ตรวจสอบวัตถุโบราณคล้ายปืนใหญ่ 7 กระบอกในร้านค้า

กทม. 16 ก.ย. – กองปราบร่วมกับกรมศิลปากร ตรวจสอบร้านค้าโบราณวัตถุ พบโบราณวัตถุคล้ายปืนใหญ่ 7 กระบอก


เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านค้า ซึ่งจำหน่ายและเก็บรักษาโบราณวัตถุ 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 จุด และพื้นที่นนทบุรี 1 จุด สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบได้ตรวจสอบ Facebook รายหนึ่งขายสินค้าโบราณวัตถุลักษณะคล้ายปืนใหญ่ โดยมีการประกาศขายกันอย่างโจ่งแจ้ง ปรากฏข้อความชวนเชื่อให้ผู้คนทั่วไปเกิดความสนใจ และมีการจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างสูง กระทั่งพบว่าร้านดังกล่าวมีการขายโบราณวัตถุจริง โดยเปิดร้านในกรุงเทพฯ และเก็บสินค้าไว้ที่กรุงเทพฯ กับนนทบุรี จึงขอศาลอนุมัติหมายค้น

จากการตรวจสอบพบว่ามีนายยืนยง แสดงตัวเป็นเจ้าของสถานที่ทั้งหมด พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ผลการตรวจค้นพบโบราณวัตถุลักษณะคล้ายปืนใหญ่ 7 กระบอก นายยืนยงให้การว่าเป็นผู้ครอบครองทั้งหมด และเปิดขายหน้าร้าน บริเวณถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน มานานกว่า 8 ปี โบราณวัตถุลักษณะคล้ายปืนใหญ่ทั้งหมดนำเข้ามาจากต่างประเทศ กำหนดราคาตามขนาด กระบอกเล็กขายในราคาประมาณ 50,000 – 100,000 บาท และกระบอกใหญ่ขายในราคา 100,000 – 200,000 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบการขายสินค้าประเภทอื่นอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า โบราณวัตถุลักษณะคล้ายปืนใหญ่ทั้งหมดเป็นวัตถุที่ทำเทียมและเลียนแบบขึ้นมา แต่จะนำไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันอีกครั้ง หากพบว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจะดำเนินคดี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าร้านค้าดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตทำการค้าอีกด้วย

ขณะที่นายยืนยงให้ข้อมูลว่า โบราณวัตถุลักษณะคล้ายปืนใหญ่ ได้ติดต่อซื้อมาจากคนรู้จัก ส่วนกรณีที่พบโบราณวัตถุลักษณะคล้ายปืนใหญ่ปรากฏอยู่ในโซเชียลมีเดีย เกิดจากมีบุคคลเข้ามาติดต่อว่าจะช่วยโปรโมทขายสินค้าทางออนไลน์ โดยให้นายยืนยงตั้งราคาไว้ระดับหนึ่ง และบุคคลดังกล่าวจะนำไปขายราคาเท่าไรก็ได้ตามแต่จะกำหนด นายยืนยงไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวขายให้ลูกค้าราคาเท่าไร แต่หลังจากนั้นได้มีลูกค้าสนใจซื้อสินค้าจริง ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏในเพจ Facebook ดังกล่าว ได้ตรวจสอบดูแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวได้ให้รายละเอียดกับลูกค้าเกินความเป็นจริง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง