ ได้มาร่วมแถลงความชัดเจนภายหลังโหวตร่าง พ.ร.บ.ประธุรกิจ​สถานบันเทิงครบวงจร​ หรือ​ เอ็น​เ​ต​อร์เท​นเมนต์​คอมเพล็กซ์​ สวนกับมติพรรค​ นางอรอุมา​ กล่าวทำความเข้าใจและชี้แจงต่อประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าสิ่งที่ตนได้กดโหวตลงไป จริงๆแล้วตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่​ ที่ไม่ต้องการให้มีกาสิโนเกิดขึ้น และเป็นความผิดพลาดเข้าใจผิดที่ไม่ตรงกันกับพรรค พร้อมยืนยันว่า​ ไม่เคยมีความที่จะย้ายออกไปจากพรรคภูมิใจไทย​ เพราะโตที่นี่​ เกิดที่นี่ และยืนยันเหมือนเดิมในเรื่องพรรค​ ว่าตนพร้อมที่จะสู้และเคียงข้างไปกับพรรคภูมิใจไทย และขอโทษประชาชนที่กำลังสับสนอยู่ ด้านนางสาวประภา กล่าวว่า​ ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ให้โอกาสตนมาเป็นผู้แทนราษฎร​ ไม่ต้องการให้เกิดกาสิโน​ ซึ่งเราทำตามความต้องการของประชาชน​ แต่ขอยืนยันว่านโยบายต่างๆของพรรคภูมิใจไทย เป็นนโยบายที่ช่วยแก้ไขปัญหา​ มีการพัฒนาในหลายเรื่องในหลายรูปแบบ​ ซึ่งตนทำตามมาโดยตลอดก่อนยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคภูมิใจไทย แต่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น​ ตนต้องขอโทษประชาชนที่อาจจะทำให้ประชาชนสับสน​ พร้อมกับระบุว่า​ ประชาชนในพื้นที่เข้าใจว่าการลงมติเป็นการถอดถอน​ เพื่อไม่ให้ต้องการให้กาสิโน ตนเป็นสส.มาสองปี​ทราบถึงปัญหาในพื้นที่ได้คลี่คลาย​ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความชอบ​ และชื่นชมในพรรค ขณะที่นายชูกัน​ กุลวง​ษา สส.นครพนม แม้จะไม่ได้เดินทางมาในวันนี้มีการยืนยันกลับมาแล้วว่าป่วย และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล […]

ภูมิใจไทย ตั้งสอบ 3 สส.โหวตสวนมติพรรค

พรรคภูมิใจไทย 15 ก.ค.-ภูมิใจไทยตั้งคณะกรรมการ สอบ 3 สส.โหวตสวนมติพรรค ปม พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รับถูกยื่นข้อเสนอ 8 หลัก 9 คน เปรยเป็นคนอยู่ในระดับเสียงดัง มีตำแหน่งน่าเชื่อถือ ย้ำ สส.ภูมิใจไทย มีคุณภาพ ไม่ว่าอยู่ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล พร้อมทำงานเต็มที่ นางสาวแนน บุญย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงผลหลังการประชุมพรรค ถึงกรณี 3 สส.โหวตสวนมติพรรค ว่า ตามที่เป็นข่าวในรอบสัปดาห์ก่อน เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย เราต้องการข้อเท็จจริงให้กระจ่างและสามารถตอบกับสมาชิกทุกท่านได้ในเรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องต้นขอแจ้งถึงแนวทางการลงมติของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ต้องการให้ถอนร่างออกไปเท่านั้น แต่เราต้องการให้ร่างนี้ตกไปเลย จึงอยากให้เข้าสู่การพิจารณาวาระแรก เพื่อให้ สส.ทั้งหมดโหวตคว่ำ เหมือนเป็นสัญญาอย่างหนึ่ง เวลาอีกครึ่งปีจะไม่สามารถเสนอบอดังกล่าวเข้ามาใหม่ได้ และประชาชนจะเข้าใจเนื้อหาและรายละเอียดที่แท้จริง จึงเป็นเหตุว่าทำไมถึงมีการโหวตแบบนั้นในวันนั้น ก่อนย้ำว่า ไม่ได้ต้องการให้ถอน แต่เราต้องการให้ตีตกไปเลย ขณะเดียวกัน พรรคได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นประธานกรรมการ ซึ่งระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรอบระยะเวลาในการสอบข้อเท็จจริงคณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนด ทั้ง 3 […]

“ภูมิธรรม” มอบ 5 นโยบายขับเคลื่อนกรุงเทพฯ

ก.มหาดไทย 15 ก.ค.-“ภูมิธรรม” มอบ 5 นโยบายขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครสู่เมืองแห่งความสุขที่ยั่งยืน พร้อมย้ำแนวทาง “เร่งด่วน-จริงจัง-ตรงจุด-ยั่งยืน” เพื่อแก้ไขปัญหาชาวกรุงอย่างมีประสิทธิภาพ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานมอบนโยบายสำคัญเร่งด่วนให้กับกรุงเทพมหานคร ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (หลังเก่า) อาคารสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พญ.วันทนี วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม นายภูมิธรรม กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายจำนวนมากในพื้นที่เมืองหลวงแห่งนี้ในฐานะเมืองศูนย์กลางของประเทศ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการบริหารจัดการเมืองที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการจราจรและขนส่งมวลชน ปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไปจนถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชีวิตของประชาชนในระดับพื้นที่ กระทรวงมหาดไทยในฐานะกำกับดูแลการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร จึงขอให้กรุงเทพมหานครนำนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลมาร่วมดำเนินการขับเคลื่อนและพัฒนากรุงเทพมหานครให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม ได้แก่ 1.การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นบ่อเกิดของอาชญากรรม ความรุนแรง และความไม่สงบสุขในชุมชน และเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงทั้งในระดับบุคคล […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

“เอกพร” สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยคนใหม่

กรุงเทพฯ 15 ก.ค.-“เอกพร” สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยคนใหม่ แทน “สุชาติ ตันเจริญ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ผู้ที่อยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็น สส.แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากนายสุชาติ ตันเจริญ ลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงเลื่อนนายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อลำดับที่ 38 ขึ้นมาเป็นสส.แทน โดยในวันที่ 16 ก.ค. เวลา 08.40 น. นายเอกพร จะเข้ารายงานตัวการเป็น สส. ก่อนเข้าปฏิญาณตนในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อปฎิบัติหน้าที่ต่อไป.-312.-สำนักข่าวไทย

กกต. แจงไม่จริง เตรียมพิจารณาคำร้องยุบ 6 พรรค

กกต. 15 ก.ค.- กกต. ยันข่าวเตรียมพิจารณาคำร้องยุบ 6 พรรคการเมืองครอบงำไม่จริง ยังอยู่ชั้น สนง.ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เผยขั้นตอนอีกยาวกว่าจะถึงมือ กกต. ขอสื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเสนอ หวั่นประชาชนสับสน สำนักงาน กกต.ออกเอกสารชี้แจงรายงานข่าวว่า “วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 สำนักงาน กกต.จะพิจารณา 6 คำร้อง ที่ร้องขอให้ กกต.สั่งยุบ พรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค ถูกกล่าวหาว่าครอบงำ ชี้นำ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรค” ว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้คำร้องดังกล่าว อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของสำนักงาน กกต. ยังไม่ได้เสนอ กกต.พิจารณาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด หากพรรคการเมืองหรือผู้ใดมีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ตามมาตรา 28 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใด อันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง […]

