กทม.3 กพ.- “ทนายรณณรงค์” พาครอบครัวหญิงวัย 18 ปี ถูกชายกว่า 10 คน รุมโทรม 2 รอบ แต่คดีไม่คืบ เข้าร้อง ปคม. แฉ ผู้ต้องหาเสนอเงิน 4 แสน แลกยอมความ
เวลา 9.30 น. ที่ บก.ปคม. (กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคาร B นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยครอบครัวของหญิงสาววัย 18 ปี จากจังหวัดลพบุรี ที่ถูกคนร้าย 11 คน รุมโทรมถึง 2 ครั้ง ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.สยาม บุญสม เพื่อให้เร่งรัดคดีและติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษทั้งหมด เนื่องจากหนึ่งในนั้นเป็นนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดลพบุรี และคดีไม่มีความคืบหน้า
โดยคดีนี้ นายทองแดง (ขอสงวนนามสกุล) ชาวอำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี พาลูกสาวเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประะธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามคดีที่ลูกสาวถูกคนในหมู่บ้านเดียวกัน 11 คน ลวงไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า เพราะหนึ่งในผู้ก่อเหตุเป็น สมาชิกสภาเทศบาลในพื้นที่
พ่อผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกสาวตน ถูกนายบี หัวโจกออกอุบายลวงไปข่มขืนเมื่อเดือนกันยายน 63 เมื่อถึงกระท่อมได้โทรตามเพื่อนมาอีก 3 คน รวม 4 คน ก่อนใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ทุกคน แล้วถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเดือน ต.ค.นายบี ได้ข่มขู่ น.ส.เอ และสั่งให้มาพบที่กระท่อมจุดเดิม จากนั้นได้โทรเรียกเพื่อนอีก 6 คน รวมเป็น 7 คน หนึ่งในนั้นมีสมาชิกสภาเทศบาลตำบลดีรัง ร่วมข่มขืนลูกสาวด้วย ตนเองจึงพาบุตรสาวเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิพนธ์ ศรีไพบูลย์ สว. (สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คน จนต่อมาตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 10 คน มีเพียงสมาชิกสภาเทศบาลตำบลดีรัง ที่ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตนเกรงว่าคดีจะเงียบหาย เพราะผู้ก่อเหตุเป็นถึง สท.ในพื้นที่ ต่อมาตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด และทุกคนได้รับการประกันตัวออกมา
“หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหา ได้มาเจรจาเสนอให้เงินตนเอง 400,000 บาท และให้บอกว่าเป็นเรื่องสมยอมกันเอง รวมทั้งให้ถอนแจ้งความ แต่ตนไม่รับ เพราะมันไม่สามารถล้างตราบาปที่ประทับไว้กับลูกสาวตนเอง
นอกจากนี้ยังมีภรรยาผู้ต้องหาบางคนเสนอตัวขอนอนกับตนเองแลกกับการไม่ดำเนินคดีสามีของเขา ซึ่งเป็นเริ่องที่ตนเองรับไม่ได้ และไม่คิดว่าเขาจะกล้าเสนอเงื่อนไขแบบนี้”
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนพาผู้เสียหายมาร้องตำรวจ บก. ปคม.เพื่อให้เข้ามาช่วยตามคดี เพราะผู้เสียหายไม่มั่นใจตำรวจท้องที่ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นถึง สท. คดีนี้มีอัตราโทษสูง คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เพราะผู้เสียหายยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย