เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

7 ก.พ. – เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด


ตลอดทั้งวันนี้ยังมีผู้คนและรถยนต์จากเมืองเมียวดีของเมียนมา ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 มาเติมน้ำมันตามปั๊มในฝั่งไทยจำนวนมาก เพราะน้ำมันในเมืองเมียวดี เริ่มขาดแคลนหนัก โดยปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ 20 กว่าแห่ง มีน้ำมันสำรองไว้อีก 3 วันเท่านั้น

ยางมะตินติน เมี๊ยะ ประธานหอการค้าเมียวดีของเมียนมา ยอมรับว่าตอนนี้ชาวเมืองเมียวดี ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการตัดไฟฟ้าและน้ำมันจากฝั่งไทย โดยกระแสไฟฟ้าจากไทยส่วนใหญ่ใช้ในสถานที่ราชการและโรงพยาบาล แต่ในส่วนพื้นที่กลุ่มจีนเทาอยู่ห่างจากตัวเมือง 40 กิโลเมตร มีการเตรียมการรองรับไว้ล่วงหน้า ทั้งน้ำมัน ระบบไฟ และการใช้ดาวเทียม จึงไม่มีผลกระทบมากนัก ในฐานะภาคเอกชนและชาวเมียวดี อยากเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนมาตรการ โดยเฉพาะการส่งน้ำมันที่กระทบกับชาวเมียวดี และการค้าของทั้ง 2 ประเทศ เพราะรถสินค้าไม่มีน้ำมันที่จะไปส่งสินค้าได้ ในฐานะคนเมียวดี ไม่เห็นด้วยกับการมาตั้งฐานทำผิดกฎหมายของกลุ่มจีนเทา เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลไทยร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดกว่า โดยตนเองได้ยื่นหนังสือไปยังรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศแล้ว เพื่อแก้ปัญหา โดยไม่กระทบกับคนชายแดน


ด้านนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ประชุมกับผู้ประกอบการท่าข้ามชายแดน 59 แห่งตามแนวชายแดน ที่ อ.แม่สอด กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสินค้าที่ส่งข้ามไปต้องไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งสินค้าต้องห้ามตามมาตรการ โดยเฉพาะน้ำมัน ตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งให้หน่วยความมั่นคงเพิ่มความเข้มงวดในการคุมเข้มพื้นที่ชายแดน ป้องกันผู้คนที่จะลักลอบข้ามแดนมาฝั่งไทย หรือขนสินค้าต้องห้ามไปยังฝั่งเมียนมา รวมทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาชายแดนแม่สอด ซึ่งในช่วง 3 สัปดาห์ มีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง

รถน้ำมันโอดติดค้างกว่า 40 คัน
หลังจากประเทศไทยปิดการส่งกระแสไฟฟ้าให้กับจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 2 จุด ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้ขอซื้อกระแสไฟฟ้าจาก สปป ลาว ที่อยู่ติดกัน มาทดแทน ปรากฏว่าวันที่ 6 ก.พ. ทาง สปป ลาว แจ้งล่วงหน้าเพียงครึ่งวันว่าจะลดการส่งกระแสไฟฟ้า จากเดิมกำหนด 30 เมกะวัตต์ เหลือเพียง 13 เมกะวัตต์

ด้านการข้ามพรมแดนยังคงพบว่ามีชาวเมียนมาข้ามไป-มาตามปกติ แม้จะมีกระแสสั่งงดใช้หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต เดินทางข้ามพรมแดนประเทศไทย แต่ชาวเมียนมาและชาวไทยต่างใช้บอเดอร์พาส หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว ข้ามไป-มาได้ตามปกติ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าเป็นมาตรการตอบโต้รัฐบาลไทย ที่ตัดไฟฟ้าและงดส่งน้ำมัน โดยการสั่งการของรัฐบาลเมียนมาดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตอบโต้รัฐบาลไทย แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารของรัฐบาลเมียนมาที่ใกล้จะมาถึง ซึ่งเป็นการป้องกันการหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ตามคำสั่งคณะรัฐประหารได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศสำหรับชายอายุ 18-35 ปี ภายใต้กฎหมายการเกณฑ์ทหาร โดยไม่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศจนกว่าจะผ่านกระบวนการเกณฑ์ทหาร


กรณีงดส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง พบว่าประชาชนยังคงนำรถไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิงตามปั๊มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่มาตรการห้ามส่งออกน้ำมัน ตอนนี้ไม่เพียงแต่ในฝั่งเมียนมา ที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้น ในฝั่งไทย ภาคการขนส่งก็ได้รับผลกระทบ โดยพบว่ารถขนส่งน้ำมันกว่า 40 คัน จอดรอบริเวณที่พักกรมทางหลวง บ้านน้ำจำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังไม่สามารถส่งน้ำมันไปจังหวัดท่าขี้เหล็กได้ เป็นไปตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ

คนขับรถขนส่งน้ำมันหลายคนนอนพักกันที่นี่ บางคนรอแล้ว 2-3 วัน ได้รับผลกระทบหนัก เพราะมีรายได้ขับรถเป็นเที่ยว หลายคนเพิ่งทราบห้ามส่งออกน้ำมัน มาทราบประกาศภายหลัง เมื่อมาแล้วต้องอยู่รอว่าจะเปิดให้รถข้ามเมื่อใด ผ่านมา 2-3 วันก็ต้องลุ้นอยู่ ต้องการให้ปล่อยรถที่มาก่อนได้นำน้ำมันไปส่งก่อน ถ้าหากอยู่แบบนี้ต่อไปคงลำบาก เพราะต้องออกค่าใช้จ่ายต่างๆ เอง จะไปไหนก็ไม่ได้

ทหารคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งพญาตองซู
พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ผบ.กกล.สุรสีห์ เปิดเผยระหว่างกองทัพบกนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี ระบุหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติมีมติให้ตัดกระแสไฟฟ้า 5 จุดตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ ในส่วนชายแดนฝั่ง จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองพญาตองซู หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ลงพื้นที่ทำความเข้าใจชาวบ้าน ผู้ประกอบการ พร้อมเฝ้าระวังชายแดน และขอความร่วมมือไม่ให้มีการจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่จะสามารถทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า แต่ในส่วนของโซลาร์เซลล์ แม้จะไม่ได้มีการสั่งห้าม แต่ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการไม่นำออกไปจำหน่าย หรือขนย้ายข้ามประเทศผ่านศุลกากรโดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม พื้นที่พญาตองซู สถานการณ์ยังเป็นปกติ และยังสามารถใช้ไฟฟ้าได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้เครื่องปั่นไฟและแผงโซลาร์เซลล์ ขณะเดียวกันพบว่ามีการกักตุนน้ำมันมากขึ้น จึงกำชับผู้ประกอบการห้ามจำหน่ายน้ำมันให้กับฝั่งตรงข้ามเด็ดขาด รวมถึงปิดช่องทางธรรมชาติที่กลุ่มกองทัพมดจะใช้เป็นช่องทางในการลักลอบขนส่งน้ำมันและสายสัญญาณโดยผิดกฎหมาย

“ภูมิธรรม” โต้ข่าวเมียนมาปิดด่านชายแดน ก่อนตัดไฟคุยแล้ว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลเมียนมาโต้กลับรัฐบาลไทย ปิดด่านชายแดนบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (ด่านพรมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) โดยปฏิเสธให้ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต ข้ามแดนมายังประเทศไทย ว่าไม่น่าจะมีการตอบโต้ เพราะการดำเนินมาตรการนี้ได้พูดคุยกับรัฐบาลเมียนมาก่อนแล้วที่จะร่วมมือกัน และภายหลังมีมติจากที่ประชุม สมช. ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังทางการเมียนมา เช่นเดียวกับฝ่ายทหารมีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของทางการเมียนมา ยืนยันการเข้า-ออกบริเวณด่านสะพานดังกล่าวยังเข้าออกได้ตามปกติ แต่ต้องมีการควบคุมสินค้าที่เป็นสิทธิต้องห้าม

วันนี้รถยนต์-รถจักรยานยนต์ ยังสามารถเข้ามาเติมน้ำมันในไทยได้ ยังอะลุ้มอล่วยเพื่อไม่ให้กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ ขณะที่โรงพยาบาลเมียวดี ก็ประสานไปว่าหากมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือ โรงพยาบาลแม่สอด พร้อมรับมาดูแลรักษา ส่วนมาตรการดังกล่าวจะยาวนานหรือไม่ขึ้นอยู่กับผลสัมฤทธิ์ เราต้องการกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง เบื้องต้นวางกรอบเวลาไว้ประมาณ 6 เดือน และดูว่าช่วงไตรมาสแรกจะเป็นอย่างไร ต้องดูผลกระทบและตัดสินใจ

กต.แจงข่าวการเดินทางข้ามเมียนมา-ไทยยังปกติ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงตามที่ได้ปรากฏรายงานข่าวว่าทางการเมียนมาได้ออกคำสั่งระงับการเดินทางข้ามแดนจากท่าขี้เหล็กไปยัง อ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2568 นั้นนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้ตรวจสอบจากทางการเมียนมาแล้ว ยืนยันว่ายังไม่มีการออกคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด โดยบุคคลสัญชาติเมียนมาที่ถือหนังสือเดินทางและมีวีซ่า ยังสามารถเดินทางเข้าไทยได้ปกติ

ทั้งนี้ ในวันนี้ (7 ก.พ.) บริเวณด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ยังมีบุคคลสัญชาติเมียนมาเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งด้วยบัตรผ่านแดน (border pass) และหนังสือเดินทาง นับร้อยราย กระทรวงการต่างประเทศจึงขอแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าว และขอยืนยันว่ารายงานข่าวบางกระแสที่ระบุว่าทางการเมียนมาสั่งระงับการเดินทางเพื่อตอบโต้มาตรการของไทยนั้น เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน

ตำรวจไซเบอร์พบคนไทยลอบส่งสัญญาณเน็ตบ้าน-ไฟฟ้า
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า จากปฏิบัติการลงพื้นที่ชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี วานนี้ (6 ก.พ.) ตรวจพบสายอินเทอร์เน็ตที่มีการลักลอบเชื่อมโยงออกจากผู้รับบริการชาวไทย ซึ่งเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้าน ดัดแปลงสัญญาณส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยโยงสายข้ามไปชายแดน ซึ่งพื้นที่บ้านของผู้ลักลอบมีถนนคั่นกลางกับประเทศเพื่อนบ้านเพียง 3-4 เมตร

นอกจากนี้ยังพบการติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของค่ายเอกชน หันเสาไปยังเขตเพื่อนบ้าน เชื่อว่าการส่งสัญญาณลักษณะนี้ไม่ได้ส่งให้คนไทยตามแนวชายแดนใช้ จึงประสาน กสทช. เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งยังพบว่า มีการลักลอบจ่ายกระแสไฟข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนนี้ได้ประสานทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ จุดที่ลักลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมถึงจ่ายกระแสไฟฟ้า ห่างกับที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพียงไม่กี่เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว มีชาวจีนและคนไทยหลบหนีออกมาจากสถานที่ดังกล่าวหลายคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]