ออสเตรเลียขยายมาตรการจำกัดโควิดหาต้นตอติดเชื้อ

ซิดนีย์ 9 พ.ค.- รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในออสเตรเลียไม่พบผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ แต่ได้ขยายมาตรการจำกัดการระบาดต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ เพื่อหาต้นตอการติดเชื้อเมื่อไม่นานมานี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์บังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัยจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม และรณรงค์ให้ประชาชนตรวจหาเชื้อ หลังจากสามีภรรยาคู่หนึ่งในนครซิดนีย์มีผลตรวจเป็นบวกเมื่อสัปดาห์ก่อน นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีทวีตวันนี้ว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่เป็นวันที่ 3 ในวันนี้ แต่เนื่องจากยังไม่พบต้นตอการติดเชื้อล่าสุด จึงได้ขยายมาตรการต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์จนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า ประชาชนกว่า 5 ล้านทั้งในและรอบนครซิดนีย์จะต้องสวมหน้ากากอนามัยบนรถโดยสารสาธารณะ และสถานที่สาธารณะเกือบทั้งหมด ห้ามการรวมกลุ่มในบ้านเกิน 20 คน ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ในเครือนิวส์คอร์ปที่เผยแพร่วันนี้ว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแนวโน้มจะเปิดประเทศในเร็ว ๆ นี้ ขณะนี้ชาวออสเตรเลียกำลังพอใจที่ไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศ รัฐบาลจึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของประชาชนในเวลานี้.-สำนักข่าวไทย

นิวซีแลนด์จะกลับไปเริ่ม “ทราเวล บับเบิล” กับออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์จะยกเลิกการระงับบางส่วนของโครงการ “ทราเวิล บับเบิล” หรือ “ระเบียงท่องเที่ยว” ออสเตรเลียตั้งแต่เที่ยงคืนของวันอาทิตย์นี้ หลังจากความหวาดหวั่นในเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ในนครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ลดลงแล้ว

นครซิดนีย์ใช้มาตรการเข้มคุมการระบาดของโควิดอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย ประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทั่วนครซิดนีย์อีกครั้งในวันนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามสืบหาการเชื่อมโยงของผู้ติดเชื้อรายหนึ่งที่มีเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์ที่พบในอินเดียเป็นแห่งแรก

ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิดรายแรกรอบกว่า 1 เดือน

ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก ในรอบมากกว่า 1 เดือน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหาที่มาของเชื้ออย่างเร่งด่วน

ออสเตรเลียคงไม่ลงโทษหนักคนมาจากอินเดียตามที่ขู่ไว้

ซิดนีย์ 4 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเผยว่า คงเป็นได้น้อยมากที่ผู้เดินทางมาจากอินเดียที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กำลังระบาดหนัก จะถูกลงโทษสถานหนักตามที่ทางการประกาศไว้ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แชนนัลไนน์วันนี้ว่า ทางการคงไม่ใช้บทลงโทษสถานหนักเช่นนั้น แต่เป็นมาตรการที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถสกัดไม่ให้ไวรัสกลับมาระบาดในออสเตรเลียอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะใช้กฎระเบียบอย่างเหมาะสมและรับผิดชอบ โดยต้องมีไว้เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่สถานกักตัวที่พบผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากอินเดียเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่านับจากเดือนมีนาคม ส่วนแผนการอพยพคนกลับจากอินเดียอาจนำกลับมาใช้ได้อีกครั้งภายในวันที่ 15 พฤษภาคม เนื่องจากรัฐบาลกำลังหาทางขยายศักยภาพของสถานกักตัวในดินแดนนอร์เทิร์นเทริทอรีเป็นสองเท่าภายในกลางเดือนนี้ ทางการออสเตรเลียประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนห้ามทุกคนรวมทั้งพลเมืองของตนเองเดินทางมาจากอินเดียจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีและลงโทษสถานหนักด้วยการจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับ 66,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.59 ล้านบาท) ทำให้ถูกตำหนิจากสมาชิกสภาและชุมชนอินเดียในออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้คนอายุ 50 ปีขึ้นไป

ซิดนีย์ 3 พ.ค.- ออสเตรเลียเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป จากเดิมที่ฉีดเฉพาะคนอายุ 70 ปีขึ้นไป บุคลากรทางการแพทย์แนวหน้าและผู้มีโรคประจำตัวเท่านั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลียเผยว่า จะขยายกลุ่มอายุที่จะได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกาเป็น 50 ปีขึ้นไป สามารถรับการฉีดได้ตั้งแต่วันนี้ที่คลินิกพิเศษ แต่หากต้องการฉีดกับแพทย์ประจำจะต้องรออีกสองสามสัปดาห์ ออสเตรเลียเริ่มการฉีดวัคซีนช้ากว่าที่กำหนดไว้ ส่วนหนึ่งเพราะยุโรประงับการส่งออกวัคซีนแอสตราเซนเนกาบางส่วน ออสเตรเลียมีประชากร 26 ล้านคน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2.3 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 10 มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 29,800 คน เสียชีวิต 910 คน นับจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อปลายเดือนมกราคม 2563.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียสั่งห้ามผู้ที่เดินทางจากอินเดียเข้าประเทศ

ผู้ที่พำนักเป็นการถาวรในออสเตรเลียและพลเมืองชาวออสเตรเลียที่เดินทางไปอินเดียภายในช่วงระยะเวลา 14 วัน ของกำหนดวันที่จะเดินทางกลับออสเตรเลีย จะถูกสั่งห้ามเข้าประเทศตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทั้งจำและปรับ

ออสเตรเลียจะสอบสวนหลังพบผู้รับวัคซีนเสียชีวิต 2 ราย

สำนักงานควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย หรือ ทีจีเอ จะสอบสวนเหตุเสียชีวิต 2 รายว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือไม่ ในขณะที่ออสเตรเลียกำลังเร่งระดมฉีดวัคซีนวัคซีนป้องกันโควิดให้ประชาชน

นิวซีแลนด์พัก’ทราเวลบับเบิล’ กับออสเตรเลีย

นิวซีแลนด์ระงับการเดินทางระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว หรือ “ทราเวลบับเบิล” ที่เพิ่งเริ่มใช้กับออสเตรเลียเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงระหว่างรัฐวิกตอเรียกับจีน

ออสเตรเลียกล่าวว่า การตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงสองฉบับของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางระหว่างรัฐวิกตอเรียกับรัฐบาลจีน

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เปิดทราเวลบับเบิลแล้ว

ซิดนีย์ 19 เม.ย. – ผู้โดยสารหลายร้อยคนจากออสเตรเลียเริ่มเดินทางถึงท่าอากาศยานของนิวซีแลนด์ในวันนี้ หลังจากที่ทั้งสองประเทศเปิดพรมแดนระหว่างกัน โดยที่ผู้โดยสารไม่ต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นครั้งแรกในกว่า 1 ปี นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย และนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า การเปิดพรมแดนจะช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และทำให้ครอบครัวและมิตรสหายอีกมากมายได้พบปะกันอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ผู้นำของทั้งสองประเทศเตือนให้ผู้เดินทางเตรียมรับมือกับการหยุดชะงักในการเดินทางอย่างกะทันหัน หากเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขึ้นอีก ทั้งยังระบุว่า ทางการจะพิจารณาระดับความเสี่ยงของการเดินทางโดยไม่ต้องกักตัวอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ นายมอร์ริสันและนางอาร์เดิร์นยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการนำแนวทางดังกล่าวไปใช้กับประเทศอื่น ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก หากมีความปลอดภัยพอที่จะทำเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ แม้ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ในนิวซีแลนด์ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่นิวซีแลนด์ยังคงใช้มาตรการกักตัวกับชาวออสเตรเลียที่เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากทางการนิวซีแลนด์วิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในชุมชนที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อกว่า 29,500 คน และผู้เสียชีวิต 910 คน ส่วนนิวซีแลนด์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อกว่า 2,200 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 26 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียยังไม่รีบเปิดพรมแดนแม้ใกล้ปลอดโควิด

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเผยว่า ยังไม่รีบร้อนเปิดพรมแดนที่จะทำให้เสี่ยงต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในสภาวะที่แทบปลอดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้ว

1 50 51 52 53 54 174
...