เมลเบิร์น 7 มิ.ย. – รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในประเทศสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์ ขณะที่ทางการเร่งหาที่มาของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้นและพบการระบาดครั้งแรกในอินเดีย
รัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 11 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่มีเพียง 2 คน โดยที่ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่มีอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่ชาวออสเตรเลียในนครเมลเบิร์นต่างรอฟังประกาศว่าทางการจะต่ออายุมาตรการล็อกดาวน์ช่วงสั้น ๆ ที่ขยายเวลามาจากสัปดาห์ก่อนตามกำหนดในวันคืนวันพฤหัสบดีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ดี นายเบร็ตต์ ซัตตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับการขยายมาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ของนครเมลเบิร์น หรือการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ขณะนี้ นครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของออสเตรเลีย พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่จากการระบาดครั้งล่าสุดถึง 83 คน และอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเป็นวันที่ 11
ออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีด้วยการใช้มาตรการล็อกดาวน์ช่วงสั้น ๆ คำสั่งปิดพรมแดน และการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 30,150 คน และผู้เสียชีวิต 910 คน ขณะนี้ ออสเตรเลียได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้แก่ประชาชนกว่า 5 ล้านคนจากประชากรทั้งหมดราว 25 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 20.-สำนักข่าวไทย