ลพบุรี 3 พ.ย. – เริ่มแล้ว รถไฟลอยน้ำรอบปฐมฤกษ์ในสัปดาห์แรกของปี ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดลพบุรี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมเดินทางสัมผัสลมหนาวเส้นทางอันซีนหนึ่งเดียวของเมืองไทย นั่งรถไฟลอยน้ำสุดโรแมนติกกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ภายใต้กิจกรรม “ตามรอยพระบาท เที่ยวเขื่อนของพ่อ”
สำหรับขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีสถานีต้นทางจากหัวลำโพง กรุงเทพฯ และสถานีปลายทาง ณ แหล่งท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยว “รถไฟลอยน้ำ หนึ่งเดียวของเมืองไทย” ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2567 จนถึงเดือนมกราคม 2568 (ยกเว้นวันหยุดเทศกาลปีใหม่ วันที่ 28-29 ธันวาคม 2567 และวันที่ 4-5 มกราคม 2568) รวม 21 วัน โดยเริ่มรอบปฐมฤกษ์ของปีในวันนี้ (3 พ.ย.) ตกวันละ 14 โบกี้ หรือประมาณ 1,200 คนต่อวัน เชื่อว่าช่วยสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวได้ตามนโยบายของรัฐบาล ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็งสู่เศรษฐกิจฐานราก และชุมชนให้กลับมามีความเข้มแข็งยั่งยืน ทั้งนี้ขบวนรถไฟจะหยุดให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายภาพ ณ จุดชมวิว เพื่อชื่นชม ดื่มด่ำกับความงดงาม ในช่วงที่น้ำเต็มเขื่อน ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของทริปนี้ เนื่องจากเป็นทริปพิเศษ เข้าสู่บรรยากาศการท่องเที่ยวแบบวิถีชีวิตชาวเขื่อน และสนุกสนานกับขบวน “รถไฟลอยน้ำ” ที่ทอดยาวข้ามไปบนอ่างเก็บน้ำ เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษของการรถไฟไทย
นอกจากนี้ ทางการรถไฟฯ ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ แวะลงเลือกซื้อสิ้นค้า ชิม ชอป สินค้าพื้นเมือง OTOP ซึ่งมีทั้งของกิน ของฝาก ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของพื้นบ้าน บริเวณชานชรา ที่สถานีบ้านโคกสลุง เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวชุมชน จากนั้นขบวนรถไฟก็จะเดินทางกลับมายังสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมต่างๆ บริเวณพื้นที่โดยรอบของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ภาพถ่ายรูปกับทุ่งทานตะวัน แปลงแรกของจังหวัดลพบุรี ณ บ้านกล้วยไข่
สำหรับ “ประวัติขบวนรถไฟลอยน้ำ” เดิมเป็นทางรถไฟสายกรุงเทพ บัวใหญ่ หนองคาย อยู่ในบริเวณลุ่มน้ำป่าสักในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และต่อมาพื้นที่ดังกล่าวถูกพัฒนาเป็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อใช้กักเก็บน้ำ แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกับมีการสร้างทางรถไฟยกระดับขึ้นเหนือน้ำเพื่อใช้สัญจรไปยังจังหวัดต่างๆ ได้ ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟวิ่งลัดเลาะไปตามขอบของอ่างเก็บน้ำ และมองออกไปนอกหน้าต่างจะดูคล้ายกับรถไฟแล่นไปบนผิวน้ำ ขบวนรถไฟนี้จึงได้ชื่อว่า “รถไฟลอยน้ำ” .-สำนักข่าวไทย