ดอนเมือง 7 ม.ค. – เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย
เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำตัว “หวังซิง” หรือ “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโยลีและสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่บินด่วนไปเจรจารับตัว “ซิงซิง” กลับมา ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นเครื่องบินตำรวจ ออกจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ในเวลา 18.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาด้วย เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้เสียหาย โดยซิงซิงอยู่ในสภาพอิดโรย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอบคุณทางการไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี
ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเขตดอนเมือง เพื่อทำการสอบสวนในฐานะผู้เสียหาย และนำข้อมูลไปขยายผลว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวด้วยหรือไม่ ก่อนส่งตัวซิงซิงให้ทางสถานทูตจีน เพื่อพบญาติ และเตรียมตัวกลับประเทศจีน ซึ่งทางครอบครัวดีใจมากหลังจากที่เราช่วยเหลือเขากลับมาได้
ส่วนข้อครหาจากสังคมว่าเป็นการสองมาตรฐานหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนไทยถูกหลอกในลักษณะแบบนี้แต่การช่วยเหลือล่าช้า พล.ต.อ.ธัชชัย ยืนยันว่าปกติตำรวจทำงานอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดีคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ ทางการไทยให้ความสำคัญอยู่แล้ว
ขณะที่เคสนี้เป็นเรื่องระหว่างคนจีนหลอกคนจีน ซึ่งทางผู้เสียหายได้พูดคุยผ่านแอปพลิเคชัน WeChat กับบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นชาวจีน หลอกลวงว่าจะให้มาแคสติ้ง จึงเดินทางมาประเทศไทย และเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษติดกับ จ.ตาก ซึ่งเป็นความสมัครใจเดินทางมาผ่าน ตม. ผ่านเส้นทางด่านต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการสมัครใจไป แต่เมื่อข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านพบว่าเป็นการหลอกลวงให้มาทำงาน ซึ่งเป็นขบวนการเกี่ยวกับหลอกค้ามนุษย์ เมื่อทางการไทยได้รับการประสานจึงช่วยเหลือออกมาโดยประสานชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ให้การช่วยเหลือ
ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างบริษัทในประเทศไทย ทางผู้เสียหายไม่รู้จัก เพราะใน WeChat เป็นการตั้งชื่อขึ้นมาเอง ตามด้วยชื่อของคนจีนที่ติดต่อมา อ้างตัวเป็นผู้กำกับหนัง ซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบเลยว่าคืออะไร แต่มองว่าเป็นการกล่าวอ้างจากผู้ก่อเหตุผ่าน WeChat
สำหรับตัวผู้เสียหายไม่ได้มีการถูกทำร้าย ส่วนที่เห็นมีรอยสีแดงที่ขาข้างซ้ายนั้น เป็นปานหรือตำหนิรอยปาน มีมาตั้งแต่เกิด ยันไม่ใช่บาดแผลที่ถูกทำร้ายแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย