ประธานาธิบดี

อัลมาตี 8 ม.ค.- คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของคาซัคสถานแถลงว่า ทางการได้ควบคุมตัวนายคาริม มาสซิมอฟ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติฐานต้องสงสัยเป็นกบฏ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า นายมาสซิมอฟ วัย 56 ปี ถูกควบคุมตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายคน เขาเพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติคนที่ 13 เมื่อวันที่ 5 มกราคม หลังเกิดเหตุประท้วงทั่วประเทศที่มีคนเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง อาคารต่าง ๆ ถูกเผาทำลาย เป็นเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่คาซัคสถานประกาศตัวเป็นเอกราชจากอดีตสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม 2534 นายมาสซิมอฟเป็นคนสนิท และเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัยในปี 2550-2555 และปี 2557-2559 ของนายนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่ปกครองมาตั้งแต่ปี 2534-2562 เชื่อกันว่าตระกูลนาซาร์บาเยฟยังคงมีอิทธิพลในกรุงนูร์สุลต่าน เมืองหลวงที่ตั้งตามชื่ออดีตประธานาธิบดีวัย 81 ปีผู้นี้ ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟที่รับตำแหน่งต่อจากนายนาซาร์บาเยฟ เผยเมื่อวันศุกร์ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองอัลมาตีที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศได้แล้ว และได้ออกคำสั่งให้ยิงทิ้งเพื่อจัดการกับเหตุวุ่นวายจากกลุ่มคนที่เขาเรียกว่า “โจร” และ “ผู้ก่อการร้าย” ขณะเดียวกันกองกำลังพันธมิตรที่มีรัสเซียเป็นแกนนำได้มาประจำการในคาซัคสถานแล้วตามคำขอของคาซัคสถาน.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 14 ธ.ค.- โฆษกคณะกรรมการการเลือกตั้งฟิลิปปินส์แจ้งว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ได้ถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกหรือ สว. แล้วในวันนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เต วัย 76 ปี จะครบวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปีในเดือนมิถุนายน 2565 และไม่สามารถลงสมัครเป็นสมัยที่ 2 ตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ เขาประกาศในเดือนสิงหาคมว่า จะลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 แต่ได้ถอนตัวในเดือนตุลาคม และประกาศวางมือทางการเมือง ต่อมาทนายความได้ไปยื่นใบสมัครชิงตำแหน่ง สว.ให้เขา ก่อนหมดเขตรับสมัครเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนในนาทีสุดท้าย ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า เหตุใดดูเตอร์เตจึงถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่ง สว. แต่เขาได้กล่าวปราศรัยเมื่อคืนวันจันทร์ว่า รัฐบาลจะสร้างหลักประกันว่าการเลือกตั้งปีหน้าจะยุติธรรม เป็นระเบียบ เชื่อถือได้ และเสรี และก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน สว.คริสโตเฟอร์ “บอง” โก คนสนิทของเขาได้ประกาศการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเรื่องถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนก่อน.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 13 ธ.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเผยว่า การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นจุดจบของรัสเซียสมัยประวัติศาสตร์ เขาเองต้องขับรถแท็กซี่เพื่อหารายได้พิเศษในช่วงเวลานั้น สำนักข่าวอาร์ไอเอโนวอสตีของทางการรัสเซียรายงานเนื้อหาบางส่วนจากภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Russia. Recent History” ที่จะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องแชนแนลวันว่า ประธานาธิบดีปูติน วัย 69 ปี อดีตสายลับเคจีบี (KGB) สมัยสหภาพโซเวียตกล่าวถึงการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเมื่อ 3 ทศวรรษก่อนว่า ยังคงเป็นโศกนาฏกรรมของพลเมืองส่วนใหญ่ การล่มสลายของสหภาพโซเวียตคือการล่มสลายของรัสเซียสมัยประวัติศาสตร์เมื่อครั้งยังใช้ชื่อสหภาพโซเวียต ช่วงเวลานั้นเขาต้องขับรถแท็กซี่เป็นครั้งคราวเพื่อหารายได้พิเศษ โดยนำรถส่วนตัวไปขับรับจ้าง แม้ไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดถึง แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง รัสเซียเป็นศูนย์กลางของสหภาพโซเวียตที่แผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุม 15 สาธารณรัฐ ตั้งแต่รัฐริมทะเลบอลติกไปจนจรดเอเชียกลาง ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2534 สาธารณรัฐต่าง ๆ แยกตัวกันออกเป็นประเทศ รวมถึงรัสเซียที่ปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจากคอมมิวนิสต์ไปสู่ทุนนิยม.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 8 ธ.ค.- ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้แจ้งกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่า สหรัฐเตรียมใช้มาตรการทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรง หากรัสเซียรุกรานยูเครน ส่งสัญญาณว่ามาตรการดังกล่าวจะรุนแรงกว่าที่สหรัฐเคยใช้ในปี 2557 แต่ไม่สามารถหยุดยั้งรัสเซียไม่ให้ผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนได้ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเผยกับสื่อ หลังจากประธานาธิบดีไบเดนสนทนากับประธานาธิบดีปูตินผ่านการโทรระบบวิดีโอทางไกลนาน 2 ชั่วโมงเมื่อบ่ายวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีไบเดนมองตาประธานาธิบดีปูตินแล้วพูดว่า สหรัฐเตรียมจะทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำในปี 2557 โดยได้แสดงความตรงไปตรงมา แต่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่มีการชี้นิ้วชี้หน้ากัน พร้อมกับย้ำต่อผู้นำรัสเซียว่า สหรัฐพร้อมเสริมสร้างศักยภาพทางทหารในภูมิภาคดังกล่าว นายซัลลิแวนเผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าประธานาธิบดีปูตินยังไม่ตัดสินใจเรื่องบุกยูเครน และขณะนี้สหรัฐกำลังประสานกับพันธมิตรในยุโรปในประเด็นที่เฉพาะเจาะจง ทางด้านนายปูติน ได้เรียกร้องขอคำรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต จะไม่ขยายขอบเขตปฏิบัติการทางทหารไปยังทิศตะวันออกเพิ่มเติม แต่นายไบเดน ไม่ได้ให้คำรับประกันในเรื่องนี้ รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำทั้งสองไม่ได้บรรลุข้อตกลงใด ๆ แต่ตกลงที่จะติดต่อสื่อสารกันต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ความตึงเครียดน่าจะเริ่มลดลง เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างแหล่งข่าวด้านข่าวกรองว่า ช่วงหลายเดือนมานี้รัสเซียได้สร้างเส้นทางลำเลียงเวชภัณฑ์และเชื้อเพลิงที่จะเอื้อให้การปะทะยืดเยื้อในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครน ขณะที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐประเมินว่า รัสเซียอาจบุกยูเครนได้ในอีกไม่กี่เดือน เพราะได้ระดมกำลังพลตามแนวชายแดนด้านยูเครนมากถึง 175,000 นาย.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 5 ธ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอในวันอังคารเพื่อหารือเรื่องสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะย้ำเรื่องสหรัฐกังวลต่อการเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซียบริเวณพรมแดนด้านติดกับยูเครน และย้ำเรื่องสหรัฐสนับสนุนอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่จะคุยกับผู้นำรัสเซียได้แก่ เรื่องความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์และเรื่องระดับภูมิภาค ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงว่า ผู้นำทั้งสองจะหารือเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคีและการปฏิบัติตามข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมสุดยอดที่นครเจนีวาเมื่อเดือนมิถุนายนด้วย โฆษกเผยเพียงว่า การหารือจะมีขึ้นในวันอังคาร แต่ไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจน ประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีปูตินเคยสนทนาแบบพบหน้ากันครั้งแรกที่นครเจนีวาเมื่อเดือนมิถุนายน และสนทนากันครั้งหลังสุดทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ยูเครนอ้างรายงานข่าวกรองเมื่อวันศุกร์ว่า รัสเซียระดมกำลังพลประชิดชายแดนไม่ต่ำกว่า 94,000 นาย คาดว่าอาจกำลังวางแผนรุกยูเครนครั้งใหญ่ในช่วงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า ต่อมาเสนาธิการทหารบกสหรัฐแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า คาดว่ามีทหารรัสเซียประชิดพรมแดนยูเครนอยู่ราว 95,000-100,000 นาย ไม่รู้ว่ารัสเซียจะทำอะไร แต่น่ากังวลอย่างยิ่ง ขณะที่รัสเซียกล่าวยูเครนว่า สั่งสมกำลังพล พร้อมกับปัดข่าวเรื่องรัสเซียเตรียมบุกยูเครนว่า รัสเซียปกป้องสิทธิที่จะประจำการทหารในดินแดนของตนเองตามที่เห็นว่าสมควรเท่านั้น ก่อนหน้านี้รัสเซียได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นส่วนหนึ่งของรัสซียเมื่อปี 2557.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 30 พ.ย.- คริสโตเฟอร์ โก หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า “บอง” นักการเมืองคนสนิทของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ ประกาศถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว วุฒิสมาชิกโก วัย 47 ปี เป็นตัวเก็งทายาททางการเมืองของดูเตอร์เต เขาเคยพูดเป็นนัยเมื่อไม่นานมานี้ว่า อาจถอนตัวจากการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่มีตัวแทนลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ล่าสุดนายโกแถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กในวันนี้ว่า เขาและประธานาธิบดีดูเตอร์เตพร้อมสนับสนุนใครก็ตามที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง พร้อมทั้งสามารถสานต่อและปกป้องมรดกตกทอดของประธานาธิบดีดูเตอร์เต ในการทำให้คนรุ่นหลังมีชีวิตที่สุขสบาย ปลอดภัย และมั่งคั่ง ส่วนตัวเขาเองกำลังเสียสละอย่างใหญ่หลวงเพื่อประเทศชาติ และเพื่อให้ผู้สนับสนุนและแกนนำมีความเป็นเอกภาพ ประธานาธิบดีดูเตอร์ วัย 76 ปี ไม่สามารถลงสมัครเป็นสมัยที่ 2 ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ดำรงตำแหน่งได้สมัยเดียว แต่จะลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกในการเลือกตั้งปีหน้าที่จะจัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรี และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ขณะที่นางซารา ดูเตอร์เต-การ์ปิโอ วัย 43 ปี บุตรคนรองที่เป็นบุตรสาวคนเดียวของเขาลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี คู่กับเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 23 พ.ย.- นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส และตัวเก็งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ในการเลือกตั้งปีหน้า เข้ารับการตรวจหาโคเคน หลังจากประธานาธิบดีคนปัจจุบันอ้างว่า มีผู้สมัครคนหนึ่งใช้สารเสพติด มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า “บองบอง” แถลงว่า ได้เข้ารับการตรวจหาสารโคเคนเมื่อวันจันทร์ และได้ส่งผลตรวจให้แก่หน่วยงานตำรวจ 3 แห่ง เขาเผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งว่า มีผลตรวจเป็นลบ เขาไม่ได้คิดว่า ตนเองเป็นบุคคลที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตพาดพิงถึง แต่ถือว่าเป็นหน้าที่ในฐานะบุคคลสาธารณะที่จะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวฟิลิปปินส์ว่า เขาต่อต้านการใช้สารเสพติด จึงได้ไปรับการตรวจเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เต วัย 76 ปี ซึ่งไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมากนับตั้งแต่รับตำแหน่งในปี 2559 กล่าวเมื่อวันจันทร์โดยไม่ระบุชื่อว่า มีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนหนึ่งเสพโคเคน ไปถามกลุ่มคนรวยก็จะรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ส่วนสาเหตุที่เขาไม่จับกุมบุคคลคนนั้น ก็เพราะบรรดาคนรวยล่องเรือยอชต์หรือขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปเสพโคเคน กลุ่มโซเชียลเวเธอร์สเตชันส์สำรวจในเดือนตุลาคมพบว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ได้รับเสียงสนับสนุนให้ผู้นำฟิลิปปินส์คนใหม่มากที่สุดด้วยคะแนนร้อยละ 47 ตามด้วยนางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีจากฝ่ายค้าน วัย 56 ปี […]

กลุ่มคัดค้านการที่บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอสจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในปีหน้า จะร้องเรียนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งห้ามเขาลงสมัคร ด้วยการยกเรื่องที่เขาเคยต้องคดีเลี่ยงภาษี

นางซารา ดูเตอร์เต-การ์ปิโอ บุตรคนรองที่เป็นบุตรสาวคนเดียวของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์โต ของฟิลิปปินส์ โพสต์คลิปชี้แจงเหตุผลที่ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี หลังจากที่เธอไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี