เตรียมส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยอินเดีย


กต. 30 เม.ย.- กต.-ทอ.จัดเที่ยวบินพิเศษ 1 พ.ค. ขนอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่งไปช่วยอินเดีย เผยมี 3 ข้าราชการไทยติดโควิด อาการหนักสุด ปอดติดเชื้อทั้ง 2 ข้าง มีไข้สูง จ่อนำกลับมารักษา แต่ยังปฏิเสธ เพราะไม่อยากแยกจากครอบครัว



นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ โดยความอนุเคราะห์จากกองทัพอากาศ (ทอ.) กำหนดจัดเที่ยวบินพิเศษจากกรุงเทพฯ-กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320 ของกองทัพอากาศ ซึ่งจะออกจากประเทศไทย ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เวลา 07.00 น. เพื่อนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับมอบจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนไทยไปช่วยเหลือแก่ประเทศอินเดีย ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจนขนาดเล็ก จำนวน 25 ชุด และเตียงกระดาษจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด จำนวน 200 เตียง ซึ่งจะส่งมอบผ่านสภากาชาดอินเดีย อีกทั้งเที่ยวบินนี้จะนำเครื่องผลิตออกซิเจนที่สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยและชุมชนอินเดียในไทยได้จัดเตรียมไว้ รวมทั้งยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปสนับสนุนภารกิจดูแลคนไทยของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ด้วย


นายธานี กล่าวอีกว่า เที่ยวบินดังกล่าวจะเดินทางกลับในเวลา 17.30 น. ของวันเดียวกัน โดยจะนำชาวไทยและข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงนิวเดลีและเมืองใกล้เคียงที่ประสบปัญหาในการได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลท้องถิ่น กลับมายังประเทศไทยด้วย ซึ่งประกอบด้วยผู้ติดเชื้อโควิด 3 ราย และผู้มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ 1 ราย เพราะทำงานใกล้ชิดกับข้าราชการที่ติดเชื้อ โดยในจำนวนของผู้ป่วยส่วนนี้ ผู้ที่มีอาการหนักที่สุด คือ ติดเชื้อในปอดทั้ง 2 ข้าง และมีไข้สูง ซึ่งแพทย์เห็นว่าควรได้รับการรักษาเป็นการเร่งด่วน เพื่อติดตามอาการและค่าออกซิเจนในเลือดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากโรงพยาบาลท้องถิ่นไม่สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มได้ และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอต่อความต้องการ



โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ประสานงานกับเครือข่ายคนไทยในกรุงนิวเดลีและเมืองใกล้เคียง รวมทั้งข้าราชการทีมประเทศไทยและครอบครัว ถึงความประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในเที่ยวบินพิเศษนี้ โดยได้รับแจ้งว่ามีคนไทยติดเชื้อ 3 คน แบ่งเป็นอยู่ในกรุงนิวเดลี 2 คน และในเมืองลัคเนา 1 คน ซึ่งทั้ง 3 คนไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับไปรักษาตัวในไทย เพราะส่วนหนึ่งมีครอบครัวอยู่ที่อินเดีย และไม่สามารถทิ้งครอบครัวได้

นายธานี กล่าวอีกว่า ภารกิจดังกล่าวสะท้อนมิตรภาพอันดีและใกล้ชิดระหว่างไทยกับอินเดีย ในฐานะมิตรประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในยามวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสาธารณสุข และการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ขอขอบคุณกองทัพอากาศ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกหน่วยงานที่สนับสนุนภารกิจอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว.–สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง