ชาวจีนในเซินเจิ้นรวมตัวประท้วงมาตรการล็อกดาวน์

ปักกิ่ง 27 ก.ย. – ชาวจีนหลายสิบคนได้ออกมาชุมนุมประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นการประท้วงที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในจีน ในขณะที่ทางการท้องถิ่นประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์สั้น ๆ หลังพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่จำนวนหนึ่งในชุมชน เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีนและมีประชากรกว่า 18 ล้านคน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพียง 10 คน แต่ยังคงสั่งให้ประชาชนใน 3 เขตของเซินเจิ้นอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากต้องปฏิบัติตามนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในการยุติการระบาดของโรคโควิดให้ได้ก่อนถึงกำหนดการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนหน้า ในขณะเดียวกัน คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านเวย์ปั๋ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ และอินสตราแกรมตั้งแต่เมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นภาพชาวจีนหลายสิบคนในย่านหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้เขตฝูเถียน ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการของเขตปกครองพิเศษเซินเจิ้น ออกมาชุมนุมบนท้องถนนพร้อมพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์’ ในขณะที่มีตำรวจสวมชุดป้องกันเชื้อโรคยืนคุมสถานการณ์อยู่หลายนาย และยังมีอีกคลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นภาพผู้หญิงจีนคนหนึ่งตะโกนว่า ‘ตำรวจทำร้ายประชาชน’ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของทางการท้องถิ่นระบุว่า ขณะนี้ เขตปกครองพิเศษเซินเจิ้นมีชุมชนอย่างน้อย 14 แห่งใน 3 เขต ได้แก่ เขตฝูเถียน เขตหลัวหู และเขตหลงกัง ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง และประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันนี้ โดยสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน แต่ไม่เปิดเผยตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีชุมชนอีก 15 แห่งที่เป็นพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อโควิดปานกลาง […]

เกาหลีเหนือพบผู้ป่วยโควิดรายแรกในประเทศ

เปียงยาง 12 พ.ค. – เกาหลีเหนือยืนยันอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกในประเทศและสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ โดยที่ผู้ป่วยโควิดรายดังกล่าวติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในกรุงเปียงยาง สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนือเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งใหญ่ในประเทศ เนื่องจากมีช่องโหว่ในด้านกักโรค ทั้งที่มาตรการนี้ช่วยให้เกาหลีเหนือปลอดจากการระบาดของโรคโควิดมาเป็นเวลากว่า 2 ปี 3 เดือนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 รายงานดังกล่าวระบุว่า มีชาวเกาหลีเหนือในกรุงเปียงยางติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทางการเก็บตัวอย่างส่งตรวจของผู้ป่วยติดเชื้อเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม แต่ไม่ได้เปิดเผยยอดผู้ป่วยโควิดหรือข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของโรค รายงานดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เป็นประธานเปิดประชุมพรรคแรงงานเกาหลีเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางควบคุมการระบาดของโรคโควิด นายคิมได้สั่งให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดทั่วประเทศเพื่อป้องกันการระบาดในครั้งนี้ และสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรองเวชภัณฑ์ฉุกเฉินโดยด่วน ก่อนหน้านี้ แม้เกาหลีเหนือยืนกรานมาตลอดว่าไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้และสหรัฐตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากได้รับรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจำนวนมากในหลายเมืองของเกาหลีเหนือที่มีพรมแดนติดเกาหลีใต้กับจีน ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยปฏิเสธไม่รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดจากโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกและวัคซีนซิโนแวกจากจีน.-สำนักข่าวไทย

ชาวเซี่ยงไฮ้ออกนอกบ้านครั้งแรกหลังล็อกดาวน์ 2 สัปดาห์

เซี่ยงไฮ้ 12 เม.ย. – ประชาชนบางส่วนในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์หลังจากที่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 โดยทางการท้องถิ่นได้เริ่มประกาศผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจ นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีน ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า มีชาวเซี่ยงไฮ้ที่กว่า 7,000 ครัวเรือนได้รับการประเมินให้อยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อโควิดต่ำ เนื่องจากไม่พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวลา 14 วัน และทางการของเขตเหล่านี้ก็ได้ประกาศอนุญาตให้ประชาชนออกนอกบ้านได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีประชาชนบางส่วนได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านในวันนี้แล้ว แต่ก็ยังมีความสับสนเกี่ยวกับขอบเขตที่ผู้อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่ำสามารถเดินทางไปได้ โดยมีประชาชนจำนวนมากที่รอฟังประกาศเพิ่มเติมจากคณะกรรมการเขต นครเซี่ยงไฮ้ยังรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการเมื่อวันจันทร์ 22,348 คน ลดลงจากวันก่อนร้อยละ 11 และพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่แสดงอาการ 994 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 914 คน ทำให้จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 166,800 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายรายของจีนให้ความเห็นว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่านครเซี่ยงไฮ้ควบคุมการระบาดได้หรือไม่ โดยที่การระบาดของโรคโควิดในนครเซี่ยงไฮ้ถือเป็นการระบาดครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่จีนพบการระบาดของเชื้อโควิดครั้งแรกในช่วงปลายปี 2562.-สำนักข่าวไทย

เซี่ยงไฮ้ขยายล็อกดาวน์ไม่มีกำหนดหลังยอดป่วยโควิดพุ่ง

เซี่ยงไฮ้ 5 เม.ย. – นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีน ประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปโดยไม่มีกำหนด หลังเร่งตรวจหาเชื้อโควิดในชาวเมืองมากกว่า 25 ล้านคนเมื่อวันจันทร์ จนทำให้พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งกว่า 13,000 คน ทางการนครเซี่ยงไฮ้มีกำหนดยกเลิกการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมืองในวันนี้ แต่ได้ประกาศขยายการใช้มาตรการล็อกดาวน์ออกไปโดยไม่มีกำหนด ทางการยังระบุเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ว่า จะเพิ่มการใช้มาตรการจำกัดบริการขนส่งสาธารณะของนครเซี่ยงไฮ้มากขึ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้เส้นทางเดินรถไฟใต้ดินถูกระงับบริการมากกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน นครเซี่ยงไฮ้รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการ 13,086 คน ในวันที่ 4 เมษายน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่และเพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 8,581 คน ส่วนตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่แสดงอาการลดลงเหลือ 268 คน จากวันก่อนที่มี 425 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 157,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน. -สำนักข่าวไทย

ชาติตะวันตกวอนจีนอย่าแยกเด็กติดโควิดจากผู้ปกครอง

เซี่ยงไฮ้ 4 เม.ย. – ตัวแทนด้านการทูตของชาติตะวันตกกว่า 30 ประเทศได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงต่างประเทศของจีนเพื่อแสดงถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายแยกเด็กติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้ปกครอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการระบาดรุนแรงในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ทางการนครเซี่ยงไฮ้ได้ใช้นโยบายแยกเด็กติดเชื้อโควิดออกจากผู้ปกครอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางดังกล่าวเป็นวงกว้าง ขณะที่ตัวแทนด้านการทูตของชาติตะวันตกกว่า 30 ประเทศได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงต่างประเทศจีนเพื่อเรียกร้องให้ทางการจีนเลิกใช้นโยบายนี้ สถานกงสุลฝรั่งเศสในนครเซี่ยงไฮ้ได้ส่งจดหมายถึงสำนักงานต่างประเทศของนครเซี่ยงไฮ้ลงวันที่ 31 มีนาคม โดยระบุว่า ฝรั่งเศสขอให้ทางการนครเซี่ยงไฮ้ยกเลิกนโยบายแยกเด็กติดเชื้อโควิดออกจากผู้ปกครอง ส่วนสถานทูตอังกฤษในกรุงปักกิ่งได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงต่างประเทศจีนในวันเดียวกัน โดยระบุว่า อังกฤษรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายแยกผู้เยาว์ที่ติดเชื้อโควิดออกจากผู้ปกครอง และขอให้จีนยืนยันว่าแนวทางดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่การทูต สถานกงสุลฝรั่งเศสและสถานทูตอังกฤษระบุว่า ส่งจดหมายดังกล่าวในนามตัวแทนของชาติอื่น ๆ รวมถึงสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ หลังจากได้รับทราบข่าวคราวเกี่ยวกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของทางการนครเซี่ยงไฮ้ระบุในงานแถลงข่าวประจำวันนี้ว่า เด็กที่ติดเชื้อโควิดจะได้รับอนุญาตให้มีผู้ปกครองดูแลได้ในกรณีที่ผู้ปกครองติดเชื้อโควิดเช่นกัน แต่เด็กที่ติดเชื้อโควิดจะต้องถูกแยกจากผู้ปกครองในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ได้ติดเชื้อโควิด ทั้งยังระบุว่า ทางการท้องถิ่นกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับปรุงแนวทางดังกล่าว ขณะที่ในวันนี้จีนได้ส่งทหารและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายพันคนลงพื้นที่นครเซี่ยงไฮ้เพื่อช่วยตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนราว 26 ล้านคน เนื่องจากนครเซี่ยงไฮ้ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 156,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน. […]