“วิญญัติ” เผยไม่หนักใจสู้คดีชั้น 14 ลุ้นศาลเรียกพยานสำคัญ 1 ปาก

ศาลฎีกา 15 ก.ค.-“วิญญัติ” เผยไม่หนักใจสู้คดีชั้น 14 หลังไต่สวนผ่านมา 4 นัด รายงาน “ทักษิณ” ทุกครั้ง รอลุ้นศาลมีคำสั่งเรียกพยานสำคัญ 1 ปาก จากที่เคยยื่นไป 3 ปาก ส่วนอีก 2 ปาก ศาลเรียกไต่สวนแล้ว ไม่ขอพูด “ฮุนเซน” โพสต์เกี่ยวกับ “ทักษิณ” นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนว่า ศาลนัดไต่สวนพยานจำนวน 6 ปาก ทั้งหมดก็ได้เบิกความต่อศาลตามข้อเท็จจริงที่ศาลให้ความสนใจและสงสัย และเปิดโอกาสให้ทนายโจทย์และทนายจำเลยได้ถาม โดยในส่วนของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เบิกความบางตอนที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ที่ใช้เวลานานเกิน 120 วัน ซึ่งศาลอยากได้ข้อมูลเชิงสถิติของกรมราชทัณฑ์ นอกจากนี้ยังให้รายงานเรื่องของข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งองค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (ข้อกำหนดแมนเดลา – Mandela Rules) ในฐานะประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกสหประชาชาติ เราได้คำนึงถึงการปฏิบัติการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้ได้รับสิทธิ์การรักษาตัว ซึ่งศาลอยากทราบข้อมูลเพื่อจะนำไปพิจารณาประกอบคำร้อง โดยขอให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้ที่เกี่ยวข้องส่งเอกสารภายใน 7 วัน นายวิญญัติ เปิดเผยว่าการนัดไต่สวน นัดต่อไปคือวันที่ 18 กรกฎาคม จะเป็นการไต่สวนผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ และทีมแพทย์ผู้ทำการรักษา […]

“หมอวรงค์” ระบุคดี “ทักษิณ” ป่วยวิกฤติ ใกล้จบแล้ว

ศาลฎีกา 15 ก.ค.-“ชาญชัย” เผยพบพิรุธหลังไต่สวนพยาน 6 ปาก เตรียมเปิดหลักฐานค่ารักษา “ทักษิณ” ชี้ไม่ควรปิดกั้นสื่อในการทำข่าว ด้าน “หมอวรงค์” ระบุคดีนี้ใกล้จบแล้ว นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี และนายสมชาย แสวงการ อดีต สว. มาฟังศาลไต่สวนคดีนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก แต่ไม่ได้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ และถูกส่งไปพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่าวันนี้มีการไต่สวนมีทั้งหมด 6 ปาก ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ระดับผู้บัญชาการเรือนจำ ของกรมราชทัณฑ์ มีสิ่งที่ศาลไต่สวนข้อเท็จจริง พบมีพิรุธเยอะมาก รวมทั้งแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งโยงไปถึงโรงพยาบาลตำรวจด้วย ซึ่งตนได้ยื่นเรื่องกับสื่อมวลชนในฐานะที่เป็นผู้นำเรื่องมาเสนอที่มีความปรากฏต่อศาลจนกระทั่งมีการไต่สวน รวมถึงทนายความของนายทักษิณ ที่บอกว่าไม่ได้ติดค้างอะไร แต่ก็พยายามที่จะปิดปากไม่ให้สื่อฯ ลงข่าวข้อเท็จจริง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องของการขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ให้สื่อมวลชนเสนอข้อเท็จจริง ในวันนี้ก็ขอให้ศาลเปิดเผยข้อมูล คือให้อยู่ในกรอบภาพรวมที่สามารถอธิบายได้ ซึ่งเรื่องนี้หากเป็นตนจะขอให้เปิดข้อมูลทั้งหมดเลย เพื่อพิสูจน์ความจริงที่บอกว่าตนเองไม่ผิด ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจว่าไม่ผิด ซึ่งหากความจริงปรากฏจะเสียวไส้กับคนที่ไปช่วยนายทักษิณ มีโอกาสที่จะติดคุกแทน และตนฟังดูว่าเหมือนเอาคนอื่นไปติดคุกแทน เพราะเป็นคนพานายทักษิณ ไปนอนโรงพยาบาล […]

ศาลซักแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ถึงศักยภาพรักษา “ทักษิณ”

ศาลฎีกา 15 ก.ค.-ศาลซักแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ถึงศักยภาพรักษาอาการป่วย “ทักษิณ” เข้าขั้นวิกฤตหรือไม่ เทียบอาการป่วยคนวัยเดียว-โรคเดียว นัดถัดไป 18 ก.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนกรณีการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 คดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568นัดที่ 4 ช่วงบ่าย เป็นการไต่สวนพยานต่ออีก 2 ปาก โดยใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ในการไต่สวนนายแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งศาลได้สอบถามนายแพทย์พงศ์ภัค อารียาภินันท์ แพทย์ทัณฑสถาน ถึงศักยภาพในการรักษาของโรงพยาบาลราชทัณฑ์กับอาการป่วยของนายทักษิณ ที่พยาบาลได้บันทึกไว้ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ว่า เข้าขั้นป่วยวิกฤตหรือไม่ สามารถตรวจรักษาได้โดยไม่ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจได้หรือไม่ รวมถึงบันทึกการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในแต่ละวัน ว่ามีอาการดีขึ้นหรือไม่ และยังได้นำประวัติการตรวจรักษาผู้ป่วยที่มีอาการและวัยใกล้เคียงกับอาการป่วยของนายทักษิณ ที่เคยส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอก แต่เพียง 1 วันก็สามารถกลับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ ซึ่งนายแพทย์พงศ์ภัค ระบุว่า เป็นหมอรักษาโรคหัวใจ ให้ความเห็นในฐานะแพทย์ แต่ไม่ใช่แพทย์ผู้ตรวจรักษานายทักษิณ หากดูจากบันทึกอาการของพยาบาลทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ สามารถรักษาได้ มียาตามอาการ แต่หากมีอาการอื่นเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับระบบประสาท […]

โฆษกเพื่อไทย สอน ภูมิใจไทย ฝ่ายค้านมือใหม่

พรรคเพื่อไทย 15 ก.ค.-โฆษกพรรคเพื่อไทย สอน ภูมิใจไทย ฝ่ายค้านมือใหม่ ต้องหาเสียงอย่างสร้างสรรค์-นำเสนอนโยบายแก้ปัญหาประชาชน ลดละเลิกวาทกรรมสร้างความแตกแยก นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ปราศรัยการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษโจมตีรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยว่า ในหาเสียงเลือกตั้งควรจะนำเสนอนโยบายอย่างสร้างสรรค์ เพราะพี่น้องประชาชนจะเลือกใครมาเป็น สส. ก็จะเลือกที่การนำเสนอนโยบายที่พี่น้องประชาชนต้องการให้แก้ไขปัญหา การมุ่งแต่โจมตีนั้นมีตัวอย่างมาเยอะแล้วว่าสุดท้ายมักจะไม่ประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง เพราะมีแต่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน นายดนุพร กล่าวว่า เข้าใจได้ว่าพรรคภูมิใจไทยมีอุดมการณ์หลัก คือการได้เป็นรัฐบาล แต่ยังอาจไม่ชินกับการต้องมาเป็นฝ่ายค้าน การนำเสนอนโยบายดีๆ ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนอาจจะยังไม่ค่อยถนัด และอาจจะยังขุ่นข้องหมองใจที่ตัดสินใจผิดพลาดในการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่นายอนุทิน ต้องเข้าใจว่า การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาล เพื่อปรับการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงาน ซึ่งจะสร้างประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง “หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ควรหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ เลิกบิดเบือนใส่ร้ายด้วยคำปราศรัยด้วยวาทกรรมที่สร้างความแตกแยก เกลียดชังในหมู่ประชาชน และเป็นเรื่องล้าหลังเกินกว่าที่ควรจะออกมาจากปากคนเป็น สส.” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว นายดนุพร กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยนั้น ได้พิสูจน์ด้วยผลงานและส่งมอบนโยบายให้ประชาชน แม้จะเผชิญอุปสรรคและความยากลำบากในการผลักดันนโยบาย ก็ไม่เคยยอมแพ้ที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน ดังนั้นนายอนุทินควรแยกแยะให้ออกระหว่างความเจ็บแค้นส่วนตัวกับบทบาทการทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์.-315.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 5,562
...