จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

โฆษกกองทัพไทย แจงด้วยหลักมนุษยธรรม จึงผลักดันชาวกัมพูชาทันทีไม่ได้

กทม. 23 ก.ย.-โฆษกกองทัพไทย แจงด้วยหลักมนุษยธรรม จึงผลักดันชาวกัมพูชาออกจากบ้านหนองหญ้าแก้ว ทันทีไม่ได้ ด้านรองโฆษกกองทัพเรือ ยันกรณีกาสิโนรุกพื้นที่ จ.ตราด อยู่ระหว่างติดตามให้ฝั่งกัมพูชารื้อถอนกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีการผลักดันกัมพูชาออกจากพื้นที่อธิปไตยของไทยในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่า พื้นที่ที่กัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ เป็นพื้นที่อธิปไตยไทยแน่นอน กัมพูชาไม่สามารถปฏิเสธหรือไม่ยอมรับเอกสารรับรองหลักเขต ที่ลงนามเมื่อปี 2559 ได้ เนื่องจากมีการรับรองเอกสารเข้าไปในที่ประชุม JBC เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.แล้ว แม้หลักเขตแดนที่ 42 จะตกลงไม่ลงตัว แต่ก็มีความต่างระหว่างเส้นที่ไทยอ้างสิทธิ์ กับเส้นที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์เพียง 80 เมตรเท่านั้น แต่พื้นที่ที่ชาวกัมพูชาปักหลักไม่ยอมออกจากพื้นที่รุกล้ำเส้นดังกล่าวเข้ามา เป็นของไทยทั้งหมด แต่สาเหตุที่ไม่สามารถผลักดันได้ทันที เนื่องด้วยเหตุผลตามหลักมนุษยธรรม ทำให้ไม่สามารถเข้าไปรื้อถอน หรือใช้กำลังพลเข้าไปผลักดันชาวกัมพูชาได้ จนกว่าจะมีการประกาศกฎอัยการศึก หรือเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่เป็นเหตุให้ต้องใช้กำลังพลเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่ ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องให้เจ้าหน้าที่อดทนอดกลั้นจนถึงเมื่อไหร่ โฆษกกลาโหมกล่าวว่า ตราบใดที่ยังไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็ยังคงต้องอดทนอดกลั้น […]

กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ย.- กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน และปฏิบัติตามหลักสากล ใช้ตํารวจควบคุมฝูงชน ไม่ใช่กําลังทหาร จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม-บิดเบือนประชาคมโลก ส่งผลสัมพันธ์ร้าวลึก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายไทยต่อพลเมืองกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยยืนยันว่า ไทยบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ สําหรับกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทย จงใจบิดเบือนแผนผัง ที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตําแหน่ง หลักเขตแดนที่ 42 และ43 ว่าเป็นเขตแดนจริงนั้นขอเรียนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยระบุ แผนผังดังกล่าวกําหนด เส้นเขตแดนเพราะการเจรจาเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติ ของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ทั้งนี้แผนผังที่ไทยนําแสดงดังกล่าว เป็นเพียงการนําพิกัดหลักเขตแดน ไปทําภาพจําลองเส้นเขตแดน บนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้นเพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง สําหรับข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ว่าด้วยการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกนั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นฝ่ายละเมิดโดยปล่อยให้มีการสร้างอาคาร บ้านเรือนชุมชนทั้งในเขต พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขต ขณะที่เป็นอธิปไตยของไทยซึ่งฝ่ายไทยได้ทําการประท้วงในกรอบเอ็มโอยูแล้วกว่า 500 ครั้ง ในห้วง 20ปีที่ผ่านมาแต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรม ที่บ่อนทําลายความพยายามลดความตึงเครียด ข้อตกลงหยุดยิงนั้น นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่าประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง […]

เฝ้าระวังมวลชนกัมพูชา ป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 22 ก.ย. – ติดตามสถานการณ์ชายแดนที่จังหวัดสระแก้ว ล่าสุดพบว่ายังมีมวลชนชาวกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหว ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีเปิดด่านเขาดิน สั่งดำเนินคดีปล่อยเฟคนิวส์ ช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการตรวจสอบพบภาพมุมสูงปรากฏว่า มีกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาอยู่ที่บริเวณเพิงพักหลังคาสีน้ำเงิน ประมาณ 30-40 คน โดยไม่ได้ออกมาปรากฏตัวในเชิงแสดงออกหรือกระทำอะไร ส่วนช่วงเช้าที่บริเวณบ้านหนองจาน จุดแรกที่แนวลวดหนามหลัก ไม่พบชาวกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ส่วนจุดที่บริเวณป่ายูคาใกล้หลักเขต 46 บ้านหนองจานนั้น มีเพียงทหารกัมพูชาประมาณ 10 คน และไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นๆ นอกจากนี้บรรยากาศที่จุดตรวจ ชรบ.บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมีกลุ่มชาวฉะเชิงเทรา เดินทางนำอาหารสดมาประกอบอาหาร เมนูหอยทอด เพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแนวหน้า จำนวน 600 กล่อง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบด่านถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวลือผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “มีการเปิดด่านบ้านเขาดิน” จนสร้างความสับสนแก่ประชาชน โดยพบบรรยากาศที่ด่านถาวรบ้านเขาดินเป็นไปอย่างเงียบเหงา ด่านยังคงปิดสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ทั้งการนำเข้า-ส่งออก หรือการสัญจรข้ามแดนแต่อย่างใด นายปริญญา กล่าวว่า ด่านถาวรบ้านเขาดินถูกปิดทำการมานานแล้ว ข่าวที่ออกไปว่าเปิดด่านนั้น เป็นเฟคนิวส์ที่สร้างความเสียหาย […]

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

อธิบดีกรมการปกครอง มอบสิ่งของให้ จนท. อ.โคกสูง

สระแก้ว 21 ก.ย.-อธิบดีกรมการปกครอง ลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มอบสิ่งของและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ยืนยันการทำงานทุกระดับเป็นไปตามแผนปฏิบัติงาน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่าวันนี้ได้นำความห่วงใยจากท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มามอบให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ จนท.ระดับอำเภอ อาสาสมัคร กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ) ว่าเรารับทราบถึงความเข้มแข็งในการทำงานของทุกคน กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ในการพิทักษ์ส่วนหลัง สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารแนวชายแดน ในการปกป้องอธิปไตย กองกำลังฝ่ายปกครองจึงต้องมีความพร้อมเสมอ วันนี้ก็มาดูว่าขาดเหลืออะไรก็จะต้องเติมให้มีความพร้อมมากที่สุด แต่ในส่วนของการทำงานระดับจังหวัดของไทยกับกัมพูชา ว่าส่งหนังสือกันไปมา ล่าสุดตอบกลับไปว่าให้ชาวกัมพูชาอพยพออกไปจากพื้นที่ ภายในวันที่ 10 ต.ค. จากการร่วมประชุมกัน ทางผู้ว่าฯสระแก้ว แสดงความหนักใจหรือเป็นห่วงในเรื่องใดหรือไม่ อธิบดีกรมการปกครอง ตอบว่า ได้รับรายงานเช่นกัน แต่ขอให้ผู้ว่าฯ เป็นผู้ตอบเองจะดีกว่า ตนไปตอบแทนคงไม่ดี ในส่วนของเจ้าหน้าที่หน้างานมีการร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติมหรือไม่ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย ได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทั้ง 7 จังหวัด ชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งภาคตะวันออกและอีสานใต้ มาอย่างต่อเนื่อง บางสิ่งใช้แล้วสึกหรอก็เปลี่ยนให้ใหม่ ขาดเหลืออะไรก็เติมให้ การลงพื้นที่ก็เพื่อดูว่ามีอะไรต้องช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ เราก็สนับสนุนให้มีความพร้อมที่สุด ในการทำงานเรื่องสถานการณ์แนวชายแดน […]

พบชาวกัมพูชาเริ่มจับกลุ่มหลังรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 21 ก.ย.-กัมพูชาไม่เข็ด กล้องมุมสูงจับภาพชาวกัมพูชา เตรียมจับกลุ่มหลังรั้วลวดหนามและป่ายูคาลิปตัส บ้านหนองหญ้าแก้ว ภาพล่าสุดกล้องสำรวจมุมสูงของกองกำลังบูรพา เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. พบความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาที่บริเวณรั้วลวดหนามหีบเพลง บ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงบริเวณป่าต้นยูคาลิปตัสที่ชาวกัมพูชาเคยพยายามยื้อแย่ง รื้อถอนรั้วลวดหนาม ก็พบว่ามีคนเริ่มจับกลุ่มเช่นกัน จากการสังเกตพบว่าส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาว คาดว่าเพิ่งกลับจากงานทำบุญสารทเดือน 10 หรือ แซนโฎนตา เมื่อกล้องสำรวจไล่ไปทางด้านหลังของกลุ่มคน ก็พบรถจำนวนหลายคันจอดอยู่ คาดว่ากลุ่มคนดังกล่าว อาจเกิดจากการเกณฑ์มาจากพื้นที่อื่นๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมปฏิบัติการ.-สำนักข่าวไทย

เช้านี้ไม่พบเขมรรวมตัวบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 21 ก.ย.-ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เช้านี้ยังเงียบสงบ ไม่พบความเคลื่อนไหวกลุ่มชาวกัมพูชารวมตัวบริเวณรั้วลวดหนาม จนท.ยังคงตรึงกำลังประจำจุดสำคัญ พร้อมลาดตระเวนเข้ม.-สำนักข่าวไทย

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

พบชาวกัมพูชายังปักหลักอยู่จุดที่เคยปะทะ

สระแก้ว 19 ก.ย. – กองทัพบก นำคณะสื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พบยังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่จุดที่เคยปะทะ บรรยากาศช่วงเช้า ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้นำคณะสื่อลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ พบว่ายังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่ที่บริเวณรั้วลวดหนามจำนวนมาก ใกล้กับจุดที่เกิดการประทะกันเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งคาดว่าเป็นความพยายามเพื่อจะยึดพื้นที่ที่เป็นดินแดนของไทย พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.12 ชี้แจงถึงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วบางส่วน ที่มีความพยายามจากชาวกัมพูชา อ้างว่าอาศัยอยู่มานานแล้ว แต่ในข้อเท็จจริง ยืนยันว่าพื้นที่ในสามเหลี่ยมสีฟ้า เป็นของไทยทั้งหมด โดยอ้างอิงตาม MOU 43 ที่มีเส้นเขตแดนของทั้งสองฝั่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเส้นสีแดงและสีน้ำเงินเท่านั้น และยืนยันว่า ไม่ว่าจะมีการทำลายหรือย้ายหมุดอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้เส้นเขตแดนไทยเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการดำเนินการหากมีการรุกล้ำเข้ามาในแนวรั้วลวดหนาม จะใช้วิธีการทางกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก ส่วนกำลังทหารจะเพียงช่วยดูแลหากมีการพังรั้วลวดหนาม แต่จะไม่มีการใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก พร้อมยืนยันว่าทางการไทย เคยส่งหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นจำนวนถึง 12 ครั้ง รวมถึงปักป้ายประกาศให้ชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดจากทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วคืนจากชาวกัมพูชาได้แล้วกว่า 100 ไร่ ที่ปรากฏตามแนวรั้วลวดหนาม เหลือส่วนที่ยังมีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่อีก […]

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

1 2
...