‘ทรัมป์’ ห้ามพลเมือง 12 ประเทศเข้าสหรัฐ-อ้างความมั่นคง

วอชิงตัน 5 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐลงนามในคำประกาศในวันพุธ ห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐ โดยกล่าวว่า การดำเนินการเรื่องนี้มีความจำเป็นเพื่อป้องกัน “ผู้ก่อการร้าย” ต่างชาติและภัยคุกคามด้านความมั่นคงอื่น ๆ ประเทศที่ถูกสั่งห้ามเข้าเด็ดขาด 12 ประเทศได้แก่ อัฟกานิสถาน, เมียนมา, ชาด, คองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน ส่วนอีก 7 ประเทศจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดบางส่วน ได้แก่ บุรุนดี, คิวบา, ลาว, เซียร์รา ลีโอน, โตโก, เติร์กเมนิสถานและเวเนซูเอลา นายทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ทางวิดีโอจากทำเนียบขาวว่า รายชื่อประเทศเหล่านี้อาจมีการทบทวนเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีการปรับปรุงที่สำคัญหรือไม่ และในทำนองเดียวกัน ประเทศใหม่ๆ ก็สามารถถูกเพิ่มเข้ามาได้ หากมีภัยคุกคามเกิดขึ้นทั่วโลก ประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน เวลา 00:01 น. ตามเวลาในสหรัฐ […]

‘ทรัมป์’ บอก ‘ปูติน’ จะตอบโต้การโจมตีของยูเครน

วอชิงตัน 5 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่ารัสเซียจะตอบโต้ยูเครน กรณีการส่งโดรนโจมตีฐานทัพอากาศในรัสเซีย จนทำให้เครื่องบินรบหลายลำของรัสเซียถูกทำลายเสียหาย นายทรัมป์เผยวานนี้ว่า เขาได้หารือทางโทรศัทพ์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงเกี่ยวกับกรณียูเครนส่งโดรนโจมตีรัสเซียเมื่อไม่กี่วันมานี้ และพัฒนาการที่เกี่ยวกับอิหร่าน ซึ่งระหว่างการสนทนากัน นายปูตินบอกกับเขาว่า รัสเซียจะตอบโตยูเครนกรณีส่งโดรนโจมตี นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ที่เป็นแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า การพูดคุยกับนายปูตินเป็นการสนทนาที่ดี แต่ไม่ใช่การสนทนาที่จะนำไปสู่สันติภาพทันที นายทรัมป์กล่าวว่า เขาได้บอกกับนายปูตินว่า อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งในประเด็นนี้ เขาเชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกัน และนายปูตินแนะนำว่า เขาสามารถช่วยในการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่านได้ ด้าน ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศทำเนียบเครมลิน แถลงวานนี้ว่า นายปูตินได้หารือเรื่องความขัดแย้งในยูเครน ระหว่างโทรศัพท์พูดคุยกับทรัมป์ ซึ่งการสนทนามุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ที่ยูเครนโจมตีพลเรือนรัสเซีย และการเจรจาสันติภาพรอบสองระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นเครื่องบินหลายลำที่ถูกทำลายบนลานจอดเครื่องบินของฐานทัพอากาศรัสเซีย 2 แห่ง หลังจากถูกกองทัพยูเครนโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ยูเครนส่งโดรน 117 ลำ โจมตีเป้าหมายสนามบินของกองทัพในภูมิภาคมูร์มันสก์, […]

‘ทรัมป์’ ชี้ ‘สี จิ้นผิง’ เป็นคนแข็งและเจรจายาก

วอชิงตัน 4 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เป็นคนแข็งและเป็นเรื่องยากที่จะทำข้อตกลงด้วย นายทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านทาง “ทรูธ โซเชียล” แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่เขาเป็นเจ้าของว่า เขาชอบประธานาธิบดีสี ของจีน ชอบมาตลอดและจะชอบตลอดไป แต่เขาเป็นคนที่แข็งมาก และยากอย่างยิ่งที่จะทำข้อตกลงด้วย แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกประจำทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นายทรัมป์อาจจะได้พูดคุยกับนายสี ในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ผู้นำทั้งสองพยายามปรับแก้ความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับข้อตกลงภาษีที่คุยกันเมื่อเดือนที่แล้วที่นครเจนีวา รวมถึงประเด็นทางการค้าที่สำคัญอื่น ๆ ด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

