บุรีรัมย์ 4 พ.ย. – สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่มาตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลถนนหัก อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งว่า มีแม่คนหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านกับลูกชายเพียงลำพัง ลูกติดยาเสพติดอย่างหนัก แถมติดพนันออนไลน์ ไม่ทำงาน และชอบขู่ ขอเงินแม่ วันไหนไม่มีเงินให้ ก็จะโวยวาย อาละวาดทำลายข้าวของ ถึงขนาดขู่ฆ่า และเคยขับรถพุ่งชนบ้านพังมาแล้ว ครั้งล่าสุดปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกิดหลอนยา คลุ้มคลั่งอาละวาด แม่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ก็มานำตัว ส่งไปบำบัดที่ รพ.นางรอง แต่ครั้งนี้กลัวว่าออกมาแล้วจะกลับมาแบบเดิม เพราะเคยแจ้งแบบนี้มาแล้ว รวมกว่า 10 ครั้ง ถูกส่งไปบำบัด ทั้งที่ค่ายทหาร โรงพยาบาล วัด แต่พออาการดีขึ้น ปล่อยตัวกลับมาอยู่บ้าน ก็กลับมาสู่วังวนเดิม ทำให้แม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง ทุกข์ทรมานใจ
ล่าสุดผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการครูเกษียณ วัย 64 ปี เป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองและชาวบ้าน จึงจำใจจ้างช่างมาทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไวไฟ ทีวี และห้องน้ำส่วนตัว หากลูกออกจาก รพ. มาครั้งนี้ ก็จะให้อยู่ในห้องนี้เพราะอยากให้หายจากการติดยาเสพติด แต่ก็ยังรอรับฟังเสียงส่วนใหญ่จากชาวบ้าน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าสามารถทำได้หรือไม่
ผู้เป็นแม่ เล่าว่าลูกชายอายุ 42 ปี เริ่มติดยาเสพติดตั้งแต่อายุ 16 ปี พ่อกับแม่ส่งตัวบำบัดรักษามาตลอด แต่ออกมา ก็กลับมาเสพอีก ซ้ำยังติดพนันออนไลน์ พ่อก็พยายามหางานให้ลูกทำ แต่พอได้เงินมา ก็เอาไปซื้อยาบ้าเสพ-เล่นการพนันหมด และชอบขู่บังคับขอเงินพ่อแม่ครั้งละร้อยสองร้อยบาท บางวันขอ 3 รอบเช้ากลางวันเย็น กระทั่งปี 2558 พ่อป่วยหนัก เครียดเรื่องลูกจนตรอมใจตาย แต่ลูกก็ไม่รู้สึกอะไร ยังเหมือนเดิม ไม่ทำงาน ขอแต่เงิน ไปซื้อยา เล่นพนัน เคยมีภรรยามีลูกแต่ก็ทนอยู่ด้วยไม่ได้เพราะเคยถึงขั้นใช้ปืนยิงขู่ ขับรถพุ่งชนบ้านพัง แม่ต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่ออกมาก็ไม่สำนึก ยังทำตัวเหมือนเดิม จนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
ด้านนายพลวัฒน์ สงกูล ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง บอกว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวนี้อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ในตำบลเดียวกัน แต่หลังย้ายมาอยู่ที่นี่แม่ซึ่งเป็นครูก็เคยมาแจ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกชาย และส่งตัวไปบำบัด ส่วนกรณีที่แม่จ้างช่างไปทำห้องลักษณะคล้ายกรงขัง เพื่อเตรียมไว้ให้ลูกชาย ซึ่งปัจจุบันบำบัดที่ รพ. อยู่นั้น ตนทราบข่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้เดินทางไปดูว่าทำลักษณะไหน ซึ่งจะทำได้หรือไม่ ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบก่อน เพราะอาจเข้าข่ายการกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนตัวเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ แต่การจะทำอะไร ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย