เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน


ศูนย์ประสานงานกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี หรือ กิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด  ด้านข้างโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่  มีผู้แทน บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทก้าวพีเค จำกัด (9PK) นัดเจรจาเรื่องเงินที่ติดค้างจ่ายกับกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย ที่นำโดย นายฐิติพงษ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด หัวหน้าวางระบบไฟฟ้าของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อเจรจาเกี่ยวกับประเด็นเงินค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ

นายฉัตรชัย ศรีทิพยราษฎร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท 9PK จำกัด ชี้เเจงว่า ได้รับงานจาก “กิจการค้าร่วม ITD-CREC” (ร่วมกันระหว่าง อิตาเลียนไทย กับ ไชน่าเรลเวย์) มาจ้าง บริษัท 9PK มูลค่า 520 ล้าน เพื่อทำระบบไฟฟ้า ภายในตึก สตง. จากนั้นทางบริษัท 9PK ก็ได้ไปจ้างผู้รับเหมาช่วงอีกหลายราย ซึ่งการทำงานมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 30% ทาง”กิจการค้าร่วม ITD-CREC” จะต้องจ่ายเงินเป็นงวดๆ ให้กับบริษัท 9PK เป็นจำนวนรวม 190 ล้านบาท เเต่ “กิจการค้าร่วม ITD-CREC” จ่ายมาเพียงเเค่ 110 ล้านบาท ยังติดค้างชำระอีกกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้บริษัท 9PK ขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถหาเงินไปจ่ายให้กับช่างเบิร์ดและผู้รับเหมารายอื่นๆ ได้ มีค่าจ้าง 9 ล้านบาท ทางบริษัท 9PK ได้ชำระไปบางส่วน ยังไม่เต็มจำนวน โดยที่ผ่านมาก็พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อมาจ่ายให้กับช่างเบิร์ดและผู้รับเหมาช่วงรายอื่น แต่ก็หาไม่ได้จริงๆ


ก่อนหน้านี้จึงได้มีการเจรจากับ “กิจการร่วมค้า ITD-CREC” เพื่อขอเงินประกันการก่อสร้าง ที่ทางบริษัท 9PK ได้วางไว้จำนวน 5 ล้านบาท คืนมาให้บริษัท 9PK เเละอยากให้ “กิจการร่วมค้า ITD-CREC” จ่ายเงินที่ติดค้าง 4 ล้านบาท มาให้ครบจำนวน 9 ล้าน เพื่อที่จะได้นำเงินไปจ่ายให้ช่างเบิร์ด และผู้รับเหมาช่วงทั้งหมด เรื่องจะได้จบกันไป

นายฉัตรชัย ยืนยันว่า บริษัท 9PK ไม่มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงินผู้รับเหมาช่วง แต่อยากให้เข้าใจว่าไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ เพราะขาดสภาพคล่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาทางบริษัทของตนตกเป็นจำเลยของสังคม ถูกกล่าวหาว่าเบี้ยวหนี้ ไม่จ่ายเงินผู้รับเหมา ยืนยันจะอธิบายความจริงให้สังคมรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ขณะที่ตัวแทนฝั่ง บริษัทไชน่าฯ ได้ลุกขึ้นระหว่างการหารือ โดยก่อนที่จะลุกขึ้น ได้พูดว่า วันนี้มาเพื่อที่นัดมาคุยกับผู้รับเหมาที่ไม่ได้เงิน และวันนี้ก็ยังไม่มีการเซ็นอะไรกันเลย นั่งคุยกันหรือยอมรับอะไร และขอยืนยันว่าทางบริษัทไชน่าฯ ได้จ่ายเงินไปแล้ว จากนั้นก็มีการโต้เถียงกัน บอกว่า ทางบริษัท 9PK ยินดีที่จะให้บริษัทไชน่าฯ นำเงินที่หักไว้ จำนวน 5 ล้านบาท ให้ทางบริษัทไชน่า นำไปจ่ายให้กับผู้รับเหมา และได้ขอให้ บริษัทไชน่า พิจารณา เงินในส่วนที่ ทางบริษัท 9PK ทำงานเกินไปก่อนหน้านี้แล้วยังไม่เบิกจ่าย ให้พิจารณาอนุมัติมาก่อนสัก 4 ล้าน ส่วนเงินที่เหลือ ทางบริษัท9PK ยินดีจะรอให้ตรวจสอบ แต่จะขอให้นำเงิน ออกมาจำนวนหนึ่งก่อนเพื่อให้กับผู้รับเหมา แต่พอสิ้นสุดคำนี้ ทางตัวแทนของฝั่งบริษัทไชน่าฯ ได้แย้งไปว่า เอกสารเบิกเงิน จำนวน 70 ล้าน ที่อ้างมานั้นผ่านมานานแล้ว


ตัวแทน บริษัท9PK ได้พยายามชี้แจงความยุ่งยากของการเบิกแต่ละครั้ง แต่ตัวแทนของบริษัทไชน่า ก็ได้ลุกขึ้นทันที ด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ ทำให้ผู้รับเหมาที่มานั่งฟังด้วย ไม่พอใจ และออกมาพูดสั้นๆ ว่าไม่ได้หนี แต่สิ่งที่ บริษัท9PK พูดสิ่งไม่เป็นความจริง และยืนยันว่า บริษัทไชน่าฯ ไม่ได้มีค้างเงินกับใครเลยสักบาท

