“อนุทิน” ย้ำทำตามข้อตกลงแก้ รธน. ยุบสภาใน 4 เดือน

รัฐสภา 10 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำทำตามข้อตกลงแก้ รธน. ยุบสภาใน 4 เดือน ไม่กดดันทำประชามติ บอกยังไม่ดูรายละเอียดศาล รธน. ปิดประตูตั้ง สสร. หรือไม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก ให้สภามีอำนาจเริ่มในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควร มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเจตนารมย์ของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทยที่เห็นพ้องต้องกันกับพรรคประชาชน ที่ต้องมีการเร่งจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง โดยรายละเอียดนั้น พรรคภูมิใจไทยจะมีการหารือกับพรรคประชาชนในภายหลัง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลง นายอนุทินย้ำว่า คำว่า “MOA” ที่ทุกคนเรียกกันมาตลอดนั้นอาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ในความเป็นจริงต้องเรียกว่า “agreement” หมายความว่าไม่มี “MO” มีแต่ A (agreement) และเน้นย้ำคำมั่นสัญญาว่า จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้กับพรรคประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของการจัดทำประชามติครั้งที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้งที่จะถึงเร็วๆ นี้นั้น แทบไม่มีอะไรต้องกดดัน เมื่อครบระยะเวลา 4 เดือนปุ๊บ ยุบสภาทันที และหลังยุบสภาก็ไม่มีใครมากดดันอะไรทั้งนั้น คนเราทำงานอย่าไปกดดัน ต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ยังคงเน้นย้ำว่า […]

หมอเปรมศักดิ์ ช็อก ศาล รธน.ห้ามประชาชนเลือก สสร.แก้ รธน. ทั้งฉบับ

กทม. 10 ก.ย.-หมอเปรมศักดิ์ ช็อก ศาล รธน.ห้ามประชาชนเลือก สสร.แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หวั่นเปิดช่องไอ้โม่งชักใยคุมเกมแก้ไข รธน.สถาปนาอำนาจตัวเอง ซ้ำรอยอาถรรพ์ปี 2560 ชงทำประชามติ 2 ครั้งให้เริ่มครั้งแรกพร้อมเลือกตั้ง หลังยุบสภา เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ยื่นญัตติต่อรัฐสภาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 นั้น เป็นที่น่าเสียดายว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิฉัยว่า ไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง หรือเลือก สสร.โดยตรงจากประชาชนไม่ได้ จึงเป็นเดดล็อกให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปสู่วังวนเดิม และนำไปสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญไม่จบสิ้น “ขอให้ประชาชนช่วยจับตาตรวจสอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกัน พรรคประชาชน ซึ่งให้ดาบรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยเป็นเรือธงนำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ต้องกำกับหางเสือให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ไม่เช่นนั้นพรรคประชาชนจะรับผิดชอบไม่ไหว หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะซ้ำรอยอาถรรพ์รัฐธรรมนูญปี 60 อีกครั้งหนึ่ง” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว ทั้งนี้ เมื่อประชาชนไม่ได้เลือกสสร.โดยตรง เกรงว่าจะมีไอ้โม่งเข้ามาชักใยคุมกลไกการเลือกคนมามร่างรัฐธรรมนูญแทนเพื่อสถาปนาอำนาจตัวเองให้ยาวนานที่สุด […]

ศาล รธน. ไม่รับ 3 คำร้องขอเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดี “แพทองธาร”

ศาล รธน. 10 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับ 3 คำร้องขอเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีสถานะนายกฯ ของ “แพทองธาร” ข้อเท็จจริงไม่ตรงตามร้อง เหตุโปรดเกล้าฯ ตั้ง “สราวุธ” 30 ส.ค. ไม่ใช่ 29 ส.ค. ที่วินิจฉัยคดี ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณาในคดีที่ นายนิยม นพรัตน์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และคณะ รวมจำนวน 20 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีตามคำวินิจฉัยที่ 17/2568 ที่ให้สถานะความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารชินวัตรสิ้นสุดลง เนื่องจากเหตุคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน และให้พิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา อุดชาชน วันที่ 29 สิงหาคม 2568 คำวินิจฉัยดังกล่าว จึงออกโดยองค์คณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้องทั้ง 3 ฉบับแล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 […]

ศาล รธน. ไม่รับคำร้อง ฟ้อง 15 ฝ่ายทั้งการเมือง และภาคประชาชน

ศาล รธน. 10 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องฟ้อง 15 ฝ่ายทั้งการเมือง และภาคประชาชน กรณีคลิปเสียง “ฮุน เซน-แพทองธาร” เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอล้มล้างการปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้อง ในคดีที่นายวินิจ จินใจ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า กรณีปรากฏข้อเท็จจริงที่แพร่หลายในสื่อมวลชน ว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้เผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้ถูกร้องที่ 1 กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีเจตนาเพื่อเตรียมการรุกล้ำอธิปไตยของไทย การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวจากบุคคลหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยของนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ผู้ถูกร้องที่ 2 และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 36 คน เป็นผู้ถูกร้องที่ 3 การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ของนายสกนธ์ การกระสัง ผู้ถูกร้องที่ 6 การแจ้งความดำเนินคดีอาญาของคณะบุคคล ประกอบด้วยนายสมชาย แสวงการ […]

ศาล รธน. ไม่รับคำร้อง “พีระพันธุ์” พ้นเก้าอี้ รมว.พลังงาน

ศาล รธน. 10 ก.ย.-มติเอกฉันท์ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง “พีระพันธุ์” พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน เหตุ “สนธิญา” ไม่ใช่ผู้มีสิทธิยื่น ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ในคดีที่นายสนธิญา สวัสดี ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 โดยอ้างว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และภริยา ถือครองหุ้นในบริษัทอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 และเสนอชื่อบุคคลที่เป็นกรรมการในบริษัท ให้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานที่กำกับดูแล เป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) และ (5) และขอให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินแต่เป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) มิใช่การยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ประกอบกับไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง จากการกระทำใดของผู้ถูกร้อง และการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 นั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 170 […]

ศาล รธน. ชี้รัฐสภามีอำนาจริเริ่มแก้ไข รธน. ทำประชามติรวม 3 ครั้ง

ศาล รธน. 10 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญ มติเสียงข้างมาก ชี้รัฐสภามีอำนาจริเริ่มแก้ไข รธน.ฉบับใหม่ได้ แต่ต้องถามประชาชนก่อน โดยต้องทำประชามติรวม 3 ครั้ง แต่ครั้งที่ 1-2 ทำรวมกันได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 วินิจฉัยว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบ ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน ทั้งนี้การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติ หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ของรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งรัฐสภา มีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก ประธานรัฐสภา ส่งความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ในคราวประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 6 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เมื่อวันจันทร์ ที่ 17 มี.ค.68 ซึ่งพิจารณาญัตติด่วน ที่นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เสนอให้รัฐสภาพิจารณา และที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นด้วยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา […]

“เท้ง” ดักทาง “เพื่อไทย” ถ้าจะยื่นซักฟอกเพื่อตรวจสอบ หรือล้างแค้น

รัฐสภา 8 ก.ย.-“เท้ง” ดักทาง “เพื่อไทย” ถ้าจะยื่นซักฟอกรัฐบาลทันที จะเป็นไปเพื่อตรวจสอบ หรือล้างแค้น แนะยึดผลประโยชน์ประชาชน เมินยื่นศาล รธน.ฟัน MOA ผิดหลัก รธน.หรือไม่ บอกเป็นสิทธิ ห้ามไม่ได้ ส่วนตัวไม่หวั่นไหว ยันไม่มีความจำเป็นต้องแบก “ภูมิใจไทย” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ MOA พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคเพื่อไทย สิ่งที่เราเรียกร้องมาตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็ได้รับผลกระทบคือกระบวนการนิติสงครามที่ใช้องค์กรอิสระมาห้ำหั่นกัน เป็นสิ่งที่ทุกคนได้รับผลกระทบ ตนคงจะไปห้ามพรรคเพื่อไทยไม่ได้ แต่หวังว่าจะเห็นการมุ่งหน้าแก้ไขปัญหาประเทศเป็นหลัก ส่วนจะดูเป็นการย้อนแย้งหรือไม่เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็รับหลักการของพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนได้อภิปรายในสภาไปแล้ว เป็นสิ่งที่สังคมเองก็มองเห็น ว่าการพรรคเพื่อไทยมายื่นคำร้องในวันนี้ ย้อนแย้งต่อสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยกระทำในอดีตหรือไม่ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเองก็เคยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน แต่วันนี้กลับมีการยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการทำ MOA เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ สุดท้ายแล้วต้องเป็นไปตามกระบวนการ รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าต้องหวั่นไหวอะไร มั่นคงและทำหน้าที่ต่อไปให้เต็มที่ ส่วนที่พักเพื่อไทยอ้างว่าตอนมาตกลงกันไม่รู้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รู้หรือไม่รู้ ก็คงไปตอบแทนไม่ได้ ตนเชื่อว่าสาธารณะก็ติดตามข่าวสารอยู่ทุกวัน คงประเมินตามเหตุผลที่เพื่อไทยออกมาให้เหตุผลว่าน่าเชื่อถือเพียงพอหรือไม่ ส่วนพรรคเพื่อไทย […]

เพื่อไทยขอรับคำร้องส่งศาล รธน. วินิจฉัย MOA กลับมาแก้

รัฐสภา 8 ก.ย.-“วันนอร์” เผย เพื่อไทยขอรับคำร้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย MOA “ภูมิใจไทย-ปชน.” คืนกลับมาแก้หลังพบชื่อซ้ำ ปัดตอบเนื้อหาคำร้องส่งได้หรือไม่ ชี้เป็นอำนาจของศาลที่จะวินิจฉัย ประธานสภาต้องมีหน้าที่เป็นกลาง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงคำร้องของพรรคเพื่อไทยที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย หรือ MOA ว่า พรรคเพื่อไทยยื่นคำร้อง ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน จากนั้นทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ตรวจสอบรายชื่อ เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เดิมประเมินไว้ว่าหากการตรวจสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็จะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ แต่ได้รับการประสานแจ้งจากวิปรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยในช่วงสายที่ผ่านมา ว่าจะขอรับคำร้องคืนกลับไปแก้ไขรายชื่อที่ซ้ำกัน และปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่สามารถทำได้หากยังไม่ได้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงเนื้อหาคำร้องเข้าข่ายที่จะพิจารณาส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ว่า ไม่สามารถที่จะวิเคราะห์เนื้อหาได้ ทำได้เพียงตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ “รายชื่อถูกต้องครบถ้วนทุกอย่างเรียบร้อยก็เป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะนำเรื่องส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ส่วนว่าจะรับหรือจะวินิจฉัยอย่างไรเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึง กรณีว่าหากพรรคเพื่อไทยรับคำร้องกลับไปส่งกลับอีกหรือไม่ว่า เป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาล เพราะแจ้งมาว่าจะมารับคำร้องกลับคืนในวันพรุ่งนี้ (9 กันยายน) เมื่อถามว่าคำร้องดังกล่าวจะกระทบต่อการเมืองในอนาคตหรือไม่หากพรรคการเมืองใดจะต้องมีการลงนามข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาล หากมีการยื่นครั้งนี้แล้ว นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น ทางสภาสภาผู้แทนราษฎรต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ จึงไม่ต้องการที่จะพูดถึงเนื้อหาเพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ร้อง ส่วนการวินิจฉัยเป็นอย่างไรก็เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะ วินิจฉัยต่อไป.-312.-สำนักข่าวไทย

“ทวี” แย้มดูประเด็นยื่นศาล รธน. ถอดจากเก้าอี้นายกฯ

กทม. 7 ก.ย.-หัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้กำลังใจ “อนุทิน” ตั้งรัฐบาลใหม่ แย้มดูประเด็นยื่นศาล รธน. ถอดจากเก้าอี้นายกฯ ปมขาดคุณสมบัติ-จ่อยื่นซักฟอกล้างอำนาจรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการร่วมเข้าชื่อเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความเป็นสมาชิกภาพของนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน รวมถึง สส.ของพรรคประชาชน สส.พรรคภูมิใจไทยสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญเพราะมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นหลักในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ฐานะฝ่ายค้าน ต้องมองความหวังของประชาชนในภาวะที่ต้องมีรัฐบาลที่ธำรงในหลักนิติธรรมไม่ถูกแทรกแซง อย่างไรก็ดีขณะนี้ต้องให้กำลังใจนายอนุทิน ให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และรอดูหน้าตาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ที่จะทำหน้าที่ จากนั้นจะเป็นประเด็นการตรวจอสบคุณสมบัติ เมื่อถามว่ามีประเด็นยื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีคุณสมบัตินายกฯคนใหม่ กรณีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้มีประเด็นถูกตรวจสอบทั้งคดีฮั้ว สว. และที่ดินเขากระโดง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้ทำเมื่อใดก็ได้ ซึ่งเราต้องเป็นฝ่ายค้านอย่างมีเหตุผล เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันกับพรรคประชาชนฐานะฝ่ายค้านในสภาฯ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สส.ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะไม่ได้มาค้านกันเรื่องผลประโยชน์ของนักการเมือง แต่ค้านบนผลประโยชน์ของประชาชน แม้มีมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ที่ผ่านมาเคยทำงานร่วมกันมาด้วยดีกับพรรคเพื่อไทย “เราเป็นฝ่ายค้านมีประสิทธิภาพ วันนี้พลวัตรแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น […]

เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้

รัฐสภา 3 ก.ย.-เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้ เหตุรอศาล รธน.ตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หลัง 20 สส.เพื่อไทย ยื่นปมตุลาการพ้นวาระ คดี “แพทองธาร” และความชัดเจนยุบสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมสองฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยใช้เวลาหารืออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า เนื่องจากมี สส.20 คน ของพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายต่อกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากข้อเท็จจริงที่พบว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา […]

“แพทองธาร” เคลื่อนไหวหลังพ้นนายกฯ

กทม. 30 ส.ค.-“แพทองธาร” เคลื่อนไหวหลังพ้นนายกฯ ขอบคุณประชาชนให้โอกาสทำงานเพื่อประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง กรณีคลิปเสียงการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการเคลื่อนไหว แชร์โพสต์จาก Voice TV ซึ่งเป็นข้อความที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงยอมรับผลคำวินิจฉัยศาลและขอบคุณประชาชนเมื่อวานนี้ โดยเป็นช่วงที่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า “ขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานเพื่อประเทศอย่างภาคภูมิใจตลอดเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา รัฐบาลต่อจากนี้จะนำโอกาสกลับคืนสู่ประชาชนให้ได้“ จากนั้นได้มีการแชร์ภาพบรรยากาศภายในตึกไทยคู่ฟ้า ช่วงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย จนถึงการแถลงข่าวเสร็จสิ้น.-316.-สำนักข่าวไทย

“สมชาย” ชี้คำวินิจฉัยศาล รธน. ชัดเจน เชื่อส่งผลให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา

ศาล รธน. 29 ส.ค.-“สมชาย” ชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญชัดเจน เชื่อส่งผลให้ ป.ป.ช.ลุยดำเนินคดีอาญา “แพทองธาร” ต่อ ย้ำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร หลังศาลรัฐธรรมนูญ โดยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรี ของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ แล้วนั้น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนายเดินทางออกจากศาลโดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ขณะที่ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา 1 ใน 36 ผู้ร้อง ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ โดยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรี ของนางสาวแพรทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ ว่า คำพิพากษาเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งศาลพูดถึง 2 ครั้ง ว่าย่อมรู้ด้วยวิญญูชน เรื่องนี้เป็นการทำหน้าที่ตามความความรับผิดชอบ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ ถือเป็นบทเรียนสำคัญของผู้ดำรงแหน่งนายกรัฐมนตรี และจะเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไป ด้านนายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ชัดเจน […]

1 2 3 14
...