ความมั่นคง

วอชิงตัน 5 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐลงนามในคำประกาศในวันพุธ ห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ โดยกล่าวว่า การดำเนินการเรื่องนี้มีความจำเป็นเพื่อป้องกัน “ผู้ก่อการร้าย” ต่างชาติและภัยคุกคามด้านความมั่นคงอื่น ๆ ประเทศที่ถูกสั่งห้ามเข้าเด็ดขาด 12 ประเทศได้แก่ อัฟกานิสถาน, เมียนมา, ชาด, คองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน ส่วนอีก 7 ประเทศจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดบางส่วน ได้แก่ บุรุนดี, คิวบา, ลาว, เซียร์รา ลีโอน, โตโก, เติร์กเมนิสถานและเวเนซูเอลา นายทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ทางวิดีโอจากทำเนียบขาวว่า รายชื่อประเทศเหล่านี้อาจมีการทบทวนเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีการปรับปรุงที่สำคัญหรือไม่ และในทำนองเดียวกัน ประเทศใหม่ๆ ก็สามารถถูกเพิ่มเข้ามาได้ หากมีภัยคุกคามเกิดขึ้นทั่วโลก ประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เวลา 00:01 น. ตามเวลาในสหรัฐ […]

สิงคโปร์ 30 พ.ค. – นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเดินทางถึงสิงคโปร์แล้วและในวันนี้ได้พบปะกับนายชาน ชุง ซิง รัฐมนตรีกลาโหมของสิงคโปร์ ก่อนจะเข้าร่วม การประชุมความมั่นคง “แชงกรีล่า ไดอะล็อก” (Shangri-La Dialogue) ในวันพรุ่งนี้ นายเฮกเซธมีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์เรื่องนโยบายด้านกลาโหมของสหรัฐในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกต่อที่ประชุมครั้งนี้ด้วย การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองภัยคุกคามจากการพัฒนากองทัพของจีนและความตึงเครียดในทะเลจีนใต้รวมทั้งข้อพิพาททั่วเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหรัฐเคยเปิดเผยกับสื่อว่านายเฮกเซธจะพยายามโน้มน้าวให้ชาติพันธมิตรในเอเชียเห็นว่าสหรัฐเป็นพันธมิตรที่ดีกว่าจีน.-816.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 3 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอร่างงบประมาณปี 2569 ที่ตัดลดงบประมาณด้านสังคม เช่น สาธารณสุข การศึกษา ลงอย่างมาก และเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมและความมั่นคงอย่างเห็นได้ชัด หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า พิมพ์เขียวงบประมาณปี 2569 ของรัฐบาลทรัมป์เสนอของบประมาณที่ลดลงร้อยละ 22.6 จากงบประมาณปี 2568 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน โดยเสนอลดงบประมาณที่ไม่ใช่กลาโหมลง 163,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.4 ล้านล้านบาท) ด้วยการลดงบประมาณสำหรับโครงการสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียน สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สำนักงานควบคุมแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืนและวัตถุระเบิด สถาบันสุขภาพแห่งชาติ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค แต่จัดสรรงบประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,570 ล้านบาท) ให้แก่โครงการเมค อเมริกา เฮลตี อเกน (Make America Healthy Again) ของนายโรเบิร์ต […]

วอชิงตัน 2 พ.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐปลดนายไมค์ วอลซ์ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ จากเหตุแผนโจมตีเยเมนรั่วไหลสู่ภายนอก โดยจะโยกไปนั่งตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวานนี้ว่า นายวอลซ์ได้ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ โดยเขาจะแต่งตั้งให้ไปรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติคนต่อไป พร้อมกล่าวเสริมว่า นายวอลซ์ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก ขณะเดียวกันเขาได้แต่งตั้งนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นการชั่วคราว เป็นการปรับคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งสำคัญของคนใกล้ชิดทรัมป์ครั้งแรก ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายวอลตซ์ อดีตสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกัน วัย 51 ปี จากรัฐฟลอริดา เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในทำเนียบขาว หลังจากตกเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อเดือนมีนาคม กรณีการสนทนาผ่านห้องแชทซิกนัล (Signal) ที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้น เพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเรื่องวางแผนโจมตีทางทหารในเยเมน แต่เขากลับดึงนักข่าวคนหนึ่งมาเข้าร่วมกลุ่มแชทโดยไม่ตั้งใจ ทำให้แผนการโจมตีดังกล่าวรั่วไหลสู่ภายนอก นักวิเคราะห์มองว่า ทรัมป์และทำเนียบขาวทราบดีถึงความร้ายแรงของข่าวอื้อฉาวดังกล่าว แต่รอให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้เริ่มซาลงก่อน จึงค่อยดำเนินการปลดวอลซ์ ต้นเหตุของเรื่องนี้ออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเป็นตำแหน่งทรงอำนาจที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภา ทั้งนี้ในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกปี 2560-2564 นายทรัมป์มีที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติทั้งหมด 4 คน.-815(814).-สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่จีนมีคำสั่งให้ผู้นำด้านการประกอบการธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ และนักวิจัยด้านนี้ของจีนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสหรัฐ

มะนิลา 24 ก.พ.- ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์เห็นพ้องเรื่องการยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงเพื่อรับมือกับจีน นายเก็น นากาตานิ รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ได้เดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ และได้หารือกับนายกิลแบร์โต เตโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ ตกลงกันที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อต่อต้านความเคลื่อนไหวของจีนทั้งในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมทางการทหารร่วมกัน การแลกเปลี่ยนของเยือนของเรือรบ รวมไปถึงการแบ่งปันข้อมูล จากนั้นในอนาคตทั้งสองประเทศจะหารือกันเพื่อจัดตั้งกลไกในการรักษาข้อมูลข่าวกรองที่ละเอียดอ่อนด้วย ทั้ง 2 ประเทศนี้ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐได้กระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีความกังวลร่วมกันเรื่องจีนมีการกระทำที่แสดงความมั่นใจในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้วญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ได้ลงนามสนธิสัญญาทางทหารครั้งสำคัญที่อนุญาตให้แต่ละฝ่ายส่งกองกำลังไปประจำการในดินแดนของอีกฝ่ายได้.-812(814).-สำนักข่าวไทย

แอปเปิลเปิดให้ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในสหรัฐสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นติ๊กต่อกบนแอปสโตร์ได้อีกครั้งตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่ต้องระงับให้บริการไปนานหลายสัปดาห์

อีลอน มักส์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 1 ของโลก กล่าวว่า เขาไม่สนใจในการซื้อกิจการติ๊กต็อก แอปพลิเคชั่นแชร์วิดีโอสั้นยอดนิยม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเผยผ่านบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” ของตนเองว่า มีผู้ให้ความสนใจมากมายเกี่ยวกับแอพลิเคชั่นติ๊กต็อก