ซิดนีย์ 21 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะต้องก้าวข้ามการให้รัฐบาลใช้นโยบายแทรกแซงอย่างหนัก และยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่จะปิดกั้นไม่ให้ประชาชนได้มีชีวิตร่วมกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เดินหน้าทำสถิติใหม่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,600 คนในวันนี้ สูงกว่าสถิติเดิม 4,100 คนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ แต่นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันยืนยันกับสื่อว่า การจำกัดการแพร่ระบาดอยู่ที่ความรับผิดชอบส่วนบุคคล รัฐบาลต้องมองว่า ประชาชนโตแล้ว ต้องเลิกใช้มาตรการแทรกแซงอย่างหนัก และเลิกบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคม รัฐบาลจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ และจะเดินหน้านโยบายการมีชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัสนี้อย่างมีสามัญสำนึกและความรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังได้ขอให้รัฐต่าง ๆ เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนอีกครั้งเพื่อฉีดเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากประชาชนวัย 16 ปี ขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 80
ด้านนายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขเผยว่า แม้ผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล และถึงแม้โรงพยาบาลมีผู้ป่วยมากขึ้น แต่ก็ยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด.-สำนักข่าวไทย