ชาวเซี่ยงไฮ้แห่ซื้อของตุนเกลี้ยงชั้นวางหลังล็อกดาวน์

เซี่ยงไฮ้ 29 มี.ค.-นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางด้านการเงินของจีน พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ทำสถิติพุ่งสูงกว่า 4,400 คน ในขณะที่ประชาชนต่างแห่กันไปซื้อของตุนจนเกลี้ยงชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ต ท่ามกลางสถานการณ์ที่นครเซี่ยงไฮ้เข้าสู่วันที่สองของการใช้มาตรการล็อกดาวน์ จีนพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 6,886 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในนครเซี่ยงไฮ้กว่า 4,400 คน ทำให้นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากรราว 25 ล้านคน กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่จีนพบการระบาดของโรคโควิดในช่วงแรก ขณะที่รูปถ่ายที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นภาพชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่าในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งของนครเซี่ยงไฮ้ ส่วนผู้ใช้งานเวย์ปั๋ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ ระบุว่า เขาไม่สามารถซื้อสินค้าได้เลยสักอย่างเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เขาจึงกลับบ้านไปนอนและฝันถึงการซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ก่อนหน้านี้ ทางการนครเซี่ยงไฮ้ได้ประกาศล็อกดาวน์เขตผู่ตง ทางตะวันออกของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติและสถาบันทางการเงินที่สำคัญ ตั้งแต่วันจันทร์ไปจนถึงวันศุกร์นี้ จากนั้น ทางการจะสลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เขตผู่ซี ทางตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากรมากกว่าเขตผู่ตง ในขณะเดียวกัน ทางการนครฉางชุน ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ได้ออกมาขอโทษประชาชนหลังเกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์และมาตรการควบคุมโรคโควิดที่ทำให้ตลาดค้าส่งอาหารรายใหญ่ 2 แห่งในนครฉางชุนต้องปิดบริการ รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานที่ทำให้การส่งสินค้าไปยังบ้านเรือนต่าง ๆ เกิดความล่าช้า อย่างไรก็ดี ทางการมณฑลจี๋หลินระบุว่า ได้จัดเตรียมส่งถุงผักราว 1,000 ตันไปให้นครฉางชุนทุกวัน เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงานคัดแยกและจัดส่งสิ่งของตามบ้านแล้ว ทั้งนี้ […]

เซินเจิ้นเลิกล็อกดาวน์-เซี่ยงไฮ้ปิดดิสนีย์แลนด์คุมโควิด

เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีน ประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังทางการท้องถิ่นระบุว่าสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้แล้ว ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงสุด จนทำให้ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ต้องปิดบริการชั่วคราว

