รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร 23 ม.ค. – ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย


นพ.อดิศร วิตตางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิรินธร เปิดเผยถึงเหตุชาวต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่งในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ว่า ทางโรงพยาบาลได้รับการแจ้งประสานงานจากศูนย์เอราวัณ ว่าพบชายชาวต่างชาติมีอาการหมดสติ บริเวณช่วงมอเตอร์เวย์ กิโลเมตรที่ 0 จึงได้ประสานรถพยาบาลไปรับตัวชายชาวต่างชาติมาที่โรงพยาบาล

เมื่อมาถึงพบว่า ตัวผู้ก่อเหตุมีอาการสะลึมสะลือ ยังมีชีพจร แต่ไม่มีสติเท่าที่ควร จากการประเมินพบว่าอาการยังไม่ถึงขนาดฉุกเฉินมาก จึงให้แพทย์ดำเนินการรักษาและเจาะเลือดตรวจวิเคราะห์อาการตามปกติ โดยพบว่าผลเลือดนั้น ผู้ก่อเหตุมีเม็ดเลือดขาวที่สูง จึงเสี่ยงกังวลว่าอาจจะติดเชื้อ จึงให้ผู้ป่วยได้นอนพักที่เปลในห้องฉุกเฉินก่อน ปรากฏว่าเมื่อผู้ก่อเหตุรู้สึกตัว ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งแล้วไล่ชกต่อยคนในห้องฉุกเฉิน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย แบ่งเป็นเจ้าที่โรงพยาบาล 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลคนไข้และพนักงานเวรเปล ส่วนอีกรายเป็นญาติผู้ป่วยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและถูกลูกหลง เบื้องต้นผู้ป่วยทั้ง 3 ราย มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย โดยทางโรงพยาบาลจะให้การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย อย่างเต็มที่


สำหรับตัวผู้ก่อเหตุนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นบุคคลสัญชาติใด เนื่องจากไม่มีญาติหรือบุคคลใกล้ชิดมายืนยันตัวบุคคล รวมทั้งยังไม่ได้พูดให้ข้อมูลใด ๆ กับแพทย์ โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์และล็อคตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.อุดมสุข มาควบคุมตัว โดยทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องฉีดยานอนหลับเพื่อให้ผู้ก่อเหตุมีอาการสงบ ถึงสามารถคุมตัวไปสถานีตำรวจได้ โดยในส่วนทางคดีนั้น ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลก็จะให้เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ดำเนินการทางกฎหมายเอง

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากกรณีที่มีข่าวลือว่า มีคุณยายที่นอนพักรักษาอยู่ในห้องฉุกเฉินเกิดอาการช็อกและเสียชีวิตนั้น นพ.อดิศร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง โดยผู้สูงอายุที่พักรักษาตัวในห้องฉุกเฉินนั้นมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยและก็กลับบ้านไปแล้ว ไม่ได้เสียชีวิตตามที่มีกระแสข่าวลือและไม่ได้ป่วยโคม่าแต่อย่างใด ส่วนเรื่องจะดำเนินการกับบุคคลที่ปล่อยข่าวดังกล่าวนั้น ทางโรงพยาบาลจะขอพิจารณาเอาไว้ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ขอฝากสื่อมวลชนให้แก้ประเด็นดังกล่าวด้วยว่าไม่เป็นความจริง

สำหรับขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและแพทย์นั้น ยอมรับว่าบุคลากรของโรงพยาบาลเสียขวัญ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการฟื้นฟูขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรของโรงพยาบาลต่อไป โดยผู้บริหารและผู้ใหญ่ในกรุงเทพมหานครหลายท่านก็แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจ นอกจากนี้ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจที่โรงพยาบาลด้วย


ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยนั้น จะมีการหารือกันหลังจากนี้อีกครั้ง เนื่องจากทางโรงพยาบาลมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดพออยู่แล้ว แต่อาจจะต้องมีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และจะต้องคำนึงถึงเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วยด้วย.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง