พ.ร.ก.ปราบโจรออนไลน์ ได้ผล สกัดความเสียหายได้กว่า 5,800 ล้านบาท

ทำเนียบ 24 ก.ค.-พ.ร.ก.ปราบโจรออนไลน์ ได้ผล หลังบังคับใช้สกัดความเสียหายได้กว่า 5,800 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าปราบมิจฉาชีพต่อเนื่อง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการบังคับใช้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 14 เมษายน – 20 กรกฎาคม 2568 สามารถยับยั้งความเสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงทางออนไลน์ได้แล้วกว่า 5,895 ล้านบาท ถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายความมั่นคงปลอดภัยในโลกดิจิทัลของรัฐบาล โดย ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ดำเนินการปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์แล้วจำนวน 19,676 URLs และแพลตฟอร์มหลอกลวงอีก 14,143 URLs พร้อมระงับบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงกับการกระทำผิด 181,989 บัญชี และสามารถจัดการคดีอาชญากรรมออนไลน์ได้แล้วกว่า 88,995 คดี สะท้อนถึงการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ขณะเดียวกัน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ในกระบวนการคัดกรองเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานลงได้ถึง 5 วันทำการ […]

รัฐบาลเตือน ระวัง 14 เพจอันตราย หลอกประชาชน

ทำเนียบ 24 ก.ค.-รัฐบาลเตือน ระวัง 14 เพจอันตราย หลอกประชาชน ย้ำระดมกวาดล้างจับกุม แนะใช้แพลตฟอร์มตัวกลางช่วยตรวจสอบได้ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าปัจจุบันในยุคที่เทคโนโลยีและดิจิทัลมีความก้าวหน้าและพัฒนาอย่างรวดเร็ว สร้างความท้าทายใหม่ๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันยังพบการหลอกลวงเหยื่อ โดยมักจะใช้วิธีการที่มาในรูปแบบของการสร้างแรงจูงใจผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น หลอกให้ลงทุน หลอกหารายได้พิเศษ หรือหลอกให้หลงเชื่อใส่ข้อมูลส่วนตัว ด้วยวิธีการหลอกลวงดังกล่าว กลุ่มมิจฉาชีพมักจะใช้วิธีการแอบแฝงในโลกออนไลน์โดยมาในรูปแบบของการสร้างเว็บไซต์ หรือเพจปลอม โดยล่าสุด สภาองค์กรของผู้บริโภค เผยตัวเลขช่วงระยะเวลาดำเนินงานเฝ้าระวังและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดกั้นเพจปลอมที่หลอกลวงผู้บริโภคตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – พฤษภาคม 2568 จำนวนกว่า 325 เพจ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังคงพบ 14 เพจ ที่ถูกรายงานแล้ว แต่ยังคงพบการเปิดดำเนินการซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อผู้บริโภค นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อกลโกงของมิจฉาชีพ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงในรูปแบบของการโฆษณาชวนเชื่อ ผ่านการหลอกลวงด้วยข้อเสนอที่ดึงดูด หรือขายสินค้าราคาถูกเกินจริง ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังต่อเว็บไซต์หรือเพจ จำนวน 14 เพจ ดังต่อไปนี้ 1. เพจ […]

ฝากขัง “เสือปุ่น” พร้อมสมุนแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้านย่านลาดพร้าว