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ได้มีการจ่ายเงินล่าช้าจริงหรือไม่ เนื่องจากกลุ่มรับเหมามีเอกสารมายืนยัน โดยตัวแทนบริษัทไชน่าฯ ไม่ตอบคำถาม ก่อนเดินข้ามถนนกลับทันที

จากนั้นนายฉัตรชัย พูดเสริมว่า ขอความเป็นธรรมให้กับทาง บริษัท9PK เพราะตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นบริษัทผม กลายเป็นคนผิดมาตลอดจึงอยากชี้แจง วันนี้นำเอกสารมาว่ายังไม่ได้เงินในบางส่วน แต่ทางบริษัทจีนกลับไม่มีเอกสารอะไรเลยพูดเพียงอย่างเดียวว่าจ่ายเงินให้ทางเราหมดแล้ว ทั้งที่ทางเรายังไม่ได้เงินถึงกว่า 70 ล้าน แต่กลับไม่มีใครเชื่อ ทางเราที่มีเอกสารมาชี้แจง ซึ่งผมเข้าใจและยืนยันจะหาเงินมาจ่ายให้กับกลุ่มผู้รับเหมา

ด้านนายฐิติพงศ์ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับตัวแทนบริษัทไชน่าฯ ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ไม่จ่ายเงินให้กับตัวแทนผู้รับเหมาเพราะเกรงว่าเงินจะไม่ถึงแรงงาน แต่ตัวเองก็ ระบุไปว่าหากรู้สึกกังวลก็ให้นำเงินค่าจ้างมามอบต่อหน้าสื่อ และทำสัญญาขึ้นมา ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาทางบริษัทไชน่าฯ ก็ตอบตกลงที่จะจ่ายเงิน แต่วันนี้กลับมีท่าทีที่จะไม่ยอมชำระเงินค่าจ้างให้ตามสัญญา รวมถึงยังแสดงท่าทีไม่พอใจ ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองไม่สามารถทวงเงินโดยตรงกับทางจีน ทำได้เพียงติดต่อขอเงินจากผู้รับเหมาคือบริษัท 9PK เท่านั้น และเหตุการณ์วันนี้ก็ทำให้ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นการจ่ายค่าจ้างที่คงค้างอยู่

หลังจากนี้ ทางผู้รับเหมาจะประสานไปยังตัวแทนของบริษัทจีน ให้กลับเข้ามาคุยเพื่อหาทางออก โดยจะคุยเป็นการส่วนตัวระหว่างกัน ผู้รับเหมาและบริษัทจีนเท่านั้นโดยจะไม่มี บริษัท9PK มาร่วม จากนั้นจะมาชี้แจงรายละเอียดให้สื่อมวลชนทราบในภายหลัง

นายฐิติพงษ์ หรือ ช่างเบิร์ด หัวหน้าวางระบบไฟฟ้าของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังเจรจาเกี่ยวกับประเด็นเงินค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ ว่า วันนี้มีการเจรจา 2 ครั้ง ครั้งแรกนัดมาพูดคุยกันเรื่องเงิน แต่ทางบริษัท9PK ไปคุยถามเรื่องเงินกับบริษัท ไชน่าฯ จากนั้นได้โทรศัพท์ตามเขาก็กลับมาเพื่อพูดคุยกับผู้รับเหมา ผลสรุปคือเขาไม่อยากจะหนีแต่ไม่อยากฟังที่บริษัท9PK ชี้แจง และยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาแต่ขอไปประชุมสรุปเกี่ยวกับเรื่องบัญชีว่าหากจะตัดเงินมาจ่ายจะโดนภาษีหรือไม่ และกังวลเรื่องแรงงาน หากจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาไปแล้วจะจ่ายเงินให้กับแรงงานหรือไม่ จึงขอเอกสารกับผู้รับเหมาให้ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนของแรงงานและเซ็นเอกสารว่าได้รับเงินแล้วให้มายื่น ตัวเองจึงแจ้งไปหากไม่สบายใจให้ทำสัญญา เพื่อให้บริษัทไชน่าฯ ได้สบายใจ

นายฐิติพงษ์ กล่าวว่า ทางบริษัทไชน่าฯ ยังกังวลว่าหากจ่ายเงินให้แล้วจะมีปัญหากับบริษัท 9PK หรือไม่ ทางผู้รับเหมาและบริษัทไชน่าฯ จึงจะมีการนัดเจรจาให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ทั้งนี้มีผู้รับเหมา 6 ราย รวมมูลค่าที่รวมภาษีแล้วประมาณ 6 ล้านบาท หากเป็นไปได้อยากได้เงินก่อนสงกรานต์ ส่วนตัวมีแรงงาน 30 คน ได้สำรองจ่ายเงินให้ลูกน้องไปหมดแล้ว เหลือเพียงให้ลูกน้องเซ็นเอกสารมามอบให้กับทางบริษัทเท่านั้น.- 419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]