ธนาคารโลกชี้แผ่นดินไหวซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจถดถอยของเมียนมา

วอชิงตัน 12 มิ.ย. – ธนาคารโลกกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหาของเมียนมาถูกคาดหมายว่าจะหดตัวลง ร้อยละ 2.5 เปอร์เซ็นต์ในปีงบประมาณ 2525/2526 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบที่รุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคม ธนาคารโลกระบุว่า ความเสียหายโดยตรงต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐานจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 นั้นอยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของเมียนมา โดยประมาณการว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจจะลดลงประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ จากระดับที่ควรจะเป็น หากไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ธนาคารโลกระบุว่า แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 17 ล้านคน โดยมี 9 ล้านคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 3,700 ราย นางเมลินดา กู้ด ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเมียนมาของธนาคารโลก กล่าวในแถลงการณ์ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและการพลัดถิ่นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ซ้ำเติมสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถในการฟื้นตัวของชาวเมียนมาต่อไปอีก  ความพยายามในการฟื้นฟูประเทศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยประชากรกลุ่มเปราะบางที่สุด.-813.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ มอบนโยบายทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ทำงานเชิงรุก

ทำเนียบ 9 มิ.ย.-นายกฯ มอบนโยบายเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ขอทำงานเชิงรุกต่อยอดจุดแข็งของไทยพร้อมแสวงหาโอกาส ภายใต้ความท้าทาย เร่งส่งเสริมบทบาทไทยในประชาคมโลก นำผลประโยชน์ ด้านเศรษฐกิจและการค้าขายให้ประเทศและประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายผ่านบันทึกวีดิทัศน์ ในพิธีเปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจําปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชน: จากนโยบายสู่การปฏิบัติ” โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีต่อการจัดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลกในครั้งนี้ พร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ในฐานะด่านหน้าของประเทศไทยในประชาคมโลก โดยการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและจัดทำแผนการดำเนินงานขับเคลื่อนประเทศไทยร่วมกัน ภายใต้หัวข้อการประชุมซึ่งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยทุกคน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบริบทโลกในปัจจุบันที่กำลังปรับสู่โครงสร้างโลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World) โดยระบบพหุภาคีกำลังเสื่อมถอยลง และการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะสงครามการค้าและเทคโนโลยี การแย่งชิงทรัพยากร ซึ่งส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก และส่งผลกระทบถึงไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดคำถามสำคัญคือไทยจะวางยุทธศาสตร์อย่างไร ในบริบทการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและมีความท้าทายอย่างรอบด้านนี้ เพื่อให้ไทยและประชาชนชาวไทยได้ประโยชน์สูงสุด ภายใต้โครงสร้างอำนาจและระเบียบโลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นต่อไป โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ 2 ประเด็นสำคัญ ภายใต้บริบทปัจจุบัน ได้แก่ 1) การเสริมสร้างและต่อยอดจุดแข็งของประเทศ และ 2) การแสวงหาและช่วงชิงโอกาสใหม่ ๆ ภายใต้ความท้าทายได้อย่างฉับไวทันท่วงที โดยไทยมีจุดยืนทางการทูตที่ชัดเจนคือ ความเป็นมิตรและเข้าได้กับทุกฝ่าย […]

มท. ชงข้อเสนอโครงการฯ​ งบกระตุ้น​เศรษฐกิจ ​1.57 แสนล้าน

กทม.7 มิ.ย. – “มหาดไทย” ชงข้อเสนอโครงการฯ​ งบกระตุ้น​เศรษฐกิจ ​1.57 แสนล้านบาท​ กว่า 2 หมื่นโครงการ วงเงิน 79,960 ล้านบาท มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก​ สร้างความเข้มแข็งชุมชนท้องถิ่น​ ให้มั่นคง-ยั่งยืน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยรายละเอียดโครงการ และคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ที่มีการรวบรวมข้อมูลผ่านสำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ภาพรวมหน่วยรับงบประมาณจากส่วนราชการระดับกรม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จังหวัด กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 157,000 ล้านบาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 21,259 โครงการ งบประมาณ 79,960,372,305 บาท มีรายละเอียด ดังนี้ ทั้งนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอโครงการและคำของบประมาณทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาโครงการฯ โดยกองจัดทำงบประมาณ สำนักงบประมาณ ซึ่งการจัดทำคำของบประมาณในครั้งนี้ […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ สั่งทบทวนแผน

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าคัดกรองโครงการลงทุน ผ่าน 100 โครงการ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ รองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ทรัมป์ 2.0 ด้วยวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท หน่วยงานต่างๆ ได้นำเสนอโครงการจำนวนมาก เพื่อขอรับการจัดสรรงบฯ ดังกล่าว โดยมีสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำการคัดกรองโครงการให้เป็นไปตามเกณฑ์เบื้องต้น ประมาณ 100 โครงการ แบ่งเป็น 4 กลุ่มโครงการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบชลประทาน พัฒนาระบบน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การพัฒนาเส้นทางคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็ก โครงการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว มาตรการด้านการค้า และการส่งออก ตลอดจนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ส่วนกรณี กระทรวงมหาดไทย ขอรับจัดสรรงบประมาณ 8 หมื่นล้านบาทนั้น ได้ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น และโครงการลงทุนพื้นฐานขนาดเล็ก ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในทางหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการ หรือ มาตรการ ด้านการค้า หรือบรรเทาผลกระทบในภาคการส่งออก […]

“เจ้าสัวบุณยสิทธิ์” ชี้เศรษฐกิจเครื่องยนต์ 3 ล้อ ต้องปรับตัวถึงอยู่รอด

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย.-“เจ้าสัวบุณยสิทธิ์” ชี้เศรษฐกิจเครื่องยนต์ 3 ล้อ ต้องปรับตัวถึงอยู่รอด พร้อมลดบทบาทธุรกิจเสื้อผ้า หันร่วมทุนพันธมิตร นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า จากมาตรการภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงในขณะนี้ โดยเปรียบได้กับเศรษฐกิจเครื่องยนต์ 3 ล้อ ซึ่งแม้ในภูมิภาคเอเชีย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ที่เห็นว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวสูง เนื่องจากเป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ ขณะที่ไทยซึ่งในอดีตเศรษฐกิจเคยเติบโตสูงมาก่อน ทำให้ในขณะนี้เริ่มเติบโตน้อยลง แต่ก็ยังถือว่าพอไปได้ ขณะเดียวกันจุดเด่นของประเทศไทย คือ การรักษาความเป็นกลาง นายบุณยสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลมีการชะลอมาตรการแจกเงินออกไป โดยมองว่ามาตรการแจกเงินไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นเพียงมาตรการหาเสียงเป็นหลัก ดังนั้นแล้วรัฐบาลควรมีมาตรการในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีหลายโครงการที่ยังรอการพัฒนา โดยเฉพาะการลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์ และการขุดคอคอดกระที่จะมาช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยในระยะยาวให้เติบโตขึ้น เพราะการเดินเรือของจีนมีการขยายตัวอย่างมากในปัจจุบัน ที่ผ่านๆ มา รัฐบาลมีแต่พูดถึงโครงการแลนด์บริดจ์ แต่ยังไม่ลงมือ เพราะมีบางประเทศไม่อยากให้ไทยทำ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีความกล้า รวมไปถึงอาจจะต้องมีการขยายการลงทุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ เซาท์อีซี ซึ่งคล้ายกับโครงการอีอีซี หรือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในปัจจุบัน นายบุณยสิทธิ์ ยังกล่าวยอมรับว่าด้วยว่าเศรษฐกิจปีนี้แย่กว่าช่วงโควิด แต่อย่างไรก็ดีถ้ารู้จักปรับตัวก็จะอยู่รอด โดยในส่วนของสหพัฒน์ฯ […]

“พิชัย” ย้ำต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.- “พิชัย” พร้อมผลักดันเงินลงทุนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ย้ำเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ ดึงเอกชน รัฐวิสาหกิจ ลงทุนเพิ่ม หวังดันจีดีพีปี 69 โตร้อยละ 4-4.5 เดินหน้าขาดดุลงบประมาณลดลง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อสภาในการพิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท คาดการณ์รายรับ 2.99 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ร้อยละ 4.3 ของจีดีพี โดยรวมยอดการชำระคืนหนี้สาธารณะไปด้วย จำนวน 1.5 แสนล้านบาท นับว่าสุทธิการขาดดุลเพื่อใช้ในด้านต่างๆ เพียงร้อยละ 3.5 ของจีดีพีเท่านั้น และขาดดุลลดลงจากปีก่อน โดยจัดสรรงบประมาณด้านการลงทุน 8.64 แสนล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 22.9 ของยอดงบประมาณทั้งหมด ยอมรับว่าเป็นที่จับตาของหลายฝ่าย จึงตั้งเป้าหมายในปีถัดไป ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณลดลงต่อเนื่อง เหลือร้อยละ 3.6 ของจีดีพี ในปี 70 และร้อยละ […]

อินโดนีเซียจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

จาการ์ตา 24 พ.ค. — กระทรวงประสานงานเศรษฐกิจอินโดนีเซียกล่าววันเสาร์ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ซึ่งมีเป้าหมายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยหวังว่าจะผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นประมาณร้อยละ 5 ในไตรมาสนี้      นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานด้านเศรษฐกิจ กล่าวในแถลงการณ์ว่า โครงการเหล่านี้จัดเตรียมขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตด้วยการเพิ่มการบริโภค โดยเขากล่าวเสริมว่า การประกาศมาตรการก่อนช่วงปิดภาคเรียนซึ่งเริ่มในปลายเดือนมิถุนายน จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการเพิ่มกำลังซื้อ เศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโตร้อยละ 4.87 ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่แย่ที่สุดในรอบกว่าสามปี ธนาคารกลางได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ลงเหลือระหว่างร้อยละ 4.6 ถึง 5.4 จากเดิมที่ ร้อยละ 4.7-5.5 กระทรวงประสานงานเศรษฐกิจยังคงอยู่ระหว่างการคำนวณขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเติบโตในไตรมาสที่สองและสาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลรวมถึงส่วนลดร้อยละ 50 สำหรับค่าไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนประมาณ 79.3 ล้านครัวเรือน และการแจกจ่ายอาหารให้กับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย 18.3 ล้านครัวเรือน ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม รัฐบาลยังมีแผนที่จะมอบเงินโอนให้แก่แรงงานที่มีรายได้น้อย และส่วนลดสำหรับประกันอุบัติเหตุจากการทำงานให้แก่แรงงานในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยว รัฐบาลกล่าวว่าจะมีการลดราคาค่าโดยสารเครื่องบิน รถไฟ และเรือในช่วงวันหยุดภาคเรียน ซึ่งจะต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม และส่วนลดค่าผ่านทางด่วนสำหรับผู้ใช้งาน 110 ล้านคนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 5.2-5.8% ในปี 2026

จาการ์ตา 22 พ.ค. — ศรี มุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย เปิดเผยในวันอังคารว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี 2026 ไว้ที่ร้อยละ 5.2-5.8 เพื่อเป็นรากฐานสู่การเติบโตร้อยละ 8 ในช่วงไม่กี่ปีถัดไป ซึ่งจะสนับสนุนการบรรลุวิสัยทัศน์ “อินโดนีเซียก้าวหน้า 2045” อินทราวาตีกล่าวระหว่างนำเสนอแผนงานเศรษฐกิจมหภาคและแนวนโยบายการคลังประจำปี 2026 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5±1 ขณะอัตราแลกเปลี่ยนตามเป้าหมายจะอยู่ที่ 16,500-16,900 รูเปียห์ (ราว 33-34 บาท) ต่อดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะ 10 ปี จะอยู่ในช่วงร้อยละ 6.6-7.2 รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายเพิ่มการผลิตน้ำมันอยู่ที่ 6-6.05 แสนบาร์เรลต่อวัน และเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 9.53 แสนถึง 1.017 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยมีการลงทุนและเทคโนโลยีเป็นแรงสนับสนุน รวมถึงขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมปลายน้ำจากทรัพยากรธรรมชาติ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุน และยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์.-813.-สำนักข่าวไทย

