รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เขมรเกณฑ์คน-พบสายลับปลอมเป็นพระปะปนผู้ชุมนุม

สระแก้ว 18 ก.ย. – ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ยังระอุ พบสายลับกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ทหาร ตชด. และชุดควบคุมฝูงชน ยังตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน ป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ ความคืบหน้าสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว วันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ มีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี หรือ โต สริน ผู้นำท้องถิ่นของกัมพูชา เกณฑ์ชาวบ้านเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดว่าเตรียมรื้อถอนรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงไทยส่งโดรนบินตรวจการณ์ พบชาวบ้านฝั่งกัมพูชาเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป และยังยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายงานต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง พร้อมเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น ทหาร ตชด. และชุดควบคุมฝูงชน ยังตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

ทภ.1 ยกระดับคุมเข้มชายแดน ยันไทยไม่หลงทาง

สระแก้ว 18 ก.ย. – กองทัพภาค 1 แถลงประณามผู้นำกัมพูชา ปล่อยให้เกิดเหตุรุนแรงที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ใช้เด็ก พระ มายั่วยุ หวังสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าไทยทำร้าย พลตรีสุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านหนองหญ้าแก้ว เมื่อวานนี้ว่า ยืนยันเราไม่หลงทาง รู้ว่าทางกัมพูชาจะใช้แนวทางนี้ สุดท้ายเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น กัมพูชาบิดเบือนว่าถูกฝั่งไทยทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ขอถามว่า การใช้แก๊สน้ำตาของไทย จะทำให้บาดเจ็บสาหัสตรงไหน ฝากไปถึงสื่อเขมรด้วยให้ดูความถูกต้อง เมื่อวานตอนเย็น ฝ่ายเขมรก็สร้างละครขึ้นมาทันที ไม่จบสิ้น มีการใช้เด็ก พระ ขอถามความจริงใจไปยังผู้นำเขมร ข้อตกลงต่างๆ อย่าให้เป็นกระดาษ คำเขียน ขอให้นำสู่การปฏิบัติ ยืนยัน ภาค 1 จังหวัดสระแก้ว จริงใจนำไปสู่สันติวิธี และต้องการการตอบรับจากเขมรเช่นกัน เราเป็นผู้ใหญ่ใจดีมานานมากแล้ว 30-40 ปี ให้อยู่อย่างบ้านใกล้เรือนเคียงมีความสุขด้วยกัน แต่เขากลับออกนอกกติกาตลอด ยืนยันจะไม่เป็นผู้ใหญ่ใจดีอีกต่อไปแล้ว หากผิดข้อตกลง จะทำตามขั้นตอนจากเบาไปหนัก โดยใช้วิธีที่สุขุมและรอบคอบ ขอให้เลิกยืนอยู่ข้างหลังผู้หญิงได้แล้ว ยืนยันแผ่นดินของเราก็ต้องเป็นของเรา ส่วนคำถามที่ว่าทำไมต้องใช้ตำรวจ เพราะเราไม่หลงกลเขมร […]

ผบ.ตร. ให้กำลังใจกำลังพลพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

กทม. 18 ก.ย.-ผบ.ตร. ห่วงใย ส่งกำลังใจให้กำลังพลควบคุมสถานการณ์พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ย้ำการดำเนินการของตำรวจเป็นไปตามหลักสากล วันนี้ (18 กันยายน 2568) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วานนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานจากกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดน 4 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ร้อย ฉก.ตชด.4(ชค.ตชด.12)) กรณีเหตุการณ์บริเวณจุดปฏิบัติการที่ 34 กองร้อยทหารพรานที่ 1301 (ร้อย ทพ.1301) บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยเวลา 14.30 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 12 พร้อมด้วยชุดควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโคกสูง, เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.1301 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย ฉก.ตชด.1-4 ได้ดำเนินการลงพื้นที่ไปติดตั้งลวดหนามหีบเพลงบริเวณดังกล่าว จากนั้นเวลา 15.00 น. ได้มีผู้ชุมนุมฝ่ายกัมพูชาประมาณ 200 คน […]

มวลชนเขมรบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว

17 ก.ย.- เจรจาไม่เป็นผล! มวลชนกัมพูชาบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ เมื่อเวลา 15.53 น. กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณรั้วลวดหนาม หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ว่า มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่าทำลายรั้วลวดหนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ไม่เป็นผล เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชาที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่ละความพยายามยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไปเพราะถูกแก๊สน้ำตา ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคง ให้ข้อมูลว่าหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT ที่ทางกัมพูชาพามาลงพื้นที่ ได้เดินทางกลับแล้ว ทางฝ่ายไทยได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารไปจัดทำรั้วลวดหนามให้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่ทางกัมพูชาก็มีการขนคนมาสร้างความปั่นป่วน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ได้ให้ตำรวจไทย เฝ้าระวังป้องกันและดำเนินการ เบื้องต้นมีการใช้แก๊สน้ำตา และขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้ -สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุปะทะ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” จนท.ฝ่ายไทยเจ็บ

17 ก.ย.- กองทัพบกแจงเหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วงก่อความวุ่นวาย-ใช้ความรุนแรง จนท.ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ วันนี้ (17 ก.ย. 2568) เวลา 15.40 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา กรณีฝ่ายกัมพูชาได้นำประชาชนและมวลชนประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วงการปฏิบัติของฝ่ายไทย ระหว่างการวางเครื่องกีดขวางและลวดหีบเพลงเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด -สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงย้ำชัด “บ้านหนองหญ้าแก้ว” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย

16 ก.ย.- กองทัพบกชี้แจงเหตุชาวกัมพูชารื้อลวดหนามบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยืนยันอยู่ในเขตอธิปไตยไทยชัดเจน และการกระทำของกัมพูชาถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 14.30 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา กรณีเกิดเหตุการณ์ชาวบ้านกัมพูชาได้แสดงความไม่พอใจ และรื้อลวดหนามบางส่วน บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยแจ้งว่าทหารไทยกำลังล้อมลวดหนามเพิ่มเติมจากแนวเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าทหารกัมพูชาอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ภายหลังเกิดเหตุ กองกำลังบูรพาจึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังหน่วยทหารกัมพูชาที่ควบคุมพื้นที่ ให้เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาให้หยุดการกระทำดังกล่าว จนสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ ต่อกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงคือบริเวณแนวลวดหนามป้องกันตนเองดังกล่าวนั้น อยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทยอย่างชัดเจน แม้ว่าปัจจุบันเหตุการณ์คลี่คลายและกลับสู่ภาวะปกติแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มองว่าเข้าข่ายการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิง ที่ฝ่ายกัมพูชามีการกระทำที่แสดงออกถึงการยั่วยุฝ่ายไทย โดยการใช้ประชาชนมาแสดงออก โดยที่ฝ่ายทหารกัมพูชาเพิกเฉย ไม่ได้พยายามที่จะดำเนินการห้ามปรามใดๆ อีกทั้งมีความพยายามสร้างกระแสบิดเบือนข้อมูล ว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทั้งที่จริงแล้วเป็นพื้นที่ในเขตอธิปไตยไทยชัดเจน ซึ่งฝ่ายไทยจะได้รวบรวมหลักฐานประท้วงผ่านกลไกสากลต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงการกระทำที่ขัดต่อข้อตกลงที่มีระหว่างกันของฝ่ายกัมพูชาต่อไป -สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

เขมรชุมนุมกดดันให้ไทยรื้อรั้วลวดหนาม อ้างกระทบชีวิตประจำวัน

ตราด 16 ส.ค. – บริเวณจุดผ่านแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตึงเครียด ชาวกัมพูชารวมตัวชุมนุมกดดันให้ไทยรื้อถอนรั้วลวดหนามหีบเพลง อ้างส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา หรือ RBC สมัยวิสามัญ ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด โดยการประชุมครั้งนี้เป็นไปตามกรอบ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา เน้นย้ำประเทศไทยมุ่งไปสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ตามกติกาสากล และผลักดันข้อเสนอเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและปราบปรามสแกมเมอร์ หลังการประชุม สองฝ่ายลงนามบันทึกข้อตกลงเห็นชอบร่วมกันในข้อตกลง 13 ข้อ จากการประชุม GBC และเห็นชอบให้มีการจัดตั้งชุดประสานงานในพื้นที่ โดยฝ่ายไทยเพิ่มข้อเสนอเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รับความร่วมมือจากกัมพูชา จากผลการประชุมในวันนี้ (16 ส.ค.) ยังไม่ได้การตอบรับใดๆ จากฝ่ายกัมพูชา โดยยังหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะแสดงความจริงใจในการสนับสนุนภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ยังคงตกค้างอยู่ตลอดแนวชายแดน และการปราบปรามสแกมเมอร์ […]

1 2
...