เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

เหล้าเถื่อนลาว

22 พ.ย. – คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย


ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดคือ ฮอลลี โบวล์ส ชาวออสเตรเลียอายุ 19 ปี ที่ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในไทยตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับเพื่อนสนิทชาติเดียวกันคือ เบียงกา โจนส์ ที่เสียชีวิตไปเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ทั้งสองล้มป่วยลงหลังดื่มเหล้าปลอมระหว่างท่องเที่ยวที่เมืองวังเวียงของลาว ต้องรักษาตัวด้วยอาการป่วยหนัก โดยมีพ่อแม่เดินทางมาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดและเป็นผู้ยืนยันการเสียชีวิตของทั้งสอง

ส่วนค่ำวานนี้ (21 พ.ย.) มีการยืนยันการเสียชีวิตของเหยื่อรายที่ 5 เป็นผู้หญิงชาวอังกฤษจากกรุงลอนดอน ชื่อ ซีโมน ไวท์ อายุ 28 ได้ร่วมดื่มสุราปลอมกับผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ จากคำบอกเล่ามีผู้ที่ล้มป่วยลงพร้อมกัน 14 คน โดยที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลมีทั้งชาวอังกฤษอีก 1 คน ชาวนิวซีแลนด์ และชาวเนเธอร์แลนด์


ในส่วนของการสืบสวนสอบสวนนั้น ค่อนข้างชัดเจนว่า สาเหตุการเสียชีวิตคือ พิษจากเมทานอล แอลกอฮอล์ที่เป็นพิษ ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการทำสุราเถื่อนที่ผู้ตายได้ดื่มกัน โดยตำรวจที่ทำคดีเชื่อว่า เป็นช่วงเวลากลางคืนวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ามาจากแหล่งใด ระหว่างโรงแรมที่ผู้ตายพักซึ่งได้แจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฟรีให้กับผู้เข้าพัก หรืออาจเป็นบาร์ที่ผู้ตายเดินทางไปในคืนวันนั้น

เมืองวังเวียงเป็นเมืองเล็กทางตอนกลางของลาว เป็นแหล่งยอดนิยมของนักท่องเที่ยววัยหนุ่มสาว ที่ตระเวนเดินทางในประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ซึ่งต่างเคยมีกรณีสารพิษเมธานอลจากการดื่มสุราเถื่อนที่ไร้สีไร้กลิ่นและไม่ได้แสดงอาการทันที ในไทยเราก็เพิ่งเกิดยอดคลัสเตอร์ยาดองในช่วงเดือนกันยายนเสียชีวิต 10 ราย จากข้อมูลขององค์กรแพทย์ไร้พรมแดน หลายประเทศในเอเชียเกิดเหตุลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และโดยเฉพาะในอินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ต้นเหตุของปัญหาต่างคล้ายคลึงกัน เช่น การบังคับใช้กฎหมายไร้ประสิทธิภาพ กฎระเบียบด้านอาหารและควบคุมแอลกอฮอล์ต่ำ รวมถึงความยากจนที่ต้องพึ่งเมทานอลที่มีราคาต่ำมาทำสุรา

ที่ผ่านมาบรรดาสถานทูตของชาติต่างๆ พยายามให้ข้อมูลและเตือนนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เห็นได้จากกรณีล่าสุดนี้ จึงมีเสียงเรียกร้องให้เปิดการณรงค์คู่ขนานพื่อกำจัดสุราเถื่อนพร้อมกับประกาศเตือนประชาชน .-812-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย