กทม. 24 ม.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายบริษัทเอเจนซี่หลอกระดมทุน อ้างร่วมธุรกิจแบรนด์สินค้าชั้นนำ เสียหายกว่า 200 ล้านบาท
ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ CIB นำกำลังเข้าจับกุมนางสาวดวงกมล อายุ 41 ปี, นายภิญโญ อายุ 40 ปี, นางสาวขวัญสุดา อายุ 42 ปี และนายนิธาน อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 มีผู้เสียหาย 13 คน เข้าแจ้งความกับ CIB ให้ดำเนินคดีกับบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้อง ฉ้อโกง โดย นางสาวดวงกมล ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทดังกล่าวได้หลอกระดมทุนจากกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกันผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง อ้างว่าบริษัทประกอบธุรกิจเอเจนซี่มีคู่ค้าเป็นบริษัทผลิตสินค้าแบรนด์ดัง ทำให้บริษัทมีผลกำไรสูง จึงต้องการระดมทุนจำนวนมาก กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ ร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา
โดยกลุ่มผู้ต้องหา ใช้กลอุบายทำสัญญากู้ยืมเงินจ่ายผลตอบแทนถึงร้อยละ 5-10 ต่อเดือนหรือร้อยละ 60-120 ต่อปี เพื่อจูงใจให้นักธุรกิจหลงเชื่อมาร่วมลงทุน ซึ่งในช่วงแรกบริษัท จ่ายดอกเบี้ยจริง ทำให้กลุ่มผู้เสียหายมั่นใจ และลงทุนต่อเนื่อง แต่เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ต้องหาเสนอจ่ายมีอัตราสูงเกินกว่าที่ธุรกิจโดยทั่วไปจะสามารถจ่ายได้ ทำให้ต้องระดมทุนเพิ่ม เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับนักลงทุน ต่อมาบริษัทไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ ทำให้เกิดความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของบริษัทดังกล่าว พบมีการใช้บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้กว่า 32 บัญชี ในระยะเวลา 10 ปี มีเงินหมุนเวียน กว่า 1,100 ล้านบาท บางส่วนนำไปจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กลุ่มผู้เสียหายเพื่อให้หลงเชื่อว่าทำธุรกิจและได้รับผลตอบแทนจริง บางส่วนเป็นการแบ่งผลประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิด
พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน กระทั่งวันนี้ได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยเปิดปฏิบัติการตรวจค้น 4 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และนนทบุรี 1 ในนั้นคือบริษัทในเขตวังทองหลาง สามารถยึดบัญชีธนาคารพร้อมพยานหลักฐานการกระทำผิดหลายรายการ พบพนักงานบริษัทเพียงคนเดียว ซึ่งยอมรับว่าปัจจุบันบริษัทไม่ได้ประกอบกิจการใด พนักงานคนอื่นทยอยลาออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงตนเองที่มีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลสถานที่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจนครบทั้ง 4 คนแล้ว และนำตัว กก.4 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าได้ชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริง.-สำนักข่าวไทย