เซินเจิ้นคลายล็อกดาวน์หวังลดผลกระทบเศรษฐกิจจีน

ปักกิ่ง 18 มี.ค. – เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ทางตอนใต้ของจีน ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในบางพื้นที่แล้ว หลังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กำชับว่าจำเป็นต้องลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโรคโควิด เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีนและมีประชากร 17 ล้านคน ประกาศเมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีว่า จะอนุญาตให้ประชาชน โรงงาน และระบบขนส่งสาธารณะกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติในพื้นที่ 4 เขต รวมถึงพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หลังทางการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่วันอาทิตย์ ทั้งยังระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวประสบความสำเร็จตามยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ในชุมชน ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในวันนี้ 105 คน ในขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมการระบาดของโรคโควิดของเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นระบุว่า มาตรการควบคุมโรคโควิดแบบใหม่ของเซินเจิ้นมีขึ้นเพื่อปรับสมดุลระหว่างการป้องกันและควบคุมโรคโควิดกับการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจ ทั้งยังระบุว่า สถานการณ์ระบาดในเซินเจิ้นยังคงรุนแรง แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และทางการท้องถิ่นได้ตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนเป็นวงกว้างถึงสองครั้งแล้ว ทั้งนี้ มาตรการใหม่ของเซินเจิ้นมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีสีได้เน้นย้ำในการประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนกำลังได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้ยุทธศาสตร์ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์ แต่จะยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ดังกล่าวต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิด คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีนรายงานวันนี้ว่า จีนพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 4,365 คน ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 126,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน ขณะนี้ ยังมีประชาชนจีนอีกหลายล้านคนทั่วประเทศที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์.-สำนักข่าวไทย

จีนล็อกดาวน์ 13 ล้านคนในเมืองซีอานตั้งแต่วันนี้

ซีอาน 23 ธ.ค.- จีนสั่งให้ประชาชน  13 ล้านคนในซีอาน มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่แต่ในบ้านตั้งแต่วันนี้ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทางการสั่งให้ทุกครัวเรือนส่งคนออกไปซื้อของจำเป็นได้เพียง 1 คนในทุก 2 วันเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่คนอื่น ๆ ในครัวเรือนต้องอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นมีเหตุฉุกเฉิน และห้ามออกนอกเมืองโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องขออนุญาตจากทางการ ธุรกิจที่ไม่จำเป็นถูกปิดหมด รวมถึงสุสานทหารม้าดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อดังอายุเก่าแก่ 2,000 ปี เมืองซีอานถูกล็อกดาวน์หลังจากพบว่า ผู้ติดเชื้อหลายร้อยคนโยงกับผู้ติดเชื้อรายแรกในมหาวิทยาลัยของเมือง ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 63 คนในวันนี้ หลังจากทางการเริ่มตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่กับคนทั้งเมือง 13 ล้านคน การระบาดในเมืองซีอานยังแพร่ไปยังเมืองอื่นอีก 5 เมือง เช่น กรุงปักกิ่งที่อยู่ทางเหนือ เมืองในมณฑลกวางตุ้งที่อยู่ทางใต้ จุดกระแสวิตกว่าเชื้อกำลังแพร่อย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ รองนายกรัฐมนตรีซุน ชุนหลานเตือนขณะตรวจเยี่ยมเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า สถานการณ์กำลังร้ายแรงและซับซ้อน ขอให้เร่งใช้มาตรการควบคุมการระบาดโดยทันที จีนกำลังใช้นโยบายควบคุมโควิดเป็นศูนย์ให้ได้ ก่อนที่กรุงปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียยืนยันไม่ล็อกดาวน์คริสต์มาส

ซิดนีย์ 22 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ช่วงคริสต์มาส เนื่องจากโรงพยาบาลยังสามารถรับมือได้ดี แม้มีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์เพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันแถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินกับมุขมนตรีรัฐต่าง ๆ ในวันนี้ว่า แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเดินหน้าทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการเข้าโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตยังคงต่ำเมื่อเทียบกับช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด ชาวออสเตรเลียได้พยายามอย่างหนักที่จะได้มีเวลาร่วมกันในช่วงคริสต์มาส และรัฐบาลต้องการปกป้องความพยายามนี้ สิ่งหนึ่งที่ที่ประชุมเห็นพ้องกันในวันนี้คือ จะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันย้ำว่า การจำกัดการระบาดเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล รัฐบาลกลางจะไม่บังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในอาคาร แม้ว่าแนะนำให้ทำอย่างยิ่งก็ตาม ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ศูนย์ฉีดวัคซีนกำลังเร่งเดินหน้าอยู่ โดยที่คณะผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องร่นระยะห่างของการฉีดเข็ม 3 ขณะนี้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วร้อยละ 80 ออสเตรเลียพบผู้ติดโควิดรายใหม่เกิน 5,000 คนเป็นครั้งแรกในวันนี้ ลบสถิติเดิม 4,600 คนเมื่อวันก่อน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ร้อยละ 95 อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 1 และ 2 ของประเทศ ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมทั้งประเทศราว 265,000 คน เสียชีวิตราว 2,160 คน.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียไม่ล็อกดาวน์แม้มีคนติดโอไมครอนเพิ่มขึ้น

