โคลัมโบ 4 ก.ค.- ศรีลังกาเตือนว่า ประเทศจะมีน้ำมันใช้ไม่ถึงหนึ่งวัน หากปริมาณการใช้ยังคงเป็นไปตามปกติ ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อ 74 ปีก่อน
นายกันชนะ วิเจเสเขระ รัฐมนตรีพลังงานของศรีลังกาเผยกับสื่อเมื่อวันอาทิตย์ว่า ศรีลังกาเหลือน้ำมันดีเซลในคลังเพียง 12,774 ตัน และน้ำมันเบนซินเพียง 4,061 ตัน ส่วนน้ำมันลอตใหม่คาดจะมาถึงราววันที่ 22-23 กรกฎาคม หรือไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ แต่ธนาคารกลางสามารถชำระค่าน้ำมันนำเข้าได้เพียง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,456 ล้านบาท) จากที่ต้องจ่ายทั้งหมด 587 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,926 ล้านบาท) หากนำเข้าตามที่กำหนด นอกจากนี้ศรีลังกายังค้างชำระค่าน้ำมัน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,520 ล้านบาท) ที่ซื้อจากผู้จัดส่ง 7 รายตั้งแต่ต้นปีด้วย
สัปดาห์ที่แล้ว ศรีลังกาได้สั่งระงับการจำหน่ายน้ำมันเดีเซลและเบนซินสำหรับยวดยานที่ไม่มีความจำเป็นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ศรีลังกาเป็นประเทศแรกของโลกที่ทำเช่นนี้ หลังจากสหรัฐและยุโรปใช้มาตรการปันส่วนน้ำมันในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำมันคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 ชาวศรีลังกา 22 ล้านคนเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุด เนื่องจากขาดแคลนสกุลเงินตราต่างประเทศสำหรับชำระค่าสินค้านำเข้าที่จำเป็น ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงลิ่ว
คณะเจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) สรุปผลการเจรจารอบใหม่กับศรีลังกาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เรื่องความช่วยเหลือมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 106,950 ล้านบาท) ว่า แม้ว่ายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง แต่ก็มีความคืบหน้าอย่างสำคัญในการนิยามมาตรการด้านนโยบายโครงสร้างและเศรษฐกิจมหภาค นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟยังได้เห็นถึงความยากลำบากของชาวศรีลังกา โดยเฉพาะคนยากจนและกลุ่มเปราะบาง.-สำนักข่าวไทย