กต.แจงปมบ้านหนองจาน เป็นกระบวนการตาม กม.ไทย

กระทรวงการต่างประเทศ 4 ก.ย.- กต.แจงปมบ้านหนองจาน เป็นกระบวนการตามกฎหมายไทย ชี้การออกมาเคลื่อนไหว เป็นอุปสรรคลดความตึงเครียดชายแดน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงรายงานข่าวเหตุการณ์การประท้วงของประชาชนกัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ประท้วงการดำเนินการของรัฐบาลไทย โดยกล่าวอ้างว่าสร้างความยากลำบากต่อชุมชนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของไทย ว่าการดำเนินการ และมาตรการต่าง ๆ ของทางราชการในพื้นที่ดังกล่าว มีความจำเป็น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อธิปไตยของไทย ขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวทั้งหมด ดำเนินการในพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นไปตามกฎหมายไทยและหลักการสากล โดยมีกระบวนการที่ชัดเจน มีการบอกกล่าวล่วงหน้า และทุกขั้นตอนได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบจาก ศบ.ทก. โดยความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า การปลุกระดม ยั่วยุ ให้ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงและก่อความไม่สงบของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ตามที่ได้มีการหารือในการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ อีกทั้งไม่ยึดถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการปลุกระดมประชาชน และการกระทำใด ๆ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการลดความตึงเครียด และการหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” คุยรัฐภาคีออตตาวา วอนใช้กรอบกลไกเรียกกัมพูชาแจงปมทุ่นระเบิด

นครเจนีวา 27 ส.ค. –“มาริษ” คุยรัฐภาคีออตตาวา ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบหลักฐานฟ้องกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาฯ ล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดรายที่ 6 วอนใช้กรอบออตตาวาเรียกเขมรแจง ขณะที่หลายประเทศชื่นชมไทย ปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ พบหารือกับนางสาวอิชิกาวะ โทมิโกะ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรญี่ปุ่นประจำการประชุมด้านการลดอาวุธ ประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 (อนุสัญญาออตตาวา) และนางสาวแคโรลีน-เมลานี เรกิมบัล หัวหน้าสำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ (UNODA) ณ นครเจนีวา ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใต้อนุสัญญาออตตาวาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา และรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ทั้ง 3 ฝ่ายได้ใช้เวลาในการหารือร่วมกันประมาณ 40 นาที จากนั้น นายมาริษได้เข้าร่วมหารือกับสมาชิกรัฐภาคีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 14 คน อาทิ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส, นอร์เวย์, เยอรมนี, เบลเยียม และผู้แทนของสหภาพยุโรป เป็นต้น โดยในกลุ่มนี้ มีประเทศผู้บริจาคแก่กัมพูชา ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วย นายมาริษ […]

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“กดดัน-ประณาม” ได้ผล กัมพูชาเริ่มผ่อนปรน แต่ยังปฏิเสธวางทุ่นระเบิด

กต. 23 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต. เผยผลการกดดัน-ประณาม กัมพูชามีท่าทีผ่อนปรนร่วมมือมากขึ้น แต่ยังปฏิเสธวางทุ่นระเบิด แจงไทยไม่ได้ปฏิเสธผู้สังเกตการณ์ AOT แต่ห่วงข้อจำกัดกฎหมายไทย ชี้ผู้สังเกตการณ์ IOT ยังปรับประสิทธิภาพได้ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับสื่อมวลชนไทยภาคภาษาอังกฤษ เพื่อชี้แจงการดำเนินการของรัฐบาลไทยให้ประชาคมโลกรับทราบ โดยเฉพาะการประท้วงของรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพต่อการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ที่ละเมิดอำนาจอธิปไตยไทย ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งละเมิดข้อตกลงการหยุดยิง ตลอดจนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตานุทูตลงพื้นที่ 2 ครั้ง เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อการกระทำของกัมพูชาแล้ว และพยายามชี้ให้เห็นถึงการละเมิดมนุษยธรรม ที่ไม่ใช่เพียงเรื่องความมั่นคง หรือเรื่องทางทหารระหว่างไทย-กัมพูชาแต่เป็นภัยมนุษยชาติโดยรวมที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้ โดยล่าสุดมีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาได้แสดงท่าทีผ่อนปรนมากขึ้นที่จะร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ยังคงปฏิเสธว่ากัมพูชาไม่ได้วางทุ่นระเบิดใหม่ แต่จะสำรวจร่วมกับประเทศไทย เพื่อกำหนดพื้นที่เร่งด่วนตามแนวชายแดน ที่ควรทำการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ส่วนความคิดริเริ่มเรื่องคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team) หรือ IOT และข้อเสนอคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team) หรือ AOT นั้น ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า […]

กต. แจงย้ำ “บ้านหนองจาน” เป็นของไทย ประท้วงต่อเนื่องแต่เขมรนิ่งเฉย

กต. 22 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ แจง “บ้านหนองจาน” เป็นพื้นที่ของไทย ที่เคยใช้เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว เผยปี 60 เคยแจ้งให้ปลดธงชาติออก แต่ “กัมพูชา” ไม่ตอบรับ ทั้งที่ขัดต่อข้อ 5 ใน MOU 43 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย แถลงถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าฝ่ายไทยวางรั้วลวดหนาม ในพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นรอยต่อแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นการละเมิดพื้นที่อธิปไตยของฝ่ายกัมพูชา โดยนายนิกรเดช กล่าวว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบในอดีต เข้ามาในประเทศไทย (พ.ศ. 2524) ซึ่งต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้มีการขยายพื้นที่ชุมชน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง MOU 2543 ฝ่ายไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยมาโดยตลอด ขณะที่ฝ่ายกัมพูชากลับไม่ตอบสนองใดๆ ส่วนการวางรั้วลวดหนามในเขตไทย เป็นไปเพื่อการปกป้องอธิปไตยของไทย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย เป็นไปเพื่อป้องกันฝ่ายกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล พร้อมย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดต่อข้อตกลงที่เกิดขึ้นในการประชุม GBC ครั้งที่ผ่านมา ที่ประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร […]

กต.แถลงย้ำคลิปทหารเขมรลอบวางทุ่นระเบิดเป็นหลักฐานชั้นดี

กระทรวงการต่างประเทศ 20 ส.ค.- กต.แถลงย้ำ คลิปทหารเขมร ลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนอธิปไตยไทย จะเป็นหลักฐานชั้นดีในการฟ้องภาคีออตตาวา ด้าน “นิกรเดช” ขอคนไทยมั่นใจ ซัดพฤติกรรม “กัมพูชา” น่าผิดหวัง ไม่จริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด เรียกร้องหยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (Interim observer Team: IOT) ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย คณะได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาคณะประกอบไปด้วยผู้ช่วยทูตทหารจาก 8 ประเทศได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ทางกองทัพได้จัดกำหนดการครอบคลุม เพื่อให้คณะได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา และการขัดขวางการปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ในห้วง 3 วัน คณะ IOT ได้สังเกตการณ์ ได้ชมการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เมื่อเช้านี้ยังได้เดินทางไปตรวจที่สถานที่ควบคุมตัวเชลยกัมพูชา จำนวน 18 […]

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

กต.ประณามกัมพูชา “ไม่สุจริตใจ” ลอบใช้ทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำซาก

12 ส.ค.- กต.ออกแถลงการณ์ “รัฐบาลไทย” ประณามอย่างรุนแรงที่สุด “กัมพูชา” ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากพฤติกรรม “ไม่สุจริตใจ” ขัดกฎบัตรสหประชาชาติ-อนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องยุติการกระทำทันที จ่อประท้วง “เลขายูเอ็น-ออตตาวา” พร้อมเรียกร้องผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจากอาเซียน พิจารณาอย่างถี่ถ้วน กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

“มาริษ” ติงเพื่อนบ้านเล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง

กระทรวงการต่างประเทศ 5 ส.ค.- “มาริษ” ลั่น น่าเกลียดมาก “เขมร” ปล่อยข่าว “ไทย” ลอบสังหาร “ผู้นำกัมพูชา” บอกไม่เคยรุกราน แค่ตอบโต้อย่างเหมาะสม กางอนุสัญญาเจนีวายัน หากไม่มั่นใจ ยังคุมตัวต่อไปได้ เผย ตั้งแต่จับตัวได้ ดำเนินการเชิงรุก แจ้ง “กาชาดระหว่างประเทศ” ทราบก่อนแล้ว ติงเพื่อนบ้าน เล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยอัปเดตการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.68) เพื่อให้คณะทูตได้รับทราบเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้อง ขอยืนยันว่าสิ่งที่เราบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงถูกต้องและมีหลักฐานในทุกด้านอย่างชัดเจน ซึ่งมีคณะทูตจำนวน 75 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมรับฟัง ได้รับความสนใจและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคณะทูต ทำให้มิตรประเทศเข้าใจบทบาทหน้าที่และการตอบโต้ในสิ่งที่ไทยถูกกระทำมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ตนเองย้ำเตือนและพูดกับมิตรทุกครั้งคือ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศไทยต้องการ เราเรียกร้องให้กัมพูชาใช้กลไกทวิภาคีที่มีร่วมกันมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่ม ที่สำคัญคือไทย-กัมพูชาเป็นมิตรประเทศ เป็นสมาชิกอาเซียนและมีการตกลงทวิภาคีที่จะต้องแก้ไขปัญหาการกระทบกระทั่งทางชายแดนโดยสันติวิธีและจริงใจ สิ่งต่าง ๆ เราได้ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งได้อธิบายให้กับคณะทูตเข้าใจ อย่างไรก็ตาม […]

“มาริษ” ขอบคุณเวียดนามเข้าใจท่าที-หนุนการทูตไทย

กระทรวงการต่างประเทศ 30 ก.ค.- “มาริษ” เผย รมว.กต.เวียดนามเยือนไทย ห่วงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมขอบคุณเวียดนามเข้าใจท่าที และสนับสนุนการทูตไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนประเทศไทย ของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม แสดงความพร้อมที่จะมีบทบาทสนับสนุนการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งในโอกาสนี้ นานมาริษ ได้ขอบคุณฝ่ายเวียดนามที่เข้าใจท่าที และสนับสนุนการดำเนินการทางการทูตของไทยในฐานะเพื่อบ้านที่ดี ที่มีความจริงใจ และต้องการแก้ไขสถานการณ์ด้วยความสันติวิธี นายมาริษ ยังเปิดเผยว่า ทั้งไทย และเวียดนาม ยังแสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ใกล้ชิด และได้หารือถึงแนวทางการยกระดับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน การส่งเสริมความเชื่อมโยงและการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงในอนาคต อาทิ การเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 5 ในช่วงปลายปีนี้.-312 -สำนักข่าวไทย

กต.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค. – กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ เรื่อง การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังกัมพูชา ช่วงค่ำของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา กองกำลังของกัมพูชาโจมตีไทยด้วยอาวุธปืนขนาดเล็กและระเบิดมือในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ การโจมตียังคงดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีหลังจากทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังของกัมพูชาและแสดงให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์ที่ดีอย่างชัดเจน ประเทศไทยขอย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ ตลอดจนการแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี และขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกรูปแบบโดยทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วน -สำนักข่าวไทย

1 2 3 15
...