กทม. 19 ก.ค.-ตัว “เสือปุ่น-เสือบอล” 2 ใน 7 คนร้าย แก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้านย่านลาดพร้าว ไปฝากขัง หลังหลบหนีนานกว่า 2 สัปดาห์ เร่งล่า “นายโบ้” พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้เบิกตัวนายวรวัฒน์ หรือเสือปุ่น อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกสมุน นายบอล อายุ 35 ปี ออกจากห้องควบคุมมาขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ในความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด” พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวกลัวว่าจะหลบหนี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนนำตัวไปฝากขังมารดาของเสือปุ่น ได้นำอาหารและขนมหวาน เข้ามาเยี่ยมและพูดคุยกัน ทั้งนี้ระหว่างการควบคุมตัวไปฝากขังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ต้องหาถึงการก่อเหตุว่าทำไมถึงเลือกก่อเหตุในห้างสรรพสินค้า และเป็นหัวหน้าแก๊งจริงหรือไม่ แต่ทางเสือปุ่น ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ เมื่อถามอีกว่าแม่รออยู่ข้างนอกอยากจะขอโทษแม่หรือไม่ เสือปุ่นบอกว่า “ครับ” โดยระหว่างอยู่ที่รถควบคุมผู้ต้องหาทางมารดาได้พยายามพูดคุยกับเสือปุ่นบอกว่าเดี๋ยวแม่จะไปหาที่ศาล โดยเสือปุ่นได้ตอบรับคำถามของมารดา บอกว่า ไม่ต้องครับแม่ กลับบ้านเลย กลับบ้านดีๆ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: SMS ปลอมอ้าง ธ.กรุงเทพ หลอกเหยื่อกรอก OTP แฮกบัตรเครดิต

ช่วงนี้มิจฉาชีพกำลังอาละวาดหนัก ส่ง SMS หลอกลวง อ้างเป็นธนาคารกรุงเทพ มาพร้อมกับกลลวงแลกแต้มบัตรเครดิต เพื่อหลอกให้กดลิงก์ กรอกข้อมูลส่วนตัว และรหัส OTP โดยกรณีล่าสุดเผยให้เห็นถึงความแนบเนียนของกลโกงที่เลียนแบบเว็บไซต์ธนาคารจริง ผู้เสียหายรายหนึ่งได้เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 กล่าวว่าตนเองได้รับ SMS ระบุว่า “แต้มบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพจะหมดอายุ ให้รีบแลก” พร้อมแนบลิงก์ ด้วยความไม่ทันระวัง ผู้เสียหายได้คลิกเข้าสู่ลิงก์ดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่หน้าเว็บไซต์ที่ออกแบบมาให้คล้ายเว็บไซต์ของธนาคารจริง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและกรอกข้อมูลบัตรเครดิต รวมถึงรหัส OTP ลงไปบนเว็บไซต์ปลอมนั้น เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น บัญชีบัตรเครดิตของผู้เสียหายก็ถูกนำไปทำธุรกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตหลายรายการ สูญเสียเงินไปจำนวนมาก ด้านธนาคารกรุงเทพก็ได้ประกาศเตือนภัยว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพปลอมเป็นธนาคาร ส่ง SMS ให้ท่านกดลิงก์ แลกแต้มที่ใกล้หมดอายุ กรุณาอย่าหลงเชื่อกดลิงก์ดังกล่าว หรือ กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือรหัส OTP ใด ๆ และขอเรียนว่า ธนาคารไม่มีนโยบายส่ง SMS ที่มีลิงก์ ให้กับลูกค้า หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ 02 6384000 กด 9 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: ระวัง SMS ปลอม อ้างแต้ม PPT หมดอายุ

9 กรกฎาคม 2568 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แนะผู้ใช้บริการ blueplus+ และผลิตภัณฑ์ในเครือ OR ระวังภัยออนไลน์ หลังพบมิจฉาชีพส่ง SMS ปลอม แจ้งเตือนคะแนนหมดอายุ หรือชวนลงทุน แอบอ้างผลิตภัณฑ์ในเครือ OR หรือ Café Amazon พร้อมแนบลิงก์หลอกให้คลิกก่อนสูญเงิน – ข้อมูลส่วนตัว ของแท้สังเกตได้จากไหน ? SMS ของแท้จะต้องส่งจากผู้ส่งชื่อ blueplus หากเป็นการแจ้งเตือนคะแนนหมดอายุผ่าน SMS จะไม่มีลิงก์ใดๆ แนบมาด้วย หากไม่แน่ใจ  ให้ติดต่อสอบถามกับช่องทางทางการ ของ blueplus+ โดยตรง เช่น อีเมล blueplus@pttorcampaign.com, แอปพลิเคชัน blueplus+ และ เว็บไซต์ www.blueplus.com เท่านั้น 9 กรกฎาคม 2568เสาวภาคย์ รัตนพงศ์ ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: ระวัง ! เว็บไซต์ปลอมอ้าง ปตท. หลอกลงทุนหุ้น

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨ปตท.เตือนภัย มิจฉาชีพแอบอ้างชื่อและโลโก้ หลอกลงทุนผ่านลิงก์ปลอม https://www.pttplc-official.com/  ปตท. ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีการดำเนินการตามที่มีการนำเสนอในเว็บไซต์แต่อย่างใด โดยสามารถสอบถามข้อเท็จจริงได้ที่ โทรศัพท์ PTT Contact Center 1365 และติดตามข่าวสารได้จากเว็บไซต์ https://www.pttplc.com และ Facebook Fanpage : PTT News https://www.facebook.com/PTTNews เท่านั้น            ทั้งนี้ ปตท. อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด และ ปตท. ขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกท่านโปรดใช้ความระมัดระวังในการรับฟังข้อมูลข่าวสารและโปรดหลีกเลี่ยงการส่งต่อข้อความหรือเนื้อหาที่เป็นความเท็จอันจะเป็นการส่งเสริมการกระทำความผิดทางกฎหมายของกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตในการหลอกลวงต่อประชาชน 3 กรกฎาคม 2568เสาวภาคย์ รัตนพงศ์ ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

สิงคโปร์ออกกฎหมายสุดขั้วรับมือแก๊งหลอกโอนเงิน

สิงคโปร์ 3 ก.ค. – สิงคโปร์ออกมาตรการใหม่ปกป้องพลเมืองจากการถูกหลอกโอนเงินให้มิจฉาชีพ สามารถสั่งอายัดบัญชีของเหยื่อได้ มุ่งเน้นแก้ปัญหาเหยื่อที่มักจะไม่รู้ตัวหรือไม่เชื่อว่าตัวเองกำลังถูกหลอก และยังพร้อมที่โอนเงินให้มิจฉาชีพอย่างเต็มใจ กฎหมายใหม่ของสิงคโปร์ที่มีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด นั่นก็คือปัญหาที่มิจฉาชีพใช้สารพัดวิธีในการล่อลวงเหยื่อให้เชื่ออย่างสนิทใจ และโอนเงินให้โดยดีด้วยลูกไม้ต่าง ๆ ที่ตัวเหยื่อเองจะไม่ตะขิดตะขวงใจ แถมพอคนใกล้ตัวหรือเจ้าหน้าที่ออกมาเตือนภัย กลับไม่ยอมเชื่อเสียอีก ทางการสิงคโปร์จึงออกกฎหมายป้องกันการหลอกลวง ด้วยการเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ยื่นมือเข้าไปควบคุมบัญชีธนาคารของเหยื่อเสียเลย กฎหมายนี้ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่สั่งระงับการโอนเงินออกจากบัญชี ห้ามกดเอทีเอ็ม และห้ามกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวกับบัตรเครดิตหรือสินเชื่อในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับมิจฉาชีพได้ เจ้าของบัญชีที่ตกเป็นเหยื่อสามารถกดหรือถอนเงินได้ในจำนวนที่เหมาะสมแก่การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเท่านั้น โดยต้องอยู่ภายใต้ดุลพินิจของตำรวจ เป็นการเปิดทางให้ตำรวจสามารถสั่งการธนาคารเจ้าของบัญชีให้ดำเนินการได้ หากสงสัยว่าบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีนั้น ๆ น่าจะกำลังถูกหลอก โดยสามารถดำเนินการเพื่อควบคุมบัญชีนั้น ๆ ได้ครั้งละ 30 วัน แม้จะดูเป็นการป้องปรามในเชิงรุกที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด แต่กฎหมายใหม่นี้ก็เผชิญกระแสวิจารณ์ว่า อาจจะเปิดช่องให้เกิดการใช้อำนาจในทางมิชอบได้ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ยืนยันว่า การเข้าคุมบัญชีประชาชนแบบนี้จะใช้เป็นวิธีสุดท้ายเมื่อเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือเหยื่อให้รู้ตัวด้วยวิธีการอื่น ๆ จนสุดหนทางหรือพูดง่าย ๆ ว่าช่วยจนไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงได้อีกต่อไปแล้ว มาตรการสุดขั้วของสิงคโปร์เกิดขึ้นจากปัญหาการหลอกลวงที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนตลอดหลายปีที่ผ่านมา สถิติที่รวบรวมโดยสำนักงานตำรวจสิงคโปร์พบว่า คดีหลอกหลวงและอาชญากรรมไซเบอร์เพิ่มขึ้นจาก 17,000 กว่าคดีเมื่อปี 2563 ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี จนเพิ่มเป็นกว่า […]

“เปิ้ล นาคร” แจ้งความถูกมิจฉาชีพปลอมเพจขายสินค้า เสียหายนับสิบคน

บก.สอท. 30 มิ.ย. – “เปิ้ล นาคร” พร้อมภรรยา เข้าแจ้งความ ผบช.สอท. หลังถูกมิจฉาชีพปลอมเพจขายสินค้า ส่งผลให้ผู้เสียหายนับสิบคน นายนาคร ศิลาชัย หรือ เปิ้ล นาคร พร้อมด้วย นางกษมา ศิลาชัย ภรรยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. หลังถูกมิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินสั่งสินค้าแกงไก่ของนางกษมา จนมีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก นายนาคร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายประมาณ 10 คน ติดต่อสอบถามเข้ามาหาเพื่อสอบถามถึงสถานที่นัดรับสินค้า โดยบอกว่าได้โอนเงินสั่งสินค้าไปแล้ว ตัวเองจึงสอบถามข้อมูลกระทั่งทราบว่า ลูกค้าได้สั่งสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หม้อแม่จูน” ซึ่งมีผู้กดติดตามและกดถูกใจกว่า 1,300 คน โดยอ้างว่าจำหน่ายสินค้าแกงไก่ แบรนด์เดียวกันกับของภรรยาตัวเอง ในราคา 459 บาท ต่อแกงไก่ 2,000 กรัม โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ และอ้างว่าจะได้สินค้าทันทีในวันที่สั่ง ส่วนบัญชีรับโอนเงินค่าสินค้าก็มีการใช้หลายชื่อหลายบัญชี ตัวเองจึงขอยืนยันว่าแกงไก่แบรนด์ “หม้อแม่จูน” ไม่มีการเปิดเพจใดๆ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: ระวัง ! มิจฉาชีพแอบอ้างเป็น 425°

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨 เตือนภัยสายไอที ขณะนี้มีกลโกงรูปแบบใหม่ มิฉาชีพแอบอ้างเป็นพนักงาน 425° ใช้เบอร์ส่วนตัวโทรศัพท์ไปหาลูกค้า โดยแจ้งว่า สินค้าของทางบริษัทฯ ไม่ได้คุณภาพ ต้องการคืนเงินค่าสินค้า จากนั้นจะหลอกให้โอนเงิน ให้ใส่ OTP ในช่องจำนวนเงิน  บริษัท 425° ยืนยัน ไม่มีนโยบายติดต่อลูกค้าโดยใช้เบอร์หรือ Line ส่วนตัว โดยทีมงานจะติดต่อหาลูกค้าผ่านทางช่องทางต่อไปนี้เท่านั้น – เบอร์โทรศัพท์ 094-425-4251– LINE OA : @425degree (ที่มีโล่เขียว)– LINE : @425afterservice หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามปัญหาเพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้ที่ Facebook Page, Line@ และเบอร์โทรศัพท์ 094-425-4251 24 มิถุนายน 2568เสาวภาคย์ รัตนพงศ์ ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

