กต. จัดระเบียบปัญหาไซเบอร์

กระทรวงการต่างประเทศ 6 ก.ค.- กต. จัดระเบียบปัญหาไซเบอร์! เวียนคู่มือท่าทีตอบโต้ในมิติกฎหมายระหว่างประเทศ ให้หน่วยงานมั่นคงไทยปรับใช้ ชี้ชัด หลักอธิปไตยของรัฐ – หลักการไม่แทรกแซงกิจการภายใน – หลักการไม่ใช้กำลัง – หลักการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี – หลักความรับผิดชอบของรัฐ กระทรวงการต่างประเทศได้จัดทำและเผยแพร่ท่าทีของประเทศไทยในประเด็นการปรับใช้และตีความกฎหมายระหว่างประเทศในมิติไซเบอร์ (Thailand’s National Position on the Application of International Law in Cyberspace) โดยเอกสารฉบับนี้เป็นผลลัพธ์จากกระบวนการปรึกษาหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กรมพระธรรมนูญ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม กรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เอกสารฉบับนี้ได้ระบุแนวทางการตีความหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถนำมาปรับใช้ในบริบทของไซเบอร์ อาทิ หลักอธิปไตยของรัฐ หลักการไม่แทรกแซงกิจการภายใน หลักการไม่ใช้กำลัง หลักการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี หลักความรับผิดชอบของรัฐ ฯลฯ ซึ่งเป็นการบรรจุท่าทีของประเทศไทยต่อการปรับใช้กฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน และเปิดช่องให้มีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมท่าทีดังกล่าวให้สอดคล้องกับพัฒนาการการหารือระหว่างประเทศ […]

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

กต. ยันไทยจะสื่อสารกับกัมพูชาผ่านช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้น

กระทรวงการต่างประเทศ 27 มิ.ย.- กต.ออกแถลงการณ์ “ไทย” จะใช้ช่องทางที่เป็นทางการเท่านั้นในการสื่อสารกับ “กัมพูชา” ยกรายงานหลายฉบับของสหประชาชาติ ชี้ชัดอาชญากรรมข้ามชาติเป็นภัยคุกคาม สร้างความเสียหายมหาศาล ยันพร้อมแสดงบทบาทนำ “นานาชาติ” แก้ปัญหา กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ได้มีความพยายามที่จะปั่นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างความแตกแยกในสังคมไทย รัฐบาลไทยขอยืนยัน และทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายว่า ไทยจะใช้ช่องทางที่เป็นช่องทางทางการเท่านั้นในการสื่อสารระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการปราบปรามปัญหาคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงทางออนไลน์ และการค้ามนุษย์ นั้น ในขณะนี้ ได้มีรายงานหลายฉบับจากองค์การระหว่างประเทศ ทั้งสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime – UNODC) และองค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International – AI) ออกมาชี้แจงให้เห็นว่า อาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้เป็นภัยคุกคาม ซึ่งประเทศไทยเห็นด้วยว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงผลกระทบซึ่งประเทศไทยพร้อมที่จะแสดงบทบาทนำในเรื่องนี้ และขอให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมมือกับไทยในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในอนุภูมิภาคเราต่อไป.-312 -สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกร้องกัมพูชาร่วมแก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบรัฐบาล 25 มิ.ย.- ศบ.ทก.​ ย้ำ​แม้ไทยยกระดับจำกัดเข้า-ออกด่าน​ แต่ยังยึดหลักมนุษยธรรม ​นำผู้ป่วยรักษาแล้ว​ 7 ราย เรียกร้องกัมพูชาร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ปลื้มรับซื้อผลผลิตแล้วกว่า 20,000 กิโลกรัม เชิญชวนประชาชนสนับสนุนสินค้าตามแนวชายแดน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม  รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2568 โดยนางมาระตี แถลงว่าที่ประชุมได้พิจารณาตามที่มีคำสั่งยกระดับการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีผลให้มีการจำกัดการผ่านแดนของทุกคนที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังคงอนุญาตสำหรับบุคคลที่มีความจำเป็นและด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม โดยที่ประชุมได้ติดตามผลเชิงปฏิบัติของการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้งานของจุดผ่านแดนที่จำเป็น ซึ่งก็ได้รับรายงานข่าวว่า การอำนวยความสะดวก การเข้า-ออกส่วนใหญ่เป็นไปตามปกติ เช่น ที่ด่านแห่งหนึ่ง มีการอนุญาตให้ชาวกัมพูชากว่า 7,000 คน ได้เดินทางกลับประเทศ ยกเว้นบางกรณีที่มีรถติดค้างอยู่บ้าง ซึ่งได้มีการคลี่คลายไปแล้ว ในส่วนของการอำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรมยังดำเนินไปตามปกติ ไม่มีข้อติดขัด เช่น มีการเปิดด่านต่าง ๆ ในจังหวัดสุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี เพื่อรับตัวผู้ป่วยชาวกัมพูชารวม 7 ราย ให้ได้รับการรักษาและช่วยเหลืออย่างทันท่วงที “ขอเรียนว่า […]

ศบ.ทก. ขออย่าแสดงความเห็นยั่วยุ หวั่นโจมตีกันเอง

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- ศบ.ทก. ย้ำ คำสั่งกองทัพภาคไม่ได้ปิดด่าน แค่จำกัดเวลาและตรวจเข้ม ระบุ เป็นการยกระดับมาตรการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ชี้กัมพูชาตัดสินใจระงับนำเข้าน้ำมันเอง​ ยันจุดยืนไทยชัด​ ไม่ต้องการดึงประชาชน 2 ประเทศ​รับภาระปัญหาระหว่างรัฐ​ ขออย่าแสดงความเห็นยั่วยุ หวั่นโจมตีกันเอง ย้ำไทยยึดกลไกทวิภาคี นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. ด้านความมั่นคง แถลงภายหลังการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวัน อังคารที่ 24 มิถุนายน 2568 นายนิกรเดช กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (23 มิ.ย.) กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด มีคำสั่งยกระดับการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งเป็นไปตามคำสั่ง และแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นมาตรการที่หน่วยทหารในพื้นที่พิจารณาอย่างรอบคอบ จากการประเมินภาพรวมสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ และเพื่อเป็นการดูแลรักษาปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ […]

ศบ.ทก. ย้ำไทยมุ่งมั่นเจรจาเพื่อสร้างความสงบสุข

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- ศบ.ทก. เผยพบความตึงเครียดแนวชายแดนอย่างมีนัย หลังมีการกระทำยั่วยุ ย้ำไทย มุ่งมั่นการเจรจาเพื่อสร้างความสงบสุข ไม่มีนโยบายผลักดันแรงงานกัมพูชา แต่พร้อมหาแรงงานประเทศอื่นทดแทนได้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ) ประจำวันนี้ ( 23 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลยังคงยืนยันว่าไม่มีการปิดด่าน หรือ จุดผ่านแดนถาวร ทุกด่านยังคงเปิดทำการปกติ แต่จำกัดให้บุคคลที่มีเหตุจำเป็น และจำกัดวันเวลาในการเข้า-ออก เป็นการดำเนินการตามมาตรการขั้นที่ 1 และ 2 ที่มีทั้งหมด 4 ขั้น ฝ่ายไทยจะเฝ้าติดตามสถานการณือย่างใกล้ชิด และพิจารณาความจำเป็นการเพิ่มความเข้มข้นของการใช้มาตราการต่างๆ โดยให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ส่วนการที่กองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปรับมาตราการควบคุมจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตระกู จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งไม่ถือเป็นการปิดด่านที่เป็นจุดฝ่านแดนถาวร หรือแม้แต่จุดผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งจุดผ่อนปรนทางการค้าเป็นจุดในมิติทางเศรษฐกิจ ถือเป็นช่องทางที่รัฐบาลเปิดผ่อนปรนให้มีการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่น และช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในด้านมนุษยธรรม การปรับมาตรการควบคุมที่จุดผ่อนปรนแห่งนี้ เป็นมาตรการที่หน่วยทหารในพื้นที่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการ จากการประเมินภาพรวมสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ และเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบัน ตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ […]

