มวลชนเขมรบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว

17 ก.ย.- เจรจาไม่เป็นผล! มวลชนกัมพูชาบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ เมื่อเวลา 15.53 น. กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณรั้วลวดหนาม หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ว่า มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่าทำลายรั้วลวดหนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ไม่เป็นผล เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชาที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่ละความพยายามยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไปเพราะถูกแก๊สน้ำตา ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคง ให้ข้อมูลว่าหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT ที่ทางกัมพูชาพามาลงพื้นที่ ได้เดินทางกลับแล้ว ทางฝ่ายไทยได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารไปจัดทำรั้วลวดหนามให้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่ทางกัมพูชาก็มีการขนคนมาสร้างความปั่นป่วน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ได้ให้ตำรวจไทย เฝ้าระวังป้องกันและดำเนินการ เบื้องต้นมีการใช้แก๊สน้ำตา และขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้ -สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]

ทบ.โต้กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

21 ส.ค.- โฆษก ทบ. โต้ “มาลี” โฆษกกลาโหมกัมพูชา หลังเรียกร้องให้ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ลั่นไทยควรเป็นฝ่ายเรียกร้อง เพราะยังพบกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงต่อเนื่อง พร้อมย้ำไทยปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักสากล จากกรณีที่ พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาแถลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 ส.ค.68) ว่า “กัมพูชาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงหลังการประชุม GBC ที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่เผยแพร่และไม่สนับสนุนการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมเรียกร้องให้ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาสันติภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ รวมถึงการเรียกร้องให้ไทยส่งคืนทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกจับกุมตัวกลับสู่กัมพูชาด้วย” นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่าหากมองภาพตามสถานการณ์จริงแล้ว กลับกันควรเป็นฝ่ายไทยที่ต้องออกมาดำเนินการเรียกร้องเรื่องดังกล่าวต่างหาก เนื่องจากยังคงพบว่ากัมพูชามีความพยายามในการดำเนินการต่างๆ ที่แสดงถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทั้งหลักฐานการใช้ทุ่นระเบิด PMN-2, การตรวจพบอากาศยานไร้คนขับบินลาดตระเวนบริเวณชายแดน รวมถึงการแสดงท่าทียั่วยุ หรือตอบโต้ในกิริยาที่ไม่เหมาะสมของทหารกัมพูชาต่อทหารไทย ดังเช่นภาพที่ปรากฏเมื่อทหารกัมพูชาเข้ามาโวยวายประท้วงในระยะประชิดต่อคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว Interim Observer Team หรือ IOT ที่เดินทางไปสังเกตการณ์พื้นที่ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี […]

เร่งยื่นหลักฐานผ่านกลไกออตตาวา ปมเขมรลอบวางทุ่นระเบิด

กระทรวงการต่างประเทศ 18 ส.ค.- โฆษก กต. เผยทูตไทยประจำกรุงเจนีวา เร่งเดินหน้ายื่นหลักฐานต่อกลไกอนุสัญญาออตตาวา เหตุเขมรลอบวางทุ่นระเบิดในไทย จ่อประชุมครั้งต่อไป 22 ส.ค.นี้ นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.68 ที่ผ่านมา มีการจัดคณะลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนทางกัมพูชาที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้ช่วยรัฐมนตรีการต่างประเทศ กองทัพบก และกระทรวงมหาดไทย พร้อมเชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา องค์กรภาคประชาสังคมเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งสื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศ เพื่อสังเกตการณ์จัดสถานที่จริงเกี่ยวกับเหตุ ระหว่างลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทยของฝ่ายกัมพูชา ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีการบรรยาสรุปเกี่ยวกับข้อเท็จจริงลำดับเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบระเบิดทุ่มระเบิดในดินแดนไทน ซึ่งมีการสังเกตภารกิจการเก็บกู้ระเบิดในสถานที่จริงของหน่วยปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม โดยหน่วยทหาร บริเวณภูมะเขือจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้เห็นหลักฐานการวางทุ่นสังหารบุคคลของฝ่ายกัมพูชาในดินแดนไทย โดยคณะได้รับทราบข้อเท็จจริงจากหน่วยปฏิบัติการจริงพร้อม เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีการวางระเบิดใหม่ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพถาวร รวมถึงส่งผลกระทบต่อประชาขนและสังคมในระยะยาว นอกจากนี้คณะได้สังเกตการณ์ว่าได้รับประชาชนในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชา พร้อมทั้งได้รับทราบการดำเนินการให้ความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อย้ำว่ากัมพูชารอบวางทุนระเบิดดังกล่าวในดินแดนไทย ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย การกระทำของกัมพูชายังขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงพันธะกรณีตาม อนุสัญญาออตตาวา ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นภาคี […]

ครอบครัวทหารพรานเหยียบระเบิดประณามเขมร

บุรีรัมย์ 15 ส.ค. – ครอบครัวทหารพรานชาวบุรีรัมย์ที่เหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ประณามกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เผยอยากให้ทางการไทยมีมาตรการป้องกันทหารไทยไม่ให้บาดเจ็บล้มตายอีก ที่บ้านโคกไม้แดง ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ สิบเอก ธีรพล เพียขันที อายุ 47 ปี สังกัดทหารพรานจู่โจมที่ 2610 ที่เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม ทำให้ขาซ้ายขาด ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีชาวบ้านมาให้กำลังใจครอบครัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนางสาคร อายุ 78 ปี แม่ของสิบเอก ธีรพล ที่เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกชาย เพราะต้องสูญเสียอวัยวะ แต่ด้วยร่างที่ไม่อำนวยจึงไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมลูกชาย ทำได้เพียงสอบถามอาการจากลูกสาวและลูกสะใภ้ที่ไปเยี่ยมเท่านั้น แม่ได้แต่ภาวนาให้ลูกปลอดภัย ตอนนี้อยากเห็นหน้าลูกชายมาก แม้ครอบครัวจะภูมิใจที่สิบเอก ธีรพล จะทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินอย่างชายชาติทหาร แต่เสียใจที่ต้องมาสูญเสียอวัยวะ เพราะการไม่รักษาสัจจะของกัมพูชา จึงอยากให้ทางการไทยมีมาตรการป้องกันไม่ให้ทหารไทยต้องบาดเจ็บและล้มตายอีก พร้อมประณามผู้นำและทหารกัมพูชาที่แอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด จนทำให้ทหารไทยที่ออกลาดตระเวนต้องบาดเจ็บหลายครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

“มาริษ” ติงเพื่อนบ้านเล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง

กระทรวงการต่างประเทศ 5 ส.ค.- “มาริษ” ลั่น น่าเกลียดมาก “เขมร” ปล่อยข่าว “ไทย” ลอบสังหาร “ผู้นำกัมพูชา” บอกไม่เคยรุกราน แค่ตอบโต้อย่างเหมาะสม กางอนุสัญญาเจนีวายัน หากไม่มั่นใจ ยังคุมตัวต่อไปได้ เผย ตั้งแต่จับตัวได้ ดำเนินการเชิงรุก แจ้ง “กาชาดระหว่างประเทศ” ทราบก่อนแล้ว ติงเพื่อนบ้าน เล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยอัปเดตการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.68) เพื่อให้คณะทูตได้รับทราบเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้อง ขอยืนยันว่าสิ่งที่เราบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงถูกต้องและมีหลักฐานในทุกด้านอย่างชัดเจน ซึ่งมีคณะทูตจำนวน 75 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมรับฟัง ได้รับความสนใจและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคณะทูต ทำให้มิตรประเทศเข้าใจบทบาทหน้าที่และการตอบโต้ในสิ่งที่ไทยถูกกระทำมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ตนเองย้ำเตือนและพูดกับมิตรทุกครั้งคือ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศไทยต้องการ เราเรียกร้องให้กัมพูชาใช้กลไกทวิภาคีที่มีร่วมกันมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่ม ที่สำคัญคือไทย-กัมพูชาเป็นมิตรประเทศ เป็นสมาชิกอาเซียนและมีการตกลงทวิภาคีที่จะต้องแก้ไขปัญหาการกระทบกระทั่งทางชายแดนโดยสันติวิธีและจริงใจ สิ่งต่าง ๆ เราได้ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งได้อธิบายให้กับคณะทูตเข้าใจ อย่างไรก็ตาม […]

เดินสายแจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดน

รัฐสภา 31 ก.ค.-ประธาน กมธ.การต่างประเทศ เดินสายชี้แจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ห่วงข่าวปลอมบิดเบือนภาพไทย ย้ำไทยอดทน ยับยั้งชั่งใจทุกขั้นตอน ไม่ตอบโต้เกินจำเป็น ชี้ ต้องเข้มแข็งด้วยลำแข้งตัวเอง ขอประชาคมโลกแสดงจุดยืนต่อความรุนแรง พร้อมจับตาบทบาทประเทศที่สาม บอกถึงเวลาไทยต้องวางตัวอย่างรอบคอบและเข้มแข็ง นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินสายพบคณะทูตสหภาพยุโรป และทูตอังกฤษ ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการการต่างประเทศได้เดินสายชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นอันดับแรก เพราะมีความกังวลใจว่าการสื่อสารข่าว จากทั้งไทยและกัมพูชา มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงเป็นส่วนที่ต่างชาติไม่เข้าใจ และกังวลใจ กรรมาธิการจึงเดินสายไปชี้แจงกับประเทศ ที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง ที่อย่างน้อยได้แสดงถึงความกังวลใจในฐานะของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่นที่ผ่านมาได้ชี้แจงกับประเทศจีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส และอีก 18 ประเทศ ขอสหภาพยุโรป ไปแล้ว ซึ่งจากนี้กรรมาธิการจะเดินสายพูดคุยและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ และเรียกร้องให้มิตรประเทศแสดงจุดยืนต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกประเทศช่วยจับตาดูข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาประชาคมโลกเห็นถึงความสับสนที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพราะสำนักข่าวต่างประเทศต่างหยิบยกการแถลงข่าว จาก กัมพูชาที่มีการปลอมแปลงมารายงานข่าว ซึ่งเห็นว่าเป็นการปลอมแปลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า ภายหลังที่ มีข้อตกลงการหยุดยิง แต่ยังเกิดการปะทะ […]

1 2 3
...