กต. แจงย้ำ “บ้านหนองจาน” เป็นของไทย ประท้วงต่อเนื่องแต่เขมรนิ่งเฉย

กต. 22 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ แจง “บ้านหนองจาน” เป็นพื้นที่ของไทย ที่เคยใช้เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว เผยปี 60 เคยแจ้งให้ปลดธงชาติออก แต่ “กัมพูชา” ไม่ตอบรับ ทั้งที่ขัดต่อข้อ 5 ใน MOU 43 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย แถลงถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าฝ่ายไทยวางรั้วลวดหนาม ในพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นรอยต่อแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นการละเมิดพื้นที่อธิปไตยของฝ่ายกัมพูชา โดยนายนิกรเดช กล่าวว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบในอดีต เข้ามาในประเทศไทย (พ.ศ. 2524) ซึ่งต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้มีการขยายพื้นที่ชุมชน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง MOU 2543 ฝ่ายไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยมาโดยตลอด ขณะที่ฝ่ายกัมพูชากลับไม่ตอบสนองใดๆ ส่วนการวางรั้วลวดหนามในเขตไทย เป็นไปเพื่อการปกป้องอธิปไตยของไทย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย เป็นไปเพื่อป้องกันฝ่ายกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล พร้อมย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดต่อข้อตกลงที่เกิดขึ้นในการประชุม GBC ครั้งที่ผ่านมา ที่ประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร […]

กต.แถลงย้ำคลิปทหารเขมรลอบวางทุ่นระเบิดเป็นหลักฐานชั้นดี

กระทรวงการต่างประเทศ 20 ส.ค.- กต.แถลงย้ำ คลิปทหารเขมร ลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนอธิปไตยไทย จะเป็นหลักฐานชั้นดีในการฟ้องภาคีออตตาวา ด้าน “นิกรเดช” ขอคนไทยมั่นใจ ซัดพฤติกรรม “กัมพูชา” น่าผิดหวัง ไม่จริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด เรียกร้องหยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (Interim observer Team: IOT) ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย คณะได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาคณะประกอบไปด้วยผู้ช่วยทูตทหารจาก 8 ประเทศได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ทางกองทัพได้จัดกำหนดการครอบคลุม เพื่อให้คณะได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา และการขัดขวางการปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ในห้วง 3 วัน คณะ IOT ได้สังเกตการณ์ ได้ชมการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เมื่อเช้านี้ยังได้เดินทางไปตรวจที่สถานที่ควบคุมตัวเชลยกัมพูชา จำนวน 18 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

กต.ประณามกัมพูชา “ไม่สุจริตใจ” ลอบใช้ทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำซาก

12 ส.ค.- กต.ออกแถลงการณ์ “รัฐบาลไทย” ประณามอย่างรุนแรงที่สุด “กัมพูชา” ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากพฤติกรรม “ไม่สุจริตใจ” ขัดกฎบัตรสหประชาชาติ-อนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องยุติการกระทำทันที จ่อประท้วง “เลขายูเอ็น-ออตตาวา” พร้อมเรียกร้องผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจากอาเซียน พิจารณาอย่างถี่ถ้วน กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

“มาริษ” ติงเพื่อนบ้านเล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง

กระทรวงการต่างประเทศ 5 ส.ค.- “มาริษ” ลั่น น่าเกลียดมาก “เขมร” ปล่อยข่าว “ไทย” ลอบสังหาร “ผู้นำกัมพูชา” บอกไม่เคยรุกราน แค่ตอบโต้อย่างเหมาะสม กางอนุสัญญาเจนีวายัน หากไม่มั่นใจ ยังคุมตัวต่อไปได้ เผย ตั้งแต่จับตัวได้ ดำเนินการเชิงรุก แจ้ง “กาชาดระหว่างประเทศ” ทราบก่อนแล้ว ติงเพื่อนบ้าน เล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยอัปเดตการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.68) เพื่อให้คณะทูตได้รับทราบเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้อง ขอยืนยันว่าสิ่งที่เราบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงถูกต้องและมีหลักฐานในทุกด้านอย่างชัดเจน ซึ่งมีคณะทูตจำนวน 75 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมรับฟัง ได้รับความสนใจและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคณะทูต ทำให้มิตรประเทศเข้าใจบทบาทหน้าที่และการตอบโต้ในสิ่งที่ไทยถูกกระทำมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ตนเองย้ำเตือนและพูดกับมิตรทุกครั้งคือ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศไทยต้องการ เราเรียกร้องให้กัมพูชาใช้กลไกทวิภาคีที่มีร่วมกันมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่ม ที่สำคัญคือไทย-กัมพูชาเป็นมิตรประเทศ เป็นสมาชิกอาเซียนและมีการตกลงทวิภาคีที่จะต้องแก้ไขปัญหาการกระทบกระทั่งทางชายแดนโดยสันติวิธีและจริงใจ สิ่งต่าง ๆ เราได้ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งได้อธิบายให้กับคณะทูตเข้าใจ อย่างไรก็ตาม […]