‘หวัง อี้’ พบปะทูตสหรัฐประจำจีนคนใหม่

ปักกิ่ง 5 มิ.ย. — นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ต้อนรับนายเดวิด เพอร์ดิว ที่เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีนคนใหม่ และแสดงความหวังว่าเขาจะดำเนินบทบาทเชิงรุกในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีเสถียรภาพอันดีและยั่งยืน สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหวังกล่าวว่าปัจจุบันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอยู่บนจุดตัดที่สำคัญ โดยหากมองย้อนเส้นทางตลอดระยะเวลาเกือบครึ่งศตวรรษนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อเท็จจริงอันสลักสำคัญที่สุดคือความเท่าเทียมและความเคารพเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นของการแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝ่าย ขณะการเจรจาและความร่วมมือเป็นตัวเลือกเดียวที่ถูกต้อง นายหวังเน้นย้ำว่าหลังจากการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีในนครเจนีวา จีนได้ดำเนินการตามฉันทามติที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุร่วมกันอย่างจริงจังและเข้มงวด แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่สหรัฐ กลับดำเนินมาตรการเชิงลบต่างๆ ด้วยเหตุผลที่ไร้มูลฐาน ละเมิดสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายของจีน ซึ่งจีนคัดค้านการกระทำเช่นนี้อย่างยิ่ง นายหวังกล่าวว่าฝ่ายสหรัฐ ควรพบกันครึ่งทางกับจีน ดำเนินการตามฉันทามติสำคัญที่สองผู้นำประเทศบรรลุร่วมกันระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเดือนมกราคมปีนี้อย่างตั้งใจจริง และสร้างเงื่อนไขอันจำเป็นต่อการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีกลับสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ด้านเพอร์ดิวกล่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคารพนับถือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อย่างมาก และการที่สองผู้นำประเทศรักษาการแลกเปลี่ยนเชิงบวกและสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเขาในฐานะเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำจีน ยินดีจะรักษาการสื่อสารใกล้ชิดกับฝ่ายจีนด้วยเจตจำนงของความเคารพซึ่งกันและกันและการเจรจา.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์-มัสก์’ อำลาหลัง ‘มัสก์’ พ้นตำแหน่งในรัฐบาล

วอชิงตัน 31 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐี ซีอีโอ ของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา จะยังคงเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของเขาต่อไป หลังจากที่ นายมัสก์ได้สิ้นสุดบทบาท 4 เดือนที่วุ่นวายในการเป็นผู้นำการรณรงค์ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ในระหว่างงานอำลาในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาว นายทรัมป์ได้กล่าวชื่นชมผลงานของนายมัสก์ในฐานะหัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล ซึ่งได้ยกเลิกตำแหน่งงานหลายพันตำแหน่งและลดการใช้จ่ายหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศส่วนใหญ่ของสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวที่โต๊ะทำงานของเขาในขณะที่นายมัสก์ยืนอยู่ทางด้านขวาของเขาว่า นายมัสก์จะยังคงไม่ได้ไปไหน แต่จะไป ๆ มา ๆ ที่ทำเนียบขาว นายทรัมป์ยังได้มอบลูกกุญแจทองคำขนาดใหญ่ที่อยู่ในกล่องไม้ซึ่งมีลายเซ็นของเขาให้กับนายมัสก์ ซึ่งเป็นของขวัญที่เขากล่าวว่าสงวนไว้สำหรับ “บุคคลพิเศษมาก” เท่านั้น ทางด้านนายมัสก์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของคณะที่ปรึกษาของนายทรัมป์ นายมัสก์ระบุว่า เขาคาดว่าจะยังคงเป็นเพื่อนและที่ปรึกษา และแน่นอนที่สุด หากมีอะไรที่ประธานาธิบดีต้องการให้เขาทำ เขาก็พร้อมรับใช้ประธานาธิบดี นายมัสก์ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า เขาจะยุติการทำงานเมื่อสิ้นสุดวาระ 130 วันที่กำหนดไว้ในฐานะลูกจ้างพิเศษของรัฐบาล ซึ่งกำหนดจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤษภาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มาตรการภาษี ‘ทรัมป์’ ยังบังคับใช้

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางมีคำสั่งในวันพฤหัสบดี ให้มาตรการภาษีตอบโต้ที่ครอบคลุมมากที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งเป็นการชั่วคราว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ตัดสินว่านายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเรียกเก็บภาษีเหล่านั้นและสั่งให้ระงับมาตรการภาษีดังกล่าวทันที ศาลอุทธรณ์กลางแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำเขตวอชิงตัน ระบุว่ากำลังระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล และมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีในคดีนี้ยื่นเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกฟ้องร้องหรือเป็นผู้กำหนดภาษี ให้ส่งเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 9 มิถุนายน นายทรัมป์เขียนแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขาหวังว่าศาลฎีกาของสหรัฐจะ ‘กลับคำตัดสินอันเลวร้ายที่คุกคามประเทศ’ ของศาลการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตุลาการของรัฐบาลว่า ‘เป็นปฏิปักษ์ต่ออเมริกา’ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าระหว่างประเทศ ตัดสินว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่รัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี ในการเรียกเก็บภาษีและอากรศุลกากร และประธานาธิบดีได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยการอ้างใช้กฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เสนอให้ฮาร์วาร์ดมีเพดาน นศ. ต่างชาติร้อยละ 15

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสนอให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถาบันการศึกษาระดับแนวหน้าของสหรัฐกำหนดเพดานนักศึกษาต่างชาติไม่ให้เกินร้อยละ 15 ของนักศึกษาทั้งหมด นายทรัมป์ระบุวานนี้ว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดต้องแสดงรายชื่อนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากรัฐบาลอยากรู้ว่ามาจากประเทศอะไรบ้าง พร้อมกับอ้างว่า นักศึกษาหลายคนในฮาร์วาร์ดเป็นพวกก่อปัญหา นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า เขาคิดว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดควรกำหนดเพดานจำนวนนักศึกษาต่างชาติไว้ไม่เกินร้อยละ 15 เพราะมีคนที่อยากเรียนในฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยอื่นๆ แต่ไม่สามารถเข้าเรียนได้เพราะมีนักศึกษาต่างชาติอยู่ ข้อมูลในปี 2023 พบว่า ฮาร์วาร์ดมีนักศึกษาต่างชาติอยู่มากกว่าร้อยละ 27 ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมด หรือเกือบ 6,800 คน จากกว่า 140 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก.-815.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : ศาลสั่งเบรกภาษีทรัมป์-เหตุใช้อำนาจเกินขอบเขต

29 พ.ค. – สงครามการค้าจากมาตรการภาษีสหรัฐมาถึงจุดผกผัน เมื่อศาลสหรัฐมีคำตัดสินสกัดกั้นแล้ว เพราะขัดกับกฎหมาย ทั่วโลกขานรับด้วยความยินดีกับคำตัดสินของศาล เพราะมาตรการภาษีสร้างความปั่นป่วนแม้จะไม่ได้บังคับเต็มรูปแบบ แต่ยังมีความไม่แน่นอนตามมาอยู่เช่นเดิมว่ารัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะงัดอะไรออกมาต่อสู้ ตลาดทุนตอบรับด้วยความยินดี ดัชนีหลักทรัพย์ขยับเพิ่มขึ้นสอดรับกับข่าวดี ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับเพิ่มทันที ฝ่ายการเมือง ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ชื่นชมคำสั่งศาลที่สกัดกั้นการใช้อำนาจบริหารของประธานาธิบดี เรียกว่า “เป็นชัยชนะของครอบครัวแรงงาน” บ้างเตือนว่ายังต้องต่อสู้ต่อไปเพื่อกำจัดความวุ่นวายจากนายทรัมป์ หลายคนบอกสมควรแล้ว เป็นการปกป้องธุรกิจและครอบครัวจากภาษีที่โหดร้าย สอดคล้องกับคนแทบทุกมุมโลกที่ตกอยู่ในภาวะตื่นกลัวมานานกับสภาพซบเซา หาปัจจัยบวกไม่เจอ เศรษฐกิจซึมยาวตั้งแต่ยุคโควิด วันที่ 2 เมษายน นายทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีที่เขาเรียกว่า ภาษีวันปลดแอก เพื่อยุติการเอารัดเอาเปรียบจากคู่ค้า หวังให้เป็นแหล่งรายได้ ตัดลดการขาดดุลงบการค้า สร้างงานภายในประเทศ ตามนโยบายหลักของเขา เพื่อสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายสภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ ปี 1977 หรือ IEEPA อ้างว่าสหรัฐกำลังเผชิญภาวะฉุกเฉิน โดยที่ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา จนกระทั่งนาทีนี้ ภาษีทรัมป์ถูกขวางแล้วด้วยอำนาจตุลาการ ศาลการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับเรื่องฟ้องร้องจากกลุ่มธุรกิจผู้เสียหาย และรัฐต่างๆ กว่า 10 รัฐ ที่รวมตัวกันเป็นโจทก์ร่วมคณะผู้พิพากษา 3 คน […]

ศาลสหรัฐระงับมาตรการภาษีส่วนใหญ่ของ ‘ทรัมป์’

นิวยอร์ค 29 พ.ค. – ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐมีคำสั่งในวันพุธ ห้ามมิให้มาตรการภาษีตอบโต้ประเทศต่าง ๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลบังคับใช้ โดยระบุว่า ประธานาธิบดีใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการกำหนดภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมหรือเหมารวมกับประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ศาลการค้าระหว่างประเทศระบุว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐ ให้อำนาจพิเศษเฉพาะแก่รัฐสภาในการควบคุมการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถถูกยกเลิกได้ด้วยอำนาจฉุกเฉินของประธานาธิบดีในการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐ คณะผู้พิพากษาสามคนระบุในการตัดสินใจออกคำสั่งห้ามถาวรสำหรับคำสั่งภาษีแบบเหมารวมที่นายทรัมป์ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ศาลไม่ได้ตัดสินถึงความเหมาะสมหรือประสิทธิภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ประธานาธิบดีใช้มาตรการภาษีเป็นเครื่องต่อรอง แต่การใช้อำนาจนั้นไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่ฉลาดหรือไม่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นเพราะกฎหมาย ไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีใช้อำนาจทำเช่นนั้น คณะผู้พิพากษาได้สั่งให้ฝ่ายบริหารของรัฐบาลนายทรัมป์ออกคำสั่งใหม่ภายใน 10 วัน แต่ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์และตั้งคำถามถึงอำนาจของศาล.-813.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ยันศาลเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

‘อีลอน มัสก์’ พ้นจากตำแหน่งในรัฐบาล ‘ทรัมป์’

วอชิงตัน 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สในคืนวันพุธ ยืนยันว่า นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและผู้บริหารบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จะพ้นจากตำแหน่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งแต่คืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นไป นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชันเอ็กซ์ ของเขาก่อนหน้านี้ ขอบคุณนายทรัมป์ และระบุว่า เวลาของเขาในฐานะลูกจ้างพิเศษของรัฐบาลสหรัฐที่ทำงานกับกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว แหล่งข่าววงในระบุว่า การพ้นจากตำแหน่งของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีพิธีอำลาใด ๆ เขาไม่ได้สนทนาอย่างเป็นทางการกับนายทรัมป์ ก่อนที่จะประกาศพ้นจากหน้าที่ มัสก์มีวาระอยู่ในตำแหน่งนาน 130 วันโดยจะครบวาระในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ แต่งานปรับโครงสร้างและลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลจะยังคงเดินหน้าต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ระบุแคนาดาต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ ‘โกลเดน โดม’

วอชิงตัน 29 พ.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า แคนาดาต้องจ่ายเงินให้สหรัฐเพื่อร่วมใช้ ‘โกลเดน โดม’ ในการป้องกันประเทศ นายทรัมป์กล่าวว่า เขาได้แจ้งกับแคนาดาแล้วว่า หากสนใจเข้าร่วมใช้ระบบป้องกันภัยสุดทันสมัยของสหรัฐ หรือ ‘โกลเด้น โดม’ แคนาดาจะต้องจ่ายเงิน 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 2 ล้านล้านบาท แต่หากไม่อยากเสียเงิน แคนาดาก็ต้องตัดสินใจเข้าร่วมเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ พร้อมกับอ้างว่า ขณะนี้แคนาดากำลังพิจารณาข้อเสนอนี้อยู่ ด้านนายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดา เผยก่อนหน้านี้ คาดหวังว่าแคนาดาจะได้เข้าร่วมโครงการแผนการติดอาวุธยุโรปใหม่ หรือ ‘รีอาร์ม ยุโรป’ (ReArm Europe) ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เพื่อลดการพึ่งพาด้านการทหารจากสหรัฐ.-815.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 142
...