มหาสารคาม 5 พ.ย. – รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน
ภาพสลิปการโอนเงิน ข้อความการสนทนา ตลอดจนภาพถ่ายต่างๆ ที่สีกาสาว โพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย กลายเป็นหลักฐานมัดตัวเองว่า มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับพระปลัดหนุ่มวัย 28 ปี ที่มีตำแหน่งถึงรองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเพจเฟซบุ๊ค ชื่อ คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี นำออกมาแฉต่อสาธารณชนจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ สั่นสะเทือนวงการสงฆ์อีกครั้ง แม้เจ้าตัวจะลาสิกขากลางดึกคืนที่ผ่านมา แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อประธานสงฆ์วัดดังกล่าว ที่มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาทั่วประเทศ ออกมาพูดทำนองปกป้องว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับวัด เพราะได้ลาออกไปก่อนแล้ว กระแสบางส่วนจึงลามไปยังเกจิอาจารย์ชื่อดังด้วย เพราะอดีตพระปลัดหนุ่มทำหน้าที่สำคัญ ดูแลการจัดสร้างวัตถุมงคลให้ทางวัด ทำให้บรรดาลูกศิษย์ออกมา ติดแฮชแท็ก #saveหลวงพ่อ ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดของอดีตพระคนดังกล่าว
บรรยากาศที่วัดวันนี้ ยังคงมีประชาชนเข้ามาทำบุญอย่างต่อเนื่อง แม้บางส่วนจะยอมรับว่า ส่งผลกระทบทางจิตใจ และความเชื่อมั่นในตัวพระสงฆ์ แต่ชาวจังหวัดอุบลราชธานีครอบครัวนี้ ก็ยังเลือกที่จะเข้าวัดทำบุญตามความตั้งใจ เพราะเชื่อว่า เป็นความผิดเฉพาะตัว แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้มีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด
ความเจริญทางวัตถุของวัดแห่งนี้ เติบโตอย่างก้าวกระโดด คนที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่น คนแวดล้อมใกล้ชิด หลายคนเป็นคนใหญ่คนโต ชาวบ้านในพื้นที่ที่เคยเข้ามาช่วยพัฒนาวัดตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียง รู้สึกว่าเข้าถึงได้ยาก รู้สึกแปลกแยก จึงพากันเข้าวัดแห่งนี้น้อยลง
ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านหนองหล่ม อำเภอเมืองมหาสารคาม บ้านเกิดของอดีตพระปลัดหนุ่ม พบเพียงแม่ที่เชื่อว่า ลูกชายถูกกลั่นแกล้งด้วยความอิจฉา สึกแล้ว ไม่ได้กลับมาบ้าน ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้
ด้านรอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคามตรวจสอบว่า เงินเปย์สาว เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เจ้าตัวเกี่ยวข้องกับการดูแลเงินวัดหรือไม่ โดยการเปย์เงินส่วนตัว เป็นความผิดส่วนบุคคล เป็นอาบัติ เมื่อลาสิกขาไปจึงพ้นความผิด แต่หากเป็นเงินวัด ลาสิกขาก็ไม่พ้นความผิด จะเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกเงินวัด มีความผิดทางอาญา
เลขานุการเจ้าคณะภาค 9 ให้ข้อมูลว่า พระปกครองระดับสูงไม่ได้นิ่งนอนใจ จะมีการพูดคุยถึงมาตรการป้องกัน ซึ่งมีแนวทางอยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าอาวาสจะต้องใส่ใจ ออกระเบียบควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่ออุดช่องโหว่จุดล่อแหลมของพระสงฆ์ ทั้งเงิน และสีกา.-สำนักข่าวไทย