“มาริษ” ขอบคุณเวียดนามเข้าใจท่าที-หนุนการทูตไทย

กระทรวงการต่างประเทศ 30 ก.ค.- “มาริษ” เผย รมว.กต.เวียดนามเยือนไทย ห่วงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมขอบคุณเวียดนามเข้าใจท่าที และสนับสนุนการทูตไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนประเทศไทย ของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม แสดงความพร้อมที่จะมีบทบาทสนับสนุนการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งในโอกาสนี้ นานมาริษ ได้ขอบคุณฝ่ายเวียดนามที่เข้าใจท่าที และสนับสนุนการดำเนินการทางการทูตของไทยในฐานะเพื่อบ้านที่ดี ที่มีความจริงใจ และต้องการแก้ไขสถานการณ์ด้วยความสันติวิธี นายมาริษ ยังเปิดเผยว่า ทั้งไทย และเวียดนาม ยังแสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ใกล้ชิด และได้หารือถึงแนวทางการยกระดับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน การส่งเสริมความเชื่อมโยงและการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงในอนาคต อาทิ การเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 5 ในช่วงปลายปีนี้.-312 -สำนักข่าวไทย

กต.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค. – กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ เรื่อง การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังกัมพูชา ช่วงค่ำของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา กองกำลังของกัมพูชาโจมตีไทยด้วยอาวุธปืนขนาดเล็กและระเบิดมือในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ การโจมตียังคงดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีหลังจากทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังของกัมพูชาและแสดงให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์ที่ดีอย่างชัดเจน ประเทศไทยขอย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ ตลอดจนการแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี และขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกรูปแบบโดยทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วน -สำนักข่าวไทย

“นิกรเดช” กร้าว! ไทยถูกโจมตีก่อน “เขมร” ละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐาน

กระทรวงการต่างประเทศ 25 ก.ค.- “ไทย” สวน “กัมพูชา” กล่าวหาสร้างความเสียหายปราสาทเขาพระวิหาร ยันเป็นไปไม่ได้ บอกห่างตั้ง 2 กม. เตรียมทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ “นิกรเดช” กร้าว! เราถูกโจมตีก่อน “เขมร” ละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เชื่อทำหนังสือด่วน เหตุต้องการฟ้อง UNSC เย้ย เป็นความจริงหรือไม่ต้องติดตาม แต่ของไทยเป็นของจริง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงพัฒนาการสถานการณ์ไทย – กัมพูชา โดยระบุว่า ตั้งแต่เกิดการเปิดฉากโจมตีของกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวาน 24 ก.ค. การปะทะยังเกิดต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่อย่างทรงตัว กองทัพเราเริ่มเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ตกค้างโดยเฉพาะในพื้นที่ที่สำคัญ เช่น ที่ปั๊มน้ำมันในอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน และเพื่อรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาตลอด เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาและขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปะทะ ที่เริ่มโดยฝ่ายกัมพูชา ชีวิตทหารไทยและพลเรือนที่บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตลง รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่อาจยอมรับได้ ตนขอย้ำอีกครั้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรแห่งสหประชาชาติ […]

กต.แจงทูต 68 ปท. ย้ำ “กัมพูชา” ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา-อธิปไตยไทย

กระทรวงการต่างประเทศ 23 ก.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันจุดยืนต่อคณะทูตจาก 68 ประเทศ “กัมพูชา” ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ละเมิดอธิปไตยไทย พร้อมยื่นประท้วงต่อประชาคมโลก เพื่อให้กัมพูชารับผิดชอบเยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และเก็บกู้ทุ่นระเบิด ยังไม่ถึงขั้นเรียกฑูตกลับประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวหลังบรรยายสรุปแก่เอกอัครราชทูต หรือผู้แทน รวมถึงผู้ช่วยทูตทหาร จำนวน 93 คนจาก 68 ประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และแถลงผลการบรรยายสรุปโดยมีนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. พลเอกศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) และนางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ นายนิกรเดช กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการบรรยายในวันนี้เพื่อบรรยายสรุปให้แก่คณะทูต ในเรื่องกำลังพลของกองทัพบก 3 นาย ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะลาดตระเวนที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ศบ.ทก.ได้แถลงข้อเท็จจริง เน้นย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย โดยภาพรวมการบรรยายสรุปวันนี้ เป็น […]

