ร้องถูกสามีตำรวจทำร้าย หลอกไปรุมโทรม

กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – ภรรยาตำรวจเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ ดส. วอนให้ช่วย หลังถูกสามีตำรวจทำร้ายร่างกายนานหลายปี และหลอกพาเข้าโรงแรม เรียกผู้ชาย 5-7 คน มากระทำชำเราในลักษณะรุมโทรม


ผู้เสียหายเป็นหญิงสาว วัย 30 ปี เป็นภรรยาตำรวจ พร้อมนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อให้ช่วยเหลือทางคดี หลังถูกสามีตำรวจทำร้ายร่างกายต่อเนื่องนานหลายปี อีกทั้งถูกหลอกให้ไปโรงแรม แล้วเรียกผู้ชายมา 5-7 คน ให้มีเพศสัมพันธ์หมู่ลักษณะรุมโทรม รวมทั้งยังสลับกันถ่ายคลิป

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ผู้เสียหาย หนีมาขอความช่วยเหลือกับตนเองเมื่อคืน จึงได้ประสานกับทางตำรวจ กก.ดส. เพื่อให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเคยไปแจ้งความกับตำรวจท้องที่ไว้แล้วถึง 6 ครั้ง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า อาจจะเป็นเพราะพ่อของผู้ก่อเหตุเป็นนายตำรวจระดับรองผู้กำกับการ ในพื้นที่ภาคอีสาน ในขณะที่ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจยศชั้นประทวน ปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯ


ผู้เสียหาย ถูกสามีทำร้ายร่างกายมาตลอดนับปี และที่รุนแรงสุด หลอกพาเข้าโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ให้ผู้ชาย 5-7 คน รุมโทรม โดยมีสามีอยู่ด้วย และผลัดกันถ่ายคลิป มีการข่มขู่ว่า ตำรวจหรือใครก็ช่วยไม่ได้ ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้แจ้งความทันทีเพราะถูกข่มขู่ จากนั้นไม่นานก็ถูกทำลักษณะแบบนี้อีก จนตนเองทนไม่ได้จึงหนีไป แต่สามีตามง้อบอกจะกลับมาอีก จึงอยากให้ตำรวจตรวจสอบว่าการที่ฝ่ายสามีมีพฤติกรรมดังกล่าวนั้น เป็นการหาผลประโยชน์จากภรรยาหรือไม่ เช่นนำคลิปไปขายต่อ หรือมีการเรียกรับเงินจากกลุ่มชายที่มารุมโทรม ถ้ามีพฤติการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นความผิดเรื่องค้ามนุษย์ด้วย

พันตำรวจเอก พรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการ สน.โชคชัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายมาแจ้งความทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ทั้ง 2 ครั้ง ผู้เสียหายไม่ได้มาติดตามคดีเพื่อเอาความ และครั้งที่ 3 เมื่อเดือนมกราคม 2565 มีการดำเนินคดีถึงขั้นไกล่เกลี่ยกัน และลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ถ้าทำร้ายร่างกายอีกจะหย่ากัน หากผู้เสียหายประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี กรณีถูกทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ พนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบปากคำ และจะเรียกตัวสิบตำรวจโทผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นางสาววสมน ทิพณีย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า จะให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตามที่ต้องการ หากต้องการที่อยู่ใหม่ก็จะจัดหาให้ ซึ่งจากการพูดคุยสอบถามพบว่า ยังมีอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เคยประสบมา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน