เมลเบิร์น 5 ต.ค. – ออสเตรเลียจะสั่งซื้อยาเม็ดต้านเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘โมลนูพิราเวียร์’ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการทดลองของเมอร์คแอนด์โคส์ จำนวน 300,000 โดส ขณะที่รัฐวิกตอเรียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ทำสถิติสูงสุดของประเทศนับตั้งแต่เกิดการระบาด
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย เผยวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ 300,000 โดส ยาดังกล่าวจะช่วยให้ทุกคนใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อไวรัสโคโรนาได้ โดยคาดว่าออสเตรเลียจะได้รับยาดังกล่าวในช่วงต้นปีหน้า ทั้งยังระบุว่า ออสเตรเลียจะไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปจนถึงปีหน้า แต่จะให้ความสำคัญกับแรงงานอพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะและนักเรียนต่างชาติก่อน ในขณะที่ออสเตรเลียตั้งเป้ากลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งในเดือนหน้าให้แก่ชาวออสเตรเลียและผู้พำนักถาวรที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสแล้ว ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า ยาโมลนูพิราเวียร์จะช่วยลดโอกาสเสียชีวิตหรือเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลงได้ครึ่งหนึ่งในกลุ่มผู้ที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหลังติดเชื้อโควิด
ในขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,763 คน ทำลายสถิติสูงสุดของรัฐที่มี 1,488 คนเมื่อวันเสาร์ และตั้งเป้ากลับมาเปิดพรมแดนเมื่อฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ได้ร้อยละ 70 ในเดือนตุลาคม โดยที่ขณะนี้มีอัตราฉีดวัคซีนครบสองโดสร้อยละ 53 ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 608 คน ลดลงจากวันจันทร์ที่มี 623 คนและทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยจะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 11 ตุลาคม หลังคาดว่าจะฉีดวัคซีนครบสองโดสให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปได้ร้อยละ 70 ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 115,800 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,300 คน.-สำนักข่าวไทย