สระแก้ว 19 ก.ย. – กองทัพบก นำคณะสื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พบยังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่จุดที่เคยปะทะ
บรรยากาศช่วงเช้า ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้นำคณะสื่อลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ พบว่ายังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่ที่บริเวณรั้วลวดหนามจำนวนมาก ใกล้กับจุดที่เกิดการประทะกันเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งคาดว่าเป็นความพยายามเพื่อจะยึดพื้นที่ที่เป็นดินแดนของไทย
พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.12 ชี้แจงถึงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วบางส่วน ที่มีความพยายามจากชาวกัมพูชา อ้างว่าอาศัยอยู่มานานแล้ว แต่ในข้อเท็จจริง ยืนยันว่าพื้นที่ในสามเหลี่ยมสีฟ้า เป็นของไทยทั้งหมด โดยอ้างอิงตาม MOU 43 ที่มีเส้นเขตแดนของทั้งสองฝั่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเส้นสีแดงและสีน้ำเงินเท่านั้น และยืนยันว่า ไม่ว่าจะมีการทำลายหรือย้ายหมุดอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้เส้นเขตแดนไทยเปลี่ยนแปลงได้

ซึ่งการดำเนินการหากมีการรุกล้ำเข้ามาในแนวรั้วลวดหนาม จะใช้วิธีการทางกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก ส่วนกำลังทหารจะเพียงช่วยดูแลหากมีการพังรั้วลวดหนาม แต่จะไม่มีการใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก พร้อมยืนยันว่าทางการไทย เคยส่งหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นจำนวนถึง 12 ครั้ง รวมถึงปักป้ายประกาศให้ชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดจากทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วคืนจากชาวกัมพูชาได้แล้วกว่า 100 ไร่ ที่ปรากฏตามแนวรั้วลวดหนาม เหลือส่วนที่ยังมีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่อีก ประมาณ 35 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่ปรากฏภาพในสื่อ ว่ามีการเกณฑ์คนมาร่วมชุมนุม ก็จะต้องเป็นไปตามขั้นตอนการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้น โดยคนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มมวลชนที่ถูกเกณฑ์มาก่อความวุ่นวายนั้น คือกำนันลี แต่ก็มีคนที่อยู่เบื้องหลังระดับสูงกว่านั้นแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นคนที่เสียผลประโยชน์เนื่องจากพื้นที่ที่เรายึดคืนมา อยู่ใกล้กับกลุ่มธุรกิจของจีนเทาและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ขยายมาจากปอยเปต มาเปิดเครือข่ายใหม่ตรงบริเวณนี้ โดยเหตุการณ์ยั่วยุดังกล่าว ทางไทยก็มีการพูดคุยกับพลตรีเชิงตุม ทางฝั่งนั้นรับทราบ แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลง ว่าห้ามมาปลุกระดมตรงนี้
ในส่วนของชาวบ้านที่มีความกังวลว่าหลังจากเหตุการณ์สงบลงแล้ว จะมีการลักลอบเข้ามา วางกับดักเพื่อทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่ หรือไม่ ผบ. ฉก. 12 ยืนยันว่า ส่วนที่สามารถยึดคืนมาได้แล้ว ชาวบ้านสามารถเข้าไปทำกินได้ โดยไม่มีอันตรายใดๆ และขณะที่สื่อมวลชนลงพื้นที่ บริเวณหน้าจุดตรวจบ้านหนองหญ้าแก้ว ก็มีชาวบ้านชาวไทยจำนวนหนึ่ง ที่มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ และร้องเพลงชาติไทยเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วย.-สำนักข่าวไทย