กต.พร้อมพาคนไทยออกพื้นที่อิสราเอล-อิหร่าน

23 มิ.ย.- ผู้ช่วย รมต.กต.พร้อมพาคนไทยออกจากพื้นที่อิสราเอล-อิหร่าน เบื้องต้นคาดชุดแรก 40 คน วอนคนไทยอย่ารอจนวินาทีสุดท้าย รีบออกจากพื้นที่โดยด่วน นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับมอบหมายจากนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงประเทศ ให้ตนและทีมงานจากกระทรวงฯ ส่วนกลางเดินทางเตรียมพื้นที่หน้างาน เพื่อรอรับการเดินทางออกจากพื้นที่ของคนไทยจากอิหร่าน ที่คาดว่าน่าจะมีจำนวนหนึ่ง ดังนั้น ในวันนี้ (23 มิ.ย.) ตนจึงได้ร่วมประชุมหารือกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา, เอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน และเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงฯ เพื่อเตรียมแนวทางการรองรับคนไทย ที่อาจเดินทางออกจากพื้นที่ โดยเบื้องต้นคาดว่า จะมีคนไทยกลุ่มแรกประมาณ 40 คนเดินทางออกมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยว่า สำหรับเส้นทางจากอิหร่านนั้น ได้กำหนดให้เดินทางออกทางบกสู่ชายแดนตุรกี ก่อนเข้าสู่เมือง Van ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยกระทรวงฯ จะจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวไว้ที่เมือง Van และสามารถติดต่อประสานงานได้ที่ +989121598699 และ +989125007933 ซึ่งศูนย์พักพิงดังกล่าว จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานสำหรับพี่น้องคนไทย […]

กต.เผยแรงงานไทยในอิสราเอล-อิหร่าน กลับไทยลอตแรกคืนนี้

กระทรวงการต่างประเทศ 23 มิ.ย.-โฆษก กต.เผยแผนช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล-อิหร่านกลับไทย ลอตแรกคืนนี้ ชี้สถานการณ์แนวโน้มทวีความรุนแรงรวดเร็ว วอนคนไทยออกนอกพื้นที่ ด้าน กต.พร้อมประสานช่วยเหลือ 24 ชม. ยันไม่ถึงขั้นสั่งอพยพ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเกี่ยวกับการดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง ว่าตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความกังวลอย่างยิ่ง ในตะวันออกกลางและสั่งการช่วยเหลือคนไทยได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยในอิสราเอล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รวมถึง เอกสถานทูตไทยในภูมิภาคได้ประสานงานกับบริษัทก่อสร้างที่ต้องการนำแรงงานชุดแรก 22 คนกลับประเทศไทยแล้ว โดยได้เดินทางออกจากอิสราเอลทางบกเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะเดินทางถึงไทยในวันนี้ (23 มิ.ย.) เวลา19.20น. 22คนแรก และ สถานเอกอัครราชทูตยังอยู่ระหว่างการช่วยเหลือคนไทยที่ประสงค์จะออกจากเทลอาวัฟ 12 คนเพื่อเดินทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่นกันโดย 9 คนจะออกจากอิสราเอลทางบก ในวันที่ 25 มิถุนายนและอีก 3 คนจะเดินทางออกจากอิสราเอลในวันที่ 3 กรกฎาคม สถานเอกอัครราชทูตและฝ่ายแรงงานกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานกับบริษัทจัดหางานภาคการก่อสร้างถึงความเป็นไปได้ที่จะย้ายแรงงานภาคการก่อสร้าง ในอิสราเอลยอีกประมาณ 3000 คน ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรอดูสถานการณ์หรือเดินทางกลับประเทศไทย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า สำหรับในอิหร่าน […]

จับตาบ่ายนี้! ปธ. JBC ฝ่ายไทย เตรียมแถลงข่าวปมชายแดน

16 มิ.ย.- “ประศาสน์” ประธาน JBC ฝ่ายไทย เตรียมนำแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมบรรยายสรุปคณะทูต กระทรวงการต่างประเทศแจ้งผ่านสื่อมวลชนประจำกระทรวง ว่า ขอเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมกำหนดการเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ในฐานะประธาน กมธ. JBC ฝ่ายไทย พร้อมด้วยนายเบจมินทร์ สุกาญจนัทจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เข้าร่วมด้วย ในเวลา 13.00 น. ที่ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ และในเวลา 15.30 น. จะมีการการบรรยายสรุปสถานการณ์แก่คณะทูต -สำนักข่าวไทย