จับผัวเมีย มนุษย์ร้อยชื่อ อ้างเป็นตร.หลอกผู้เสียหายโอนเงิน

สุราษฎร์ธานี 21 มิ.ย. – ตำรวจบุกรวบสามีภรรยา “มนุษย์ร้อยชื่อ” อ้างตัวเป็นตำรวจ โทรเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ในเมืองท่องเที่ยวทางภาคใต้ ผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกว่า 2,000 ราย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังเข้าจับกุมนายสุชาติ หรือหนุ่ม อายุ 41 ปี ชาวอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช และน.ส.สุพัตรา อายุ 24 ปี ภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเกาะสมุย ในข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจับกุมได้ในพื้นที่ อำเภอโนนสัง จ.หนองบังลำภู ก่อน ควบคุมตัว ข้ามเรือกลับมาสอบปากคที่ สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพราะมีผู้ประกอบการเกาะพงันตกเป็นเหยื่อหลายราย ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุยต่อไป คดีนี้ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รองผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า นายสุชาติ และ น.ส.สุพัตรา สามีภรรยาคู่นี้ มีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นตำรวจสังกัดภูธรภาคเกือบทุกภาคทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยเฉพาะกิจ เช่น ตำรวจสันติบาล ตำรวจน้ำ […]

เตือนภัยสแกมเมอร์ แอบอ้างผู้นำประเทศ ขอบริจาคเงิน

21 มิ.ย. – ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยสแกมเมอร์ แอบอ้างผู้นำประเทศ คนดัง สุ่มทักแชตส่วนตัวประชาชน ขอให้บริจาคเงิน ตำรวจไซเบอร์ ออกมาเตือนภัยประชาชน เนื่องจากขณะนี้ได้มีมิจฉาชีพกลับมาระบาด สร้างบัญชีปลอมแอบอ้างเป็นคนดัง เช่น ผู้นำประเทศ อินฟลูเอนเซอร์ ดารา เป็นต้น แล้วสุ่มติดต่อเข้ามาผ่านแชท พร้อมข้อความชวนให้โอนเงินผ่าน ในช่องทางต่างๆ เพื่อแลกกับรางวัล หรือผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ และมีข้อควรระวัง คือ ต้องตรวจสอบโปรไฟล์ก่อนทุกครั้ง บุคคลมีชื่อเสียง เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ทักแชทขอเงินส่วนตัวจากคนแปลกหน้า ไม่กดลิงก์ใดๆ ที่แนบมากับข้อความลักษณะดังกล่าว และไม่โอนเงิน! ทั้งนี้ หากถูกหลอกลวงออนไลน์ รีบแจ้งความที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.go.th หรือโทรปรึกษาสายด่วน 1441 พร้อมแนะให้ประชาชนช่วยกัน แชร์โพสต์นี้ให้คนรอบตัวรู้ทัน! มาร่วมกันหยุดยั้งกลโกงของมิจฉาชีพออนไลน์.-สำนักข่าวไทย

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨 : มิจฉาชีพอ้างคืนเงินกระเป๋าแบรนด์ดัง

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨 เตือนภัยนักเดินทางและนักช้อป  ขณะนี้กำลังมีกลโกงรูปแบบใหม่ระบาดหนัก มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากแบรนด์กระเป๋าเดินทาง SAMSONITE โดยมีพฤติกรรมโทรศัพท์ติดต่อเหยื่อและหลอกว่า กระเป๋าที่คุณซื้อไปไม่ผ่านมาตรฐาน สคบ. พร้อมเสนอที่จะคืนเงิน โดย SAMSONITE ประเทศไทย ได้ประกาศยืนยัน ไม่มีนโยบายโทรศัพท์ติดต่อลูกค้าเพื่อขอข้อมูลส่วนตัว ให้โอนเงิน กดลิงก์ หรือให้แอดไลน์อื่นนอกจากช่องทางทางการของบริษัทฯ  ช่องทางการติดต่ออย่างเป็นทางการของ SAMSONITE มีดังนี้  เปิดโปงกลลวงที่มิจฉาชีพใช้  หากพบความผิดปกติของเบอร์โทร หรือ SMS ข้อความ ที่ติดต่อเข้ามา สามารถแจ้งผ่าน 02-761-9999 และ Email ecommerce.th@samsonite.com โดย SAMSONITE จะตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป 19 มิถุนายน 2568 เสาวภาคย์ รัตนพงศ์ ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

1 2 3 37
...