อินโดนีเซียจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

จาการ์ตา 24 พ.ค. — กระทรวงประสานงานเศรษฐกิจอินโดนีเซียกล่าววันเสาร์ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ซึ่งมีเป้าหมายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยหวังว่าจะผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้นประมาณร้อยละ 5 ในไตรมาสนี้      นายแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีประสานงานด้านเศรษฐกิจ กล่าวในแถลงการณ์ว่า โครงการเหล่านี้จัดเตรียมขึ้นเพื่อส่งเสริมการเติบโตด้วยการเพิ่มการบริโภค โดยเขากล่าวเสริมว่า การประกาศมาตรการก่อนช่วงปิดภาคเรียนซึ่งเริ่มในปลายเดือนมิถุนายน จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการเพิ่มกำลังซื้อ เศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโตร้อยละ 4.87 ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่แย่ที่สุดในรอบกว่าสามปี ธนาคารกลางได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ลงเหลือระหว่างร้อยละ 4.6 ถึง 5.4 จากเดิมที่ ร้อยละ 4.7-5.5 กระทรวงประสานงานเศรษฐกิจยังคงอยู่ระหว่างการคำนวณขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเติบโตในไตรมาสที่สองและสาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลรวมถึงส่วนลดร้อยละ 50 สำหรับค่าไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนประมาณ 79.3 ล้านครัวเรือน และการแจกจ่ายอาหารให้กับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย 18.3 ล้านครัวเรือน ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม รัฐบาลยังมีแผนที่จะมอบเงินโอนให้แก่แรงงานที่มีรายได้น้อย และส่วนลดสำหรับประกันอุบัติเหตุจากการทำงานให้แก่แรงงานในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยว รัฐบาลกล่าวว่าจะมีการลดราคาค่าโดยสารเครื่องบิน รถไฟ และเรือในช่วงวันหยุดภาคเรียน ซึ่งจะต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม และส่วนลดค่าผ่านทางด่วนสำหรับผู้ใช้งาน 110 ล้านคนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 5.2-5.8% ในปี 2026

จาการ์ตา 22 พ.ค. — ศรี มุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย เปิดเผยในวันอังคารว่า รัฐบาลอินโดนีเซียกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปี 2026 ไว้ที่ร้อยละ 5.2-5.8 เพื่อเป็นรากฐานสู่การเติบโตร้อยละ 8 ในช่วงไม่กี่ปีถัดไป ซึ่งจะสนับสนุนการบรรลุวิสัยทัศน์ “อินโดนีเซียก้าวหน้า 2045” อินทราวาตีกล่าวระหว่างนำเสนอแผนงานเศรษฐกิจมหภาคและแนวนโยบายการคลังประจำปี 2026 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5±1 ขณะอัตราแลกเปลี่ยนตามเป้าหมายจะอยู่ที่ 16,500-16,900 รูเปียห์ (ราว 33-34 บาท) ต่อดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะ 10 ปี จะอยู่ในช่วงร้อยละ 6.6-7.2 รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายเพิ่มการผลิตน้ำมันอยู่ที่ 6-6.05 แสนบาร์เรลต่อวัน และเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 9.53 แสนถึง 1.017 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยมีการลงทุนและเทคโนโลยีเป็นแรงสนับสนุน รวมถึงขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมปลายน้ำจากทรัพยากรธรรมชาติ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุน และยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์.-813.-สำนักข่าวไทย

