นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

เปิดรับการลงทุน

สมาพันธรัฐสวิส 24 ม.ค.-นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ตรงกับเวลาประเทศไทยประมาณ 22.00 น. ของประเทศไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำเสนอวิสัยทัศน์และนโยบายของประเทศไทยต่อผู้บริหารจากภาคเอกชน และร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ในกิจกรรม Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand ในห้วงของการประชุม World Economic Forum ประจำปี ค.ศ. 2025 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้


นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาที่ประชุมสำคัญของโลกที่ดาวอสเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นเสมือนการประชุมสุดยอดของผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดของโลก และการร่วมกิจกรรมในวันนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เน้นย้ำให้ทราบถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่น ที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาค และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาค ประเทศไทย มีโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมระดับโลก และขอยืนยันว่า ในยุคแห่งปัญญาและนวัตกรรมนี้ โลกจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ เพื่อสร้างอนาคตที่เหมาะสมเพื่อทุกคน ซึ่งประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปสู่การใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมจุดแข็งของประเทศไทย 3 ประการ ดังนี้

ประการแรก ในด้านเกษตรกรรมและอาหารประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่มีทรัพยากรการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ครัวโลก” โดยรัฐบาลกำลังเดินหน้าเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ ผ่านการใช้ AI หุ่นยนต์ และการเกษตรแบบแม่นยำ เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ลดของเสีย เพิ่มผลผลิตให้ได้สูงที่สุด และเพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรรมไทยจะมีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลยังขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านอาหาร เพื่อช่วยให้ร้านอาหารของไทยได้สร้างสรรค์เมนูที่ไม่เพียงอร่อย แต่ยังมีความยั่งยืนและคำนึงถึงสุขภาพ


ประการที่สอง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของไทยซึ่งเปรียบเสมือน Soft Power ที่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและสร้างสีสันให้กับสังคม อาทิการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ของโลกแห่งการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่มั่งคั่งและธรรมชาติที่งดงาม โดยประเทศไทยวางตำแหน่งตัวเองให้เป็น “จุดหมายปลายทางสำหรับการผ่อนคลายความเครียด” ซึ่งทุกคนทั่วโลกสามารถมาท่องเที่ยวเพื่อสร้างความทรงจำและเติมพลังให้ตนเอง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ประเทศไทยยังมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก และมีส่วนสำคัญต่อ GDP และการจ้างงานของประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ประการที่สาม อุตสาหกรรมขั้นสูงที่มีความยั่งยืน โดยประเทศไทยให้ความสำคัญกับวาระโลกสีเขียว ผ่านการส่งเสริมอุตสาหกรรมฐานชีวภาพ ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงการขับเคลื่อนการลงทุนสีเขียวและการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้ พร้อมทั้งลงทุนในอุตสาหกรรมขั้นสูงที่จะกำหนดอนาคตของประเทศไทย เช่น การสร้างระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม และการเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลผ่าน data center รวมถึงยังได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเป็นอย่างน้อย 50% ภายในปี 2040 โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล


โอกาสนี้ นายกัฐมนตรียังกล่าวถึงการส่งเสริมปัจจัย 3 ประการ เพิ่มศักยภาพจุดแข็งของไทยให้ได้สูงสุด ดังนี้

ประการแรก การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่ 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการขยายโครงสร้างพื้นฐานและบริการดิจิทัล พัฒนาฟินเทค และเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขันในระดับโลก รวมทั้งดึงดูดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น บริการคลาวด์ ศูนย์ข้อมูล และเซมิคอนดักเตอร์ 2) พัฒนาประชาชน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ผ่านโครงการเสริมทักษะและยกระดับทักษะ

ประการที่สอง การส่งเสริมการค้าและความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลมุ่งหวังที่จะบรรลุมาตรฐานสากลในหลาย ๆ ด้าน ควบคู่กับการคงไว้ของ “การทูตแบบสยาม” อันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ผ่านการรักษาสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์กับมหาอำนาจ โดยไทยได้สมัครเข้าร่วมองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานด้านต่าง ๆของไทย พร้อมทั้งเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงและเดินหน้าไปสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นในระบบพหุภาคีที่มีพื้นฐานจากกฎเกณฑ์ และการเสริมสร้างสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง ครอบคลุม และคาดการณ์ได้ รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการจูงใจ ปรับปรุงกฎระเบียบ และบรรลุความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศ/ดินแดนต่าง ๆ รวมถึงความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ที่ได้ลงนามไปแล้วเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเป็นฉบับแรกที่ประเทศไทยลงนามกับประเทศในยุโรป และเป็นฉบับแรกที่ครอบคลุมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน ช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม EFTA ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้บริโภค 650 ล้านคนในอาเซียนและ 2.3 พันล้านคนใน RCEP ปีนี้ไทยยังตั้งเป้าที่จะเร่งการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับพันธมิตรอื่น ๆ อีกหลายประเทศ/ดินแดนด้วย รวมทั้งสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีขอให้ร่วมกันส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน รวมถึงมุ่งหวังที่จะเติบโตและเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน และไทยจะยังคงเป็นสะพานเชื่อมเพื่อลดความแตกต่างและเพิ่มผลประโยชน์ร่วมกันกับประเทศต่าง ๆ ต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทุกคนที่มาร่วมฟังครั้งนี้จะมีความเข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านคุณค่า จุดแข็ง และวิสัยทัศน์ของไทยที่จะก้าวไปข้างหน้าในฐานะประเทศที่พร้อมจะสร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

โอกาสนี้ นายกรัฐมตรียังเน้นย้ำต่อเวทีการหารือครั้งนี้ว่า “ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่น และมีความพร้อมอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” และขอให้ทุกคนร่วมกันสร้างโลกแห่งโอกาส สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองสำหรับทุกคน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นถึงหนาว กทม.-ตะวันออก อากาศร้อน

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือและอีสาน อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรสวันวาเลนไทน์ สูงสุดรอบ 3 ปี

3,296 คู่รักจูงมือจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ สูงสุดในรอบ 3 ปี LGBTQI+ คึกคักจดทะเบียนรัก 527 คู่ ปีนี้เขตบางรักยังคงครองแชมป์

ฮือฮา “ลิซ่า” กับซีรีส์เรื่องแรก The White Lotus 3

“ลิซ่า แบล็กพิงค์” สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง หลังเข้าร่วมแสดงซีรีส์เรื่อง The White Lotus ซีซั่น 3 และช่วงเย็นที่ผ่านมา “ลิซ่า” พร้อมนักแสดง และผู้กำกับ เดินทางมาเปิดตัวซีรีส์เรื่องนี้ที่ประเทศไทย

ประชาชนหลั่งไหลเข้าสักการะพระเขี้ยวแก้ว วันสุดท้าย

ประชาชนหลั่งไหลสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่สนามหลวง เนืองแน่น ซึ่งวันนี้เปิดให้สักการะเป็นวันสุดท้าย ถึงเวลา 20.00 น. ก่อนจะอัญเชิญกลับสาธารณรัฐประชาชนจีน พรุ่งนี้ (15 ก.พ.68)