ครม.เห็นชอบวงเงินงบประมาณปี 69 จำนวน 3.78 ล้านล้าน

ทำเนียบฯ 7 ม.ค. – ครม.เห็นชอบวงเงินงบประมาณปี 69 จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท โดยงบประมาณปีนี้ดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงสร้างเสริมขีดความสามารถของประเทศ เร่งแก้ปัญหาเร่งด่วนที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ทั้งปัญหาหนี้สิน รายได้ ค่าครองชีพ


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีกรอบวงเงินทั้งหมด 3,780,600 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างงบประมาณฯ วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ประกอบด้วย รายจ่ายประจำ 2,645,858.9 ล้านบาท เป็นรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 123,541.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.3% โดยงบประมาณปีนี้ดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงสร้างเสริมขีดความสามารถของประเทศ และเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วนที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ทั้งปัญหาหนี้สิน รายได้ และค่าครองชีพ ตลอดจนสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้เป็นการต่อยอดภาคการผลิต พัฒนาภาคการผลิต เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเท่าเทียมกันอย่างยั่งยืน

นายจิรายุ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ยังเน้นไปยังส่วนราชการต่างๆ ให้นำไปปฏิบัติดังนี้ 1.ให้กระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้เทียบเคียงกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับประเทศไทย 2.ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบที่ได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ส่วนการจัดทำคำของบประมาณให้ขอรับเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ


3.ส่วนราชการและหน่วยงานราชการที่มีเงินนอกงบประมาณ ทั้งเงินรายได้และเงินสะสมให้นำเงินส่วนดังกล่าวมาใช้ในการดำเนินโครงการ นอกจากนี้ยังกำชับให้ส่วนราชการที่มีเงินนอกงบประมาณนำเงินส่วนนี้ไปใช้ก่อนเป็นภารกิจหลัก 4.ให้ทุกกระทรวงและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐวิสาหกิจ รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องและจูงใจภาคเอกชน เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ฝุ่นpm

เขตหนองแขม อ่วมฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง

คนกรุงเทพฯ อ่วม คุณภาพอากาศเช้านี้ ฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่ เขตหนองแขม และอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 69 พื้นที่