ธอส. เตรียมเงินแสนล้านบาท ออกสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ

กรงเทพฯ 24 ม.ค.-ธอส. เตรียมวงเงิน 108,000 ล้านบาท ออกสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้น 0% นาน 1 ปี


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง สนับสนุนคนไทย มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน เตรียมกรอบวงเงิน 108,500 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม นำโดย (1) โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 16 : อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.60% (2) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 3.17% (3) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 2.90% ต่อปี (4) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี (5) โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 4.10% และ (6) โครงการสินเชื่อบ้าน S–em (Self employee) : อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 – 5 เท่ากับ 3.75% ต่อปี ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัย เป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว และในปี 2568 ธอส. ยังคงเดินหน้าดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการสนับสนุนให้คนไทยทุกกลุ่มมีบ้านเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น โดยเตรียมกรอบวงเงินรวม 108,500 ล้านบาท จัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย


  1. โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 16 : กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการที่ยังรับราชการอยู่และเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ
    ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของธนาคาร ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง
    เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.55% ต่อปี
    อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.60%, ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.25% ต่อปี ยกเว้นกรณีกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,400 บาท
  2. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐ และลูกจ้างประจำที่เป็น
    ผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากของธนาคาร
    ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.75% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.17% ต่อปี ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.25% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี ยกเว้นกรณี
    กู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง เดือนละ 3,300 บาท
  3. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี
    และมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี
    โดยต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง
    เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 2.90% ต่อปี, ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.25% ต่อปี, ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี,
    ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,200 บาท พิเศษ!!
    ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 – 3,100 บาท
  4. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 500 ล้านบาท สำหรับผู้พิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือสื่อความหมายทางการเห็น หรือทางการเคลื่อนไหว หรือทางร่างกาย ที่มีบัตรประจำตัว
    คนพิการ และต้องมีความสามารถในการทำนิติกรรมสัญญา ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ย
    คงที่ ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี, ปีที่ 4 – 10 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,800 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900 – 2,800 บาท และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง
  5. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 60,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้ (Gross) ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน และไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท
    ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 4.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ
    4.55% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.10%, ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 6 จนถึง
    ตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี, ชำระหนี้ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,700 บาท
  6. โครงการสินเชื่อบ้าน S-em (Self employee) ปี 2568 : กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับ
    ผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ ค้าขาย ขับแท็กซี่ หรือรับจ้าง โดยไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุด
    ไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 – 5 เท่ากับ 3.75% ต่อปี, ปีที่ 6 – 10 เท่ากับ
    MRR-2.40% ต่อปี, ปีที่ 11 – 15 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และ ปีที่ 16 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี
    กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,400 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน
    1,900 –2,800 บาท

“ธอส. คำนึงถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ผู้พิการ หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มี
รายได้ประจำ ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำได้มากขึ้น ทำให้ผู้ที่ยังขาดโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเอง โดยเฉพาะ
ผู้พิการ ธอส.ได้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อทำให้ผู้พิการมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อสูงขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสอบถามรายละเอียด
เพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th.-515 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เร่งตรวจสอบ จยย.ต้องสงสัย ลานจอดรถสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ EOD เร่งตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย กลางลานจอดรถสนามบินภูเก็ต ด้าน ทภก. แจ้งไม่กระทบเที่ยวบิน แนะผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง วันที่ 25 มิ.ย.68 ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานภูเก็ต ได้รับแจ้ง พบรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ฝั่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทภก. จำนวน 2 คัน ก่อนจะขับออกไปเพียง 1 คัน และทิ้งรถอีกคันไว้โดยไม่มีการแสดงตัวเป็นเจ้าของ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) กำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด โดย ทภก. ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan : ACP บทที่ 4 การตรวจพบสิ่งของต้องสงสัยหรือวัตถุต้องห้าม กรณี ตรวจพบในพื้นที่ของสนามบิน เมื่อเวลา 16.20 น. […]

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

กัมพูชาเข้มไม่ยอมให้เด็กข้ามมาเรียนในไทย

สุรินทร์ 25 มิ.ย. – ไทยเปิดด่านตามหลักมนุษยธรรม แต่กัมพูชายังเข้ม จุดช่องจอมไม่ยอมให้เด็กข้ามมาเรียนในไทย จุดผ่านแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังจากปิดด่าน ทำให้เกิดผลกระทบชาวกัมพูชากับนักเรียนกัมพูชาที่ต้องข้ามฝั่งมาเรียน โดยชาวกัมพูชาบางคนมารอตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะข้ามฝั่งไปยังกัมพูชา ยืนยันว่าจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันได้ และกลับมาเป็นเช่นเดิม ขณะที่คนขับรถส่งเด็กนักเรียน เล่าว่าตั้งแต่มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ ทำให้ขึ้นมารับนักเรียนฝั่งกัมพูชาไปเรียนที่ฝั่งประเทศไทยไม่ได้ เป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว มีทั้งนักเรียนอนุบาลและมัธยม ฝั่งไทยเปิดด่านตนมารอรับนักเรียนฝั่งกัมพูชา เพื่อมาเรียนที่ประเทศไทยทุกวัน แต่นักเรียนฝั่งกัมพูชาข้ามมาประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากฝั่งกัมพูชาไม่เปิดประตูให้ข้ามด่านมายังไทย แม้ฝั่งไทยจะอนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ให้นักเรียนสามารถข้ามแดนไป-กลับได้ เพื่อมาโรงเรียน แต่เช้าวันนี้ รถรับ-ส่ง นักเรียน ที่เข้าไปรับนักเรียนชาวกัมพูชาที่หน้าด่าน ต้องตีรถเปล่ากลับ เนื่องจากกัมพูชาไม่เปิดประตูให้นักเรียนกัมพูชาข้ามเข้ามาเรียนในไทย ล่าสุดประตูฝั่งกัมพูชาเปิดเวลา 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะให้ชาวกัมพูชาที่ป่วยกลับประเทศกัมพูชา หากเอกสารไม่ครบต้องไปประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการส่งกลับ รวมผู้ป่วยและพ่อค้าแม่ค้าที่ตกค้างมากกว่า 500 คน ส่วนรถตกค้างประมาณ 50 คัน ส่วนใหญ่เป็นของผู้ค้าในตลาดชายแดนช่องจอม ทั้งนี้ ฝั่งกัมพูชาปิดประตูเวลา […]