กรมสรรพากรเดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีบัญชีเดียว

กรมสรรพากร 6 มี.ค. – กรมสรรพากรยอมรับจดแจ้งบัญชีเดียวนำส่งรายได้เพิ่มร้อยละ 3-4  ยืนยันไม่ตรวจสอบย้อนหลัง หวังดึงเอสเอ็มอีเข้าระบบ หลังกังวลกลุ่มสีเท่าจำนวนมากยังไม่จดแจ้ง 


นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวระหว่างร่วมงานสัมมนา “ความร่วมมือ 4  หน่วยงานกับสิทธิ์ประโยชน์จากการจดแจ้งภาษีอากร”  ว่า หลังจากเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาจดแจ้งรายชื่อเพื่อจัดทำบัญชีเดียว  ปีที่ผ่านมามีเอสเอ็มอีจดแจ้ง 465,000 ราย  มีสัดส่วนเพียง 1/3 เพราะเป็นห่วงเอสเอ็มอี สัดส่วน 2/3 ของเอสเอ็มอีทั้งระบบ 2.6 ล้านราย เพื่อต้องการให้ทุกฝ่ายจัดทำบัญชีอย่างโปร่งใสถูกต้อง  เมื่อผู้ประกอบการจัดทำบัญชีอย่างถูกต้องในช่วงที่ผ่านมาพบว่าเอสเอ็มอีมีรายได้มากกว่า 30 ล้านบาท นำส่งภาษีรายได้มูลค่าเพิ่มร้อยละ 3-4  เช่น กลุ่มร้านทอง จากเดิมเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เพียง 2.8 ล้านบาท เพิ่มเป็น 28 ล้านบาทในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ย้ำว่าอนาคตกรมสรรพากรจะลดอำนาจการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เปลี่ยนมาเป็นการใช้ระบบข้อมูลตรวจสอบ ทำให้การเจรจากับเจ้าหน้าที่ของผู้ประกอบการต้องลดน้อยลง ปรับโครงสร้างในองค์กร จากส่วนกำกับดูแลผู้เสียภาษี  เปลี่ยนมาเป็นส่วนแนะนำและตรวจสอบภาษี เพื่อต้องการให้คำแนะนำการเสียภาษีอย่างถูกต้อง และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม  2562 ธนาคารจะเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีเดียวเป็นเครื่องมือพิจารณาสินเชื่อ  ดังนั้น จึงต้องการส่งเสริมเอสเอ็มอีจัดทำบัญชีเดียวในการประกอบกิจการ ยืนยันว่าจะไม่มีการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังอย่างแน่นอน  สำหรับจัดทำบัญชีเดียว หากเอสเอ็มอีมีกำไรสุทธิไม่เกิน 300,000 บาท ในปี 2559,2560 ได้รับการยกเว้นภาษี หากมีกำไรมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษีร้อยละ 10


นายประสงค์  กล่าวว่า  หลังจากเปิดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่จัดตั้งก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 และมีทุนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท มาจดแจ้งตามพระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล  กรมสรรพากรจึงต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสีเทา ซึ่งยังจัดทำบัญชีไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบบัญชีเดียวให้มากขึ้น

นายกิตติพงษ์ อุรพีพัฒนพงศ์ รองประธาน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการต่าง ๆ เข้าสู่ระบบ ทำให้ภาครัฐมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นจากการเสียภาษีจำนวนมาก อัตราภาษีจึงมีแนวโน้มลดลง เพื่อลดภาระให้กับผู้ประกอบการ แนวโน้มการประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอีหนีไม่พ้นที่ต้องค้าขายต่างแดน หรือร่วมทุน เมื่อตลาดเติบโต จึงต้องถูกผู้ร่วมทุนมาตรวจบัญชี

นายสรกิจ มั่นบุปผชาติ  รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่อาเซียนตลาดในประเทศเพื่อนบ้านจะกลายเป็นตลาดเดียว จึงหนีไม่พ้นสำหรับผู้มีแนวโน้มการเติบโต เพราะจะมีผู้สนใจเข้ามาร่วมทุน สั่งซื้อ จึงหลีกหนีไม่พ้นปรับระบบบัญชีให้มีมาตรฐาน ทุกฝ่ายจึงต้องปรับตัวให้พร้อม เนื่องจากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จะผลักดันให้ทุกคนปรับตัว จึงต้องการส่งเสริมให้ทุกคนเข้าสู่ระบบ ขณะที่สมาคมธนาคารไทย จะเริ่มใช้ระบบบัญชีเดียววิเคราะห์สินเชื่อวันที่ 1 มกราคม 2562  เพราะธนาคารต้องการเห็นภาพผู้ประกอบการ เมื่อมีความชัดเจนโปร่งใสย่อมได้รับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