รัฐบาล ยันไม่เคยมีนโยบายตัดงบฯ “มะเร็งรักษาทุกที่”

ทำเนียบ 9 ก.พ.-รัฐบาล ยันไม่เคยมีนโยบายตัดงบฯ “มะเร็งรักษาทุกที่” ไปให้ยาฮอร์โมนกลุ่มคนข้ามเพศ ย้ำงบประมาณรองรับมะเร็งรักษาทุกที่มีเพียงพอ เตือนคนสร้างข่าวเท็จอย่าทำร้ายคนไทยด้วยกันที่กำลังเจ็บป่วย

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลเป็นเท็จ ทาง Social Media ว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ออกประกาศไม่จ่ายค่ารักษามะเร็งตามแนวทางทางมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) แต่จะเอางบประมาณส่วนนี้ไปจ่ายสำหรับสิทธิประโยชน์ ยาฮอร์โมนกลุ่มคนข้ามเพศแทน นั้น สปสช. ชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าว ไม่เป็นความจริงและเป็นการโยงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาทำให้สังคมเข้าใจผิด ซึ่งปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยตามแนวทางมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) ดำเนินการตามประกาศและแนวทางเดิมทุกประการ พร้อมยืนยันว่าโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) รวมถึงการรักษาภาวะแทรกซ้อนและโรคร่วมโรคแทรกยังมีอยู่ ไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างใด หน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารังสีรักษา ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด โรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม โดยผู้ป่วยไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวเพื่อประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณ และ สปสช.จะจัดสรรงบให้หน่วยบริการโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวเช่นกัน ส่วนผู้ป่วยที่ทาง รพ.รับส่งต่อต้องการดูข้อมูลผู้ป่วยสามารถดูผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วย ขณะที่หน่วยบริการใช้ระบบการเบิกจ่ายเหมือนเดิม


นายคารม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.68 “มะเร็งรักษาทุกที่” ผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาที่ รพ. ที่มีศักยภาพด้านมะเร็งได้เหมือนเดิม ตามประกาศฉบับเดิม หลัง สปสช. ลงนามยกเลิกประกาศฉบับใหม่แล้ว ซึ่งหน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารังสีรักษา ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด โรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม ผู้ป่วยมะเร็งรับบริการเหมือนเดิมโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

“ขอเตือนไปยังผู้ที่จัดทำ fake News ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ติดตามต้นทางรวมทั้ง IP ของผู้แชร์ข่าวนี้แล้วโดยขอให้บุคคลเหล่านี้เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย หากไม่มีข้อมูลที่แท้จริงเพื่อจะได้ไม่ต้องทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยมะเร็ง” นายคารมกล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่