“จุลพันธ์” ยันพร้อมดึงดิจิทัลวอลเล็ตกลับมาพิจารณาตามสถานการณ์

ทำเนียบ 20 พ.ค.- “จุลพันธ์” ยืนยันไม่ยกเลิกดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมดึงกลับมาพิจารณาตามสถานการณ์ ชี้แอปฯ ทางรัฐ ยังมีประโยชน์ ระบุยังไม่กู้เงิน 5 แสนล้าน อีก 2 สัปดาห์ชัด แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ว่า ต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อม สามารถนำเม็ดเงินลงไปสู่ชุมชนได้ และเป็นโครงการที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบในวงกว้างและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้น มรสุมช่วงนี้ไปได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาและมีกระบวนการในการพิจารณา ส่วนจะทันในช่วงที่ จีดีพีต่ำหรือไม่ นั้น ที่ผ่านมาเราทำเศรษฐกิจดีในช่วง 3 ไตรมาสหลัง จึงได้วางแผนไว้ว่า เงินจะต้องเข้ามาในระบบ ในช่วงไตรมาส 3 ให้ได้ และจะต้องเป็นงบผูกพันก่อนวันที่ 30 กันยายน 2568 นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เงิน 1.57 แสนล้านบาท จะใช้จ่ายครึ่งหนึ่งภายใน 4 เดือนหรือไม่นั้น […]

ครม.เคาะโอนงบดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้าน กระจาย 4 โครงการ

ทำเนียบ 20 พ.ค.-นายกฯ เผย ครม.เคาะโอนงบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท กระจาย 4 โครงการ ลงทุนน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว-ส่งออก ชี้มีปัญหาแทรกต้องคำนึงคนทั้งประเทศ ชะลอให้เงินคนบางกลุ่ม ลั่นไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เป็นเหตุสุดวิสัย ให้ สส.ช่วยแจงประชาชน บอกหวังเศรษฐกิจดี กลับมาเดินหน้าต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชุมครม.เห็นชอบ ทบทวนค่าใช้จ่ายงบปี 2568 ในส่วนของงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ได้มีการรับฟัง และข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เมื่อรับฟังแล้วจึงจะจำเป็นต้องเร่งปรับนโยบายเศรษฐกิจที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อสร้างรากฐานการเติบโตในระยะยาว และการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับแผนและเปลี่ยนเงินในส่วนงบกลางมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบุคคล ระยะยาว กระทรวงการคลังจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม เมื่อถามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟสหนึ่ง เฟสสอง กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และเฟสสาม เป็นเพราะไม่มีเงินหรือไม่ แล้วจะทำความเข้าใจกับประชาชนที่รอเงิน 10,000 นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป้าหมายการค้าที่เศรษฐกิจของประเทศทั้งหมด ครั้งแรกกับครั้งที่สองจ่ายไปแล้วในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง […]

Tokyo Tower sits among Tokyo skyline

เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี

โตเกียว 16 พ.ค.- เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาสสิ้นสุดเดือนมีนาคมหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และหดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด ตอกย้ำว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ยังคงเปราะบางกำลังได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคมปีนี้ว่า หดตัวลงร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อนหน้านี้ มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 0.1 และหดตัวลงร้อยละ 0.7 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2567 มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 0.2 ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่มีสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีมีการเติบโตเพียงร้อยละ 0.04 เท่านั้น แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย อันเป็นผลจากการที่สินค้ามีราคาแพงขึ้น ขณะที่การส่งออกซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญพบว่า หดตัวลงร้อยละ 0.6 สวนทางกับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.9.-816(814).-สำนักข่าวไทย

นายกฯ หารือ ผู้แทนพิเศษฯ ฝรั่งเศส

นายกฯ หารือผู้แทนพิเศษฯ ฝรั่งเศส เดินหน้าความร่วมมือไทย-ฝรั่งเศส ผลักดันเศรษฐกิจ ร่วมพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง-พลังงาน-โลจิสติกส์ ชื่นชม ศักยภาพไทยเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานในเอเชีย

1 2 3 73
...