มะนิลา 6 พ.ค.- การเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด 10 คน แต่มีผู้สมัครที่เป็นที่จับตามองเพียง 5 คนเท่านั้น
เฟอร์ดินันด์ “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์
มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี เป็นบุตรคนรองและบุตรชายคนเดียวของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอสที่เคยปกครองฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2508 แต่ถูกประชาชนลุกฮือขับไล่ในปี 2529 จนต้องพาครอบครัวลี้ภัยไปสหรัฐ มาร์กอส จูเนียร์กลับประเทศในปี 2534 และหวนคืนสู่สนามการเมืองด้วยการชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดอิโลคอส นอร์เต (ปี 2541-2550) สส.เขตอิโลคอส นอร์เต (ปี 2550-2553) และ สว. (ปี 2550-2559) เขาเป็นที่นิยมของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เกิดหลังยุคบิดาครองเมือง นักสังเกตการณ์ชี้ว่า สาเหตุที่เขามีคะแนนนำในการสำรวจส่วนใหญ่เพราะใช้สื่อสังคมออนไลน์เก่ง มาร์กอส จูเนียร์ประกาศตัวว่า เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำอย่างครบเครื่อง
เลนี โรเบรโด
รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน วัย 57 ปี เป็นผู้หญิงคนที่ 2 ของประเทศที่ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ต่อจากกลอเรีย มาคาปากัล-อาร์โรโย (ปี 2541-2544) เธอเป็นผู้สมัครหญิงเพียงคนเดียวในการเลือกตั้งครั้งนี้ หากชนะจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนที่ 3 ของประเทศ ต่อจากคอราซอน อากีโน (ปี 2529-2535) และกลอเรีย มาคาปากัล-อาร์โรโย (ปี 2544-2553) เธอชนะมาร์กอส จูเนียร์ในการเลือกตั้งรองประธานาธิบดีปี 2559 ด้วยคะแนนเฉียดฉิวร้อยละ 0.64 โรเบรโดมักวิพากษ์วิจารณ์โรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่อยู่คนละพรรค โดยเฉพาะเรื่องสงครามปราบปรามยาเสพติด เธอชูนโยบายเรื่องสร้างความโปร่งใสในภาครัฐ จะดูแลประชาชน และส่งเสริมระบบสาธารณสุข
ฟรานซิสโก โดมาโกโซ
นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา วัย 47 ปี อดีตดาราโทรทัศน์ที่เติบโตจากชุมชนแออัด เข้าสู่แวดวงการเมืองด้วยการเป็นสมาชิกสภาเทศมนตรีกรุงมะนิลาในปี 2541 จากนั้นไต่เต้าจนได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีในปี 2562 โค่นโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดี (ปี 2541-2544) ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในเวลานั้น (ปี 2556-2562) เขาประกาศไม่ยอมอดทนต่อจีนที่รุกรานน่านน้ำในทะเลจีนใต้ มุ่งปรับปรุงเรื่องที่อยู่อาศัย แรงงาน สาธารณสุข และสาธาณูปโภค
แมนนี ปาเกียว
วัย 43 ปี เจ้าของฉายา “เดอะแพ็คแมน” นักมวยสากลอาชีพที่ครองแชมป์โลก 8 รุ่นคนแรกของโลก คว้าชัยชนะแรกบนสังเวียนการเมืองด้วยการได้รับเลือกตั้งเป็น สส.สองสมัยในปี 2553 และ 2556 ตามด้วยการคว้าชัยในสนามเลือกตั้ง สว.ในปี 2559 เขาประกาศตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ก่อนประกาศแขวนนวมในอีก 10 วันต่อมา ปาเกียวเคยเป็นผู้สนับสนุนตัวยงของประธานาธิบดีดูเตอร์เต ทั้งเรื่องสงครามยาเสพติดและการนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ร้าวฉาน วิจารณ์ดูเตอร์เตเรื่องอิงจีนมากเกินไป เขาประกาศจะกวาดเจ้าหน้าที่ทุจริตเข้าคุก ปรับปรุงระบบสาธารณสุข หาบ้านให้คนจน และกระตุ้นเศรษฐกิจ มีคะแนนนิยมไล่เลี่ยกับนายโดมาโกโซ
ปันฟิโล ลักซอน
สว.วัย 73 ปี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ปี 2542-2544) เคยลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2547 แต่พ่ายให้แก่นางกลอเรีย มาคาปากัล-อาร์โรโย ประธานาธิบดีในขณะนั้น และจะลงอีกครั้งในปี 2559 แต่เปลี่ยนใจไปลงสนาม สว.และได้รับเลือกตั้ง เขาประกาศจะกำจัดเจ้าหน้าที่ทุจริต ลงทุนด้านสาธารณสุข และสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก.-สำนักข่าวไทย