กต.บรรยายสรุปคณะทูต​ฯ ปมทหารเหยียบทุ่นระเบิดเย็นนี้

ทำเนียบ 23 ก.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมบรรยายสรุปให้คณะทูต​-ผู้ช่วยทูตต่างประเทศ ได้รับทราบรายละเอียด เหตุ​ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเย็นนี้​ ก่อนทำหนังสือประท้วงถึงกัมพูชา-ญี่ปุ่น​ ในฐานะประธานออตตาวา​ หลังกัมพูชา​ผิดอนุสัญญา​ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ รองโฆษกกองทัพไทย ในฐานะ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางให้แรงงานสัญชาติกัมพูชามาทำงานบริเวณชายแดน กรณีแรงงานต่างด้าวใช้เอกสารบุคคล Border Pass เป็นเอกสารแสดงตน ทั้งที่มีอายุหรือหมดอายุ​ ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร​ และอนุญาตให้พำนักในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตนั้นสิ้นสุดลง​ ได้มีการผ่อนผันให้อยู่เป็นกรณีพิเศษ เพื่อทำงานได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประกาศของกระทรวงมหาดไทยมีผลบังคับใช้ 7 มิถุนายน 2568 หรือจนกว่ามาตรการควบคุมการผลิตระหว่างประเทศจะกลับสู่สภาวะปกติ โดยมาตรการต่างๆ ที่มีการผ่อนผัน ก็เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยผู้ประกอบการและเจ้าของพืชไร่สวน ที่มีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วนกรณีการเปิดให้เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม พล.ร.ตงสุรสันต์ กล่าวว่า​ ทางฝ่ายไทยยังยืนยันที่จะเปิดบริการให้กับประชาชนนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมปราสาทได้ตามปกติ โดยทั้งสองฝ่ายได้กำหนดมาตรการร่วมกัน หากเกิดปัญหาจากนักท่องเที่ยวชาติใด ให้ชุดประสานงานจากชาตินั้นเป็นผู้นำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ หากมีปัญหาในพื้นที่การแก้ไขปัญหาให้ชุดประสานงานประสาทในพื้นที่ เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยไม่ต้องเรียกชุดกำลังอื่น โดยไม่จำเป็นเข้ามาเพิ่มเติม ป้องกันการเผชิญหน้า รวมไปถึงขอให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการคัดกรองนักท่องเที่ยวแต่ละฝ่ายอย่างเข้มงวด ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ศบ.ทก.ได้รับรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ […]

“มาริษ” ยังไม่เห็นเอกสารสหรัฐขอใช้ฐานทัพเรือพังงา

ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ค.- “มาริษ” เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเหมือนเดิม เตรียมส่งหนังสือประชุม JBC ก.ย.นี้ ยัน กต.ไม่ตอบโต้ทางโซเชียล เน้นสื่อสารช่องทางที่เป็นทางการ บอกยังไม่เห็นเอกสารสหรัฐขอใช้ฐานทัพเรือพังงา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาขณะนี้ว่า ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน และจะมีหนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission) JBC ในช่วงเดือนกันยายนนี้ เพราะเราต้องยืนยันในสิ่งที่พูดกันมาแล้ว ส่วนประเด็นการตอบโต้ไปมา ระหว่างไทย -กัมพูชา ช่วงที่ผ่านมา นายมาริษ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงผ่านช่องทางที่เป็นทางการ การตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดียไม่ใช่หลักปฏิบัติ ด้านการทูต กระทรวงจะยึดถือการพูดคุยที่เป็นทางการเท่านั้น การตอบโต้ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่เราไม่ต้องการใช้ช่องทาง ที่ไม่ใช่ทางการ แม้แต่กรณีการออกมาแฉล่าสุดของสมเด็จ ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่วนกระแสข่าวที่สหรัฐอเมริกาขอใช้ฐานทัพเรือ ที่จังหวัดพังงา ขณะนี้ยังไม่มีอะไร และต้องมานั่งพูดคุยกัน เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นตัวเอกสาร อย่าพึ่งมาถามต้นตอนนี้เพราะยังไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร นี่อาจจะเป็นการคาดการณ์และตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องมาอย่างไร แต่ถ้ามันมีมาก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน.-312 -สำนักข่าวไทย

1 2 3 15
...