มวลชนเขมรบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว

17 ก.ย.- เจรจาไม่เป็นผล! มวลชนกัมพูชาบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ เมื่อเวลา 15.53 น. กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณรั้วลวดหนาม หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ว่า มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่าทำลายรั้วลวดหนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ไม่เป็นผล เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชาที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่ละความพยายามยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไปเพราะถูกแก๊สน้ำตา ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคง ให้ข้อมูลว่าหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT ที่ทางกัมพูชาพามาลงพื้นที่ ได้เดินทางกลับแล้ว ทางฝ่ายไทยได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารไปจัดทำรั้วลวดหนามให้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่ทางกัมพูชาก็มีการขนคนมาสร้างความปั่นป่วน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ได้ให้ตำรวจไทย เฝ้าระวังป้องกันและดำเนินการ เบื้องต้นมีการใช้แก๊สน้ำตา และขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้ -สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุปะทะ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” จนท.ฝ่ายไทยเจ็บ

17 ก.ย.- กองทัพบกแจงเหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วงก่อความวุ่นวาย-ใช้ความรุนแรง จนท.ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ วันนี้ (17 ก.ย. 2568) เวลา 15.40 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา กรณีฝ่ายกัมพูชาได้นำประชาชนและมวลชนประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วงการปฏิบัติของฝ่ายไทย ระหว่างการวางเครื่องกีดขวางและลวดหีบเพลงเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด -สำนักข่าวไทย

...