“จุลพันธ์” ยันพร้อมดึงดิจิทัลวอลเล็ตกลับมาพิจารณาตามสถานการณ์

ทำเนียบ 20 พ.ค.- “จุลพันธ์” ยืนยันไม่ยกเลิกดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมดึงกลับมาพิจารณาตามสถานการณ์ ชี้แอปฯ ทางรัฐ ยังมีประโยชน์ ระบุยังไม่กู้เงิน 5 แสนล้าน อีก 2 สัปดาห์ชัด แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ว่า ต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อม สามารถนำเม็ดเงินลงไปสู่ชุมชนได้ และเป็นโครงการที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบในวงกว้างและหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้น มรสุมช่วงนี้ไปได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาและมีกระบวนการในการพิจารณา ส่วนจะทันในช่วงที่ จีดีพีต่ำหรือไม่ นั้น ที่ผ่านมาเราทำเศรษฐกิจดีในช่วง 3 ไตรมาสหลัง จึงได้วางแผนไว้ว่า เงินจะต้องเข้ามาในระบบ ในช่วงไตรมาส 3 ให้ได้ และจะต้องเป็นงบผูกพันก่อนวันที่ 30 กันยายน 2568 นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เงิน 1.57 แสนล้านบาท จะใช้จ่ายครึ่งหนึ่งภายใน 4 เดือนหรือไม่นั้น […]

ครม.เคาะโอนงบดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้าน กระจาย 4 โครงการ

ทำเนียบ 20 พ.ค.-นายกฯ เผย ครม.เคาะโอนงบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท กระจาย 4 โครงการ ลงทุนน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว-ส่งออก ชี้มีปัญหาแทรกต้องคำนึงคนทั้งประเทศ ชะลอให้เงินคนบางกลุ่ม ลั่นไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เป็นเหตุสุดวิสัย ให้ สส.ช่วยแจงประชาชน บอกหวังเศรษฐกิจดี กลับมาเดินหน้าต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชุมครม.เห็นชอบ ทบทวนค่าใช้จ่ายงบปี 2568 ในส่วนของงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ได้มีการรับฟัง และข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ฯ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เมื่อรับฟังแล้วจึงจะจำเป็นต้องเร่งปรับนโยบายเศรษฐกิจที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อสร้างรากฐานการเติบโตในระยะยาว และการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับแผนและเปลี่ยนเงินในส่วนงบกลางมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบุคคล ระยะยาว กระทรวงการคลังจะมีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม เมื่อถามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟสหนึ่ง เฟสสอง กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และเฟสสาม เป็นเพราะไม่มีเงินหรือไม่ แล้วจะทำความเข้าใจกับประชาชนที่รอเงิน 10,000 นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป้าหมายการค้าที่เศรษฐกิจของประเทศทั้งหมด ครั้งแรกกับครั้งที่สองจ่ายไปแล้วในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง […]

Tokyo Tower sits among Tokyo skyline

เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี

โตเกียว 16 พ.ค.- เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาสสิ้นสุดเดือนมีนาคมหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และหดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด ตอกย้ำว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ยังคงเปราะบางกำลังได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคมปีนี้ว่า หดตัวลงร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อนหน้านี้ มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 0.1 และหดตัวลงร้อยละ 0.7 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2567 มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 0.2 ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 1 ปี ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่มีสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีมีการเติบโตเพียงร้อยละ 0.04 เท่านั้น แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย อันเป็นผลจากการที่สินค้ามีราคาแพงขึ้น ขณะที่การส่งออกซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญพบว่า หดตัวลงร้อยละ 0.6 สวนทางกับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.9.-816(814).-สำนักข่าวไทย

นายกฯ หารือ ผู้แทนพิเศษฯ ฝรั่งเศส

นายกฯ หารือผู้แทนพิเศษฯ ฝรั่งเศส เดินหน้าความร่วมมือไทย-ฝรั่งเศส ผลักดันเศรษฐกิจ ร่วมพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง-พลังงาน-โลจิสติกส์ ชื่นชม ศักยภาพไทยเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานในเอเชีย

จีนรับรองกฎหมายส่งเสริมภาคเอกชน บังคับใช้ 20 พ.ค.นี้

คณะกรรมการถาวรประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือ เอ็นพีซี ได้ลงมติรับรองกฎหมายส่งเสริมภาคเอกชนในวันนี้ ซึ่งนับเป็นกฎหมายพื้นฐานฉบับแรกของจีน

คลังเผยเศรษฐกิจ มี.ค.68 โตต่อเนื่อง

คลังเผยเศรษฐกิจเดือน มี.ค. รับปัจจัยหนุนจากส่งออกสินค้า โตต่อเนื่องเป็นเดือน 9 ยอมรับท่องเที่ยวต่างชาติ การบริโภคชะลอตัวลง เกาะติดสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทุนสำรองแข็งโป๊ก 245.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Zhao Chenxin, Vice Chair of the National Development and Reform Commission

จีนมั่นใจบรรลุเป้าหมายพัฒนาปี 2568

ปักกิ่ง 28 เม.ย.- คณะผู้กำหนดนโยบายของจีนแสดงความมั่นใจว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมปี 2568 หวังคลายความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐจะกระทบต่อธุรกิจ การจ้างงาน พลังงานและสินค้าเกษตรของจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายจ้าว เฉินซิน รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนแถลงข่าวในวันนี้ว่า จีนมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะบรรลุเป้าหมายและพันธกิจการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของปี 2568ด้วยการดำเนินนโยบายที่ครอบคลุมและเพียงพอ จีนจะเร่งดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพการจ้างงานและเศรษฐกิจ กระตุ้นการออกและบังคับใช้นโยบาย และให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินนโยบายยิ่งขึ้น เพื่อรับประกันว่าจะเกิดประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจและสาธารณชน ขณะเดียวกันจีนจะเพิ่มความพยายามรับประกันผลลัพธ์ของนโยบายที่บังคับใช้อยู่เดิม ทั้งโครงการพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการใช้เงินลงทุน 5 ล้านล้านหยวน (ราว 23 ล้านล้านบาท) ในระดับชาติอย่างมีประสิทธิภาพ นโยบายเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสสอง (เมษายน-มิถุนายน) จีนจะเสริมสร้างความสอดคล้องของนโยบายอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการวิจัยนโยบายแบบปลายเปิดเป็นประจำ เตรียมแผนฉุกเฉินอย่างครบถ้วน และปรับปรุงชุดเครื่องมือนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพการจ้างงานและเศรษฐกิจ นอกจากนั้นจีนจะออกนโยบายสำรองเพิ่มเติมอย่างทันท่วงทีเพื่อรับมือกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และจีนจะยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการกิจการของตนเองให้ดี ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซินหัวระบุว่า จีนตั้งเป้าหมายบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดปี 2568 ไว้ที่ราวร้อยละ 5 ขณะผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) เติบโตร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบปีต่อปี.-814.-สำนักข่าวไทย

“พิชัย” เผยเอกชนบอกไทยไม่ติด 1 ใน 10 ประเทศที่ปรับขึ้นกำแพงภาษี

“พิชัย” ปัดตอบมีชื่อพ้น ครม. ขอทำงานก่อน ย้ำไม่สรุปเงื่อนไขคุยภาษี “ทรัมป์” แย้มข่าวดีจากเอกชน บอกไทยไม่ติด 1 ใน 10 ประเทศที่ปรับขึ้นกำแพงภาษี แต่น่าจะอยู่ลำดับที่ 11-12

นายกฯ เผยรอสหรัฐฯ ยืนยันวันนัดหมายใหม่ ตอบไม่ได้เมื่อไหร่

ายกฯ หายป่วยแล้ว พร้อมลุยลงพื้นที่อีสาน ร่วมประชุม ครม.สัญจร ส่วนเจรจาภาษีสหรัฐฯ ให้ทีมเจรจาเป็นศูนย์กลางข้อมูล ตอบไม่ได้ นัดหมายใหม่เมื่อไหร่ รอสหรัฐฯ ยืนยัน

“พิชัย” บอกดีใจที่ไทยรอดูจังหวะเหมาะสม ให้คู่ค้ารายใหญ่คุยกันก่อน

“พิชัย” รมว.คลัง โต้ฝ่ายค้าน ใครเลื่อนไม่เลื่อนเจรจาภาษีทรัมป์ไม่ใช่ประเด็น บอกดีใจที่ไทยรอดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมให้คู่ค้ารายใหญ่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน รับปัจจัยสำคัญต้องดูท่าที สหรัฐฯ-จีน ภาวนาจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นและคลื่นลูกนี้ก็จะเล็กลง ให้ไทยทำงานง่ายขึ้น

1 2 3 73
...