ซิดนีย์ 21 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะต้องก้าวข้ามการให้รัฐบาลใช้นโยบายแทรกแซงอย่างหนัก และยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่จะปิดกั้นไม่ให้ประชาชนได้มีชีวิตร่วมกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เดินหน้าทำสถิติใหม่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,600 คนในวันนี้ สูงกว่าสถิติเดิม 4,100 คนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ แต่นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันยืนยันกับสื่อว่า การจำกัดการแพร่ระบาดอยู่ที่ความรับผิดชอบส่วนบุคคล รัฐบาลต้องมองว่า ประชาชนโตแล้ว ต้องเลิกใช้มาตรการแทรกแซงอย่างหนัก และเลิกบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคม รัฐบาลจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ และจะเดินหน้านโยบายการมีชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัสนี้อย่างมีสามัญสำนึกและความรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังได้ขอให้รัฐต่าง ๆ เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนอีกครั้งเพื่อฉีดเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หลังจากประชาชนวัย 16 ปี ขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 80 ด้านนายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขเผยว่า แม้ผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้น แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล และถึงแม้โรงพยาบาลมีผู้ป่วยมากขึ้น แต่ก็ยังน้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด.-สำนักข่าวไทย

ชี้ภาพผู้นำอังกฤษจิบไวน์ช่วงล็อกดาวน์ปีก่อนไม่ใช่งานเลี้ยง

ลอนดอน 20 ธ.ค. – นายโดมินิก ราบ รองนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ระบุวันนี้ว่า ภาพถ่ายที่มีนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอีกหลายสิบคนนั่งดื่มไวน์บริเวณสวนภายในสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงที่อังกฤษใช้มาตรการล็อกดาวน์ปีก่อนไม่ใช่การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่เป็นการรวมตัวกันเพื่อทำงาน หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษตีพิมพ์รูปภาพที่แสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน วัย 57 ปี และนางแคร์รี จอห์นสัน ภริยา วัย 33 ปี ซึ่งกำลังอุ้มบุตรชายวัยแรกเกิด นั่งร่วมโต๊ะกับบุคคลอื่นอีก 2 คนภายในสวนของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยที่บนโต๊ะมีขวดไวน์และชีสที่เป็นเครื่องเคียง ส่วนโต๊ะที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักมีผู้นั่งอยู่ 4 คน และมีอีกโต๊ะใกล้กันเป็นกลุ่มคนยืนถือแก้วไวน์ล้อมรอบโต๊ะที่มีขวดไวน์วางอยู่ นายโดมินิก ราบ รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยผ่านสถานีวิทยุไทมส์ เรดิโอ ของอังกฤษว่า สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษมักใช้สวนบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ประชุมเรื่องการทำงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดแต่อย่างใด และเขาไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะถูกจัดว่าเป็นการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ทั้งยังระบุว่า ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นวันที่รัฐบาลอังกฤษเพิ่งเสร็จจากการจัดงานแถลงข่าว และเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็จะนั่งดื่มเครื่องดื่มหลังเสร็จงานที่สวนเป็นครั้งคราว ซึ่งเขามองว่าเป็นการรวมตัวกันเพื่อทำงานมากกว่า อย่างไรก็ดี เหตุการณ์นี้ทำให้นายกรัฐมนตรีจอห์นสันถูกตรวจสอบอย่างหนักหลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษจัดงานเลี้ยงหลายครั้งในช่วงที่อังกฤษประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนรวมตัวกัน นอกจากนี้ ผู้นำอังกฤษยังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนับตั้งแต่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษกำลังหัวเราะขบขันที่งานเลี้ยงของสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีก่อนที่อังกฤษกำลังใช้มาตรการล็อกดาวน์และสั่งห้ามจัดงานเลี้ยงสังสรรค์.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4
...