กต.ตั้งศูนย์ฯ ช่วยเหลือคนไทย รับสถานการณ์อิสราเอล-อิหร่าน

14 มิ.ย.- กต. จัดตั้งศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วยเหลือคนไทยในตะวันออกกลาง หลังสถานการณ์อิสราเอล-อิหร่าน ทวีความตึงเครียด แนะหากน่านฟ้าเปิดและมีเที่ยวบินขอให้เดินทางออกทันที นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน หลังทวีความตึงเครียด ซึ่งขณะนี้ยังมีการโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของประเทศไทยมีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าว และการขยายตัวของความขัดแย้งที่มีผลกระทบมากขึ้นในวงกว้าง ประเทศไทยจึงขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาค ติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางการช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ไว้แล้ว หากเกิดกรณีจำเป็น โดยกระทรวงการต่างประเทศได้จัดตั้งศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ RRC แล้ว เพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือคนไทยในกรณีจำเป็น ในกรณีฉุกเฉินสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่เอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องชาวไทยในพื้นที่ตื่นตัวและติดตามประกาศแจ้งเตือนต่างๆ รวมถึงแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางในพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากน่านฟ้าเปิดและมีเที่ยวบิน ขอให้คนไทยพิจารณาเดินทางออกโดยทันที -สำนักข่าวไทย

กต. ย้ำไทยใช้กลไกทวิภาคี ยึดประโยชน์ประเทศ

12 มิ.ย.- โฆษก กต. ย้ำไทยมุ่งมั่นใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาความขัดแย้ง วางแนวทาง 3 เรื่องหลักเจรจา JBC ยึดประโยชน์ของประเทศและคนไทยเป็นที่ตั้ง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงประจำสัปดาห์ ว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ฝ่ายไทยได้จัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission: JBC) (ฝ่ายไทย) ครั้งที่ 2 (สืบต่อจากการประชุมฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568) เพื่อเตรียมการสำหรับการเข้าร่วมการประชุม JBC ซึ่งรัฐมนตรีฯ ได้แถลงข่าวในเรื่องนี้แล้ว ก่อนจะมีการประชุมฯ รัฐมนตรีฯ ได้มอบนโยบายในการเจรจา โดยย้ำแนวทาง 3 เรื่องที่จะเป็นหลักการสำหรับทีมงานของฝ่ายไทย ดังนี้ ขอย้ำว่า ฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งซึ่งเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุด และเป็นที่ยอมรับตามธรรมเนียมปฏิบัติสากลที่เมื่อสองประเทศมีความเห็นไม่ตรงกัน นานาประเทศก็จะสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคี และความตกลงที่ทั้งสองประเทศมีอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหา เพราะเป็นวิธีหาทางออกระหว่างผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง โดยกลไกทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ซึ่งไทยจะใช้ทั้ง 3 […]

กต. โต้กลับ! ลดฟรีวีซ่าคนกัมพูชา เหลือ 7 วัน

กระทรวงการต่างประเทศ 9 มิ.ย.- กต. รับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเปราะบาง เชื่อประชุม JBC จะลดแรงตึงเครียด หลังสองฝ่ายปรับกำลัง พร้อมโต้กลับลดฟรีวีซ่ากัมพูชาเหลือ 7 วัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีความพัฒนา ว่า กองกำลังฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ได้มีการกลบฝังคูเลตตามข้อตกลง พร้อมกับปรับกำลังของทั้งสองฝ่ายให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่ตกลงไว้ตามปี 2567 ฝ่ายไทยเห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนถึงความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการลดความตึงเครียดของสถานการณ์ชายแดนไทยและกัมพูชา ผลจากการเจรจาทุกระดับของทั้งสองฝ่าย หวังว่าจะไปสู่การหาทางออกอย่างสันติในระยะยาว เคารพซึ่งกันและกัน และมีความจริงใจต่อกันโดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีที่เราจะนำไปสู่การประชุมเจบีซี วันที่ 14 มิถุนายนนี้ สำหรับกลไกเจบีซี เพื่อหารือสำรวจหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ผ่านมามีการประชุม 10 ครั้ง มีความคืบหน้าในหลายพื้นที่ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา รวมถึงการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดงแห่งใหม่ จังหวัดจันทบุรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยอีกว่า ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมเจบีซีครั้งต่อไป ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ วันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญ จะช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ที่ยังมีความเปราะบางอยู่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืน […]

1 2 3 14
...