วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ-เลี่ยงชัตดาวน์
วุฒิสภาสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายเกี่วกับการใช่จ่ายเงินในช่วงเช้าตรู่วันนี้ ทันเวลาเส้นตายซึ่งทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์รัฐบาลได้ก่อนที่จะถึงช่วงเทศกาลวันหยุด
วุฒิสภาสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายเกี่วกับการใช่จ่ายเงินในช่วงเช้าตรู่วันนี้ ทันเวลาเส้นตายซึ่งทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์รัฐบาลได้ก่อนที่จะถึงช่วงเทศกาลวันหยุด
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ที่ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาล
วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]
วอชิงตัน 20 ธ.ค.- สหรัฐเผชิญวิกฤติงบประมาณต้องระงับการทำงานของหน่วยงานรัฐหรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ โดยหากไม่มีทางออกก็จะต้องชัตดาวน์ในวันเสาร์นี้ วิกฤติครั้งนี้มองกันว่าเริ่มต้นมาจากนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่จะทำหน้าที่ในรัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นายมัสก์ต่อต้านร่างกฎหมายงบประมาณเดิม ทำให้นายทรัมป์ต่อต้านไปด้วย ด้านพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์จึงได้เสนอร่างงบประมาณใหม่ขึ้นมาแทน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ต่างไปจากเดิมทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่รับรองเช่นกัน จึงเสี่ยงที่จะไม่มีกฎหมายทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่หน่วยงานรัฐบาลจะไม่มีงบประมาณใช้ หรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป ร่างงบประมาณใหม่ที่ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐมีเนื้อหาไม่ต่างจากร่างงบประมาณที่นายทรัมป์และนายมัสก์ตำหนิว่าอ่อนข้อให้แก่พรรคเดโมแครตมากเกินไป โดยร่างงบประมาณใหม่ได้ขยายเวลาจัดสรรงบประมาณไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 จัดสรรงบบรรเทาภัยพิบัติ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) และระงับการใช้เพดานหนี้สาธารณะเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ทรัมป์สามารถผ่านมาตรการลดภาษีตามที่หาเสียงไว้ ขณะนี้ยังไม่ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐสภาจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาชุดปัจจุบันที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครตและสมาชิกวุฒิสภาอิสระคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากไม่มีทางออกจะเป็นการชัตดาวน์ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีซ้ำสอง จากครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่างสมัยแรก และจะกระทบต่อการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนช่วงหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่.-812(814).-สำนักข่าวไทย
ปารีส 6 ธ.ค.- นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงต่อประชาชนทั้งประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จะอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไปจนกว่าจะครบวาระในเดือนพฤษภาคม 2570 หลังจากสมาชิกสภาลงมติล้มรัฐบาลได้ 1 วัน ประธานาธิบดีมาครง วัย 46 ปี แถลงทางโทรทัศน์เป็นเวลา 10 นาทีว่า เนื่องจากประชาชนได้มอบอำนาจในการบริหารประเทศเป็นเวลา 5 ปี เขาจึงจะขอใช้อำนาจนี้ไปจนถึงที่สุด และในเร็ว ๆ จะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายมีเชล บาร์นิเยร์ที่ลาออกเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม หลังจากถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากกรณีผลักดันร่างงบประมาณโดยไม่ผ่านสภา แต่ในระหว่างนี้นายมาครงได้ขอให้นายบาร์นิเยร์และรัฐบาลทำหน้าที่รักษาการไปก่อนจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ประธานาธิบดีมาครงกล่าวโทษสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า เกิดจากการไร้ความรับผิดชอบของ สส.ฝ่ายค้าน และว่าพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดและฝ่ายซ้ายได้ตั้งแนวร่วมต่อต้านสาธารณรัฐฝรั่งเศส.-816(814).-สำนักข่าวไทย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันสนับสนุนงบจัดซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ 2,055 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “กรีนซีเกมส์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”
ปารีส 28 พ.ย.- ผลสำรวจในฝรั่งเศสพบว่า ผู้ตอบร้อยละ 53 ต้องการให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมิเชล บาร์นิเยร์ล้ม เพราะไม่พอใจร่างงบประมาณของเขาที่จะมีการขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายภาครัฐ สำนักสำรวจแห่งหนึ่งได้สอบถามความเห็นคนในฝรั่งเศส 1,006 คน ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน และเผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุซูดเรดิโอ (Sud Radio) ในวันนี้ว่า ผู้ตอบร้อยละ 67 ไม่เห็นด้วยกับร่างงบประมาณของเขาที่ต้องการลดยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายภาครัฐรวมทั้งหมด 60,000 ล้านยูโร (ราว 2.18 ล้านล้านบาท) ขณะที่มีผู้ตอบเห็นด้วยร้อยละ 33 แหล่งข่าวจากพรรคการเมืองหลายขั้วเผยว่า รัฐบาลนายบาร์นิเยร์อาจล้มก่อนคริสต์มาส หรืออาจล้มไม่เกินสัปดาห์หน้า หากถูกพรรคการเมืองขวาจัดและฝ่ายซ้ายยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีแนวโน้มว่านายบาร์นิเยร์ จะไม่รอด นายบาร์นิเยร์ วัย 73 ปี ได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กันยายน หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาก่อนกำหนด เขามีนโยบายสนับสนุนยุโรปและอนุรักษ์นิยม ส่วนผลสำรวจที่สถานีโทรทัศน์บีเอฟเอ็มทีวี (BFM TV) เผยแพร่เมื่อวันพุธพบว่า ผู้ตอบร้อยละ 63 เห็นว่าประธานาธิบดีมาครง วัย 46 […]
คลังยันงบอัปเกรดโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่ง ไม่ถึง 2.4 หมื่นล้าน ย้ำรัฐบาลมีแหล่งเงินพอ โต้ดึงงบแจกเงินหมื่นเฟส 2 มาใช้ เผยไม่เร่งร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เข้า ครม. คาดชงหลัง ต.ค.
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศให้รัฐฟลอริดาเป็นเขตภัยพิบัติใหญ่จากเฮอริเคนมิลตัน (Milton) เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลกลางไปช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่น ฟื้นฟูความเสียหาย
วอชิงตัน 12 ต.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจะลงพื้นที่ประสบภัยเฮอริเคนมิลตัน (Milton) เพื่อตรวจเยี่ยมในวันอาทิตย์ และจะขอให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณในการฟื้นฟูความเสียหาย ประธานาธิบดีไบเดนรับฟังบรรยายสรุปเรื่องความเสียหายจากเฮอริเคนมิลตันพร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ทำเนียบขาวหลายคน เช่น รัฐมนตรีพลังงาน รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิ โดยมีรองประธานาธิบดีคอมมาลา แฮร์ริสเข้าร่วมการประชุมทางออนไลน์เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในที่ประชุมว่า ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ความเสียหายจากเฮอริเคนมิลตันในเบื้องต้นไว้ที่ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) รัฐบาลจะขอให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการฟื้นฟูความเสียหาย และจะเดินหน้าประสานงานเรื่องสิ่งจำเป็นกับทางการในพื้นที่ ทั้งเรื่องอาหาร น้ำ ยา และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า รวมทั้งจะหาทางทำให้ประชาชนมีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้โดยเร็วที่สุด ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางไปยังรัฐฟลอริดาในวันพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยเฮอริเคนมิลตัน ซึ่งพัดขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาด้านริมอ่าวเม็กซิโกเมื่อค่ำวันที่ 9 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่นด้วยความรุนแรงระดับ 3 จากนั้นได้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้สร้างความหวาดวิตกอย่างยิ่ง เพราะก่อนขึ้นฝั่งได้ทวีกำลังขึ้นเป็นเฮอริเคนระดับ 5 และเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่มีความรุนแรงที่สุดในโลกนับจากต้นปีจนถึงขณะนี้.-820(814).-สำนักข่าวไทย
“ภูมิธรรม-ธรรมนัส” เตรียมลงพื้นที่สุโขทัย-นครสวรรค์ ติดตามสถานการณ์น้ำเหนือ มั่นใจบริหารจัดการน้ำได้ ไม่กระทบพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ยืนยันไม่กระทบเรื่องงบประมาณ เป็นรัฐบาลมีอำนาจเต็ม สามารถของบ และสั่งการได้
สุโขทัย ลุ้นพรุ่งนี้ระดับน้ำไหลเข้าพื้นที่สูงสุด “จักรพงษ์” ชี้หากพ้นไปได้รอด เร่งเสนอ ครม. ของบฯ ใช้บริหารจัดการน้ำ ยืนยันน้ำไม่เท่าปี 54 ไม่ซ้ำรอยท่วม กทม.