วอชิงตัน 23 มี.ค. – ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และส่อนัยว่าจะหยุดการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หลังจากธนาคารในสหรัฐต้องปิดกิจการไป 2 แห่ง เมื่อไม่นานมานี้
เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 จนถึงเมื่อวานนี้รวม 9 ครั้ง จากร้อยละ 0.25-0.50 เป็นร้อยละ 4.75-5.00 แต่แถลงการณ์หลังการประชุมนโยบายล่าสุดไม่ได้ระบุเหมือนที่ผ่านมาว่า การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม ทั้งนี้การที่เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหวังควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็น 1 ในปัจจัยที่ถูกระบุว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาคการธนาคารของสหรัฐล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดแถลงหวังสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเรื่องระบบการธนาคารยังมีความแข็งแกร่งว่า ธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์หรือเอสวีบี (SVB) มีการบริหารจัดการแย่มาก แต่การล้มของเอสวีบีไม่ได้บ่งชี้ว่าระบบการธนาคารมีความอ่อนแอในวงกว้าง และดูเหมือนว่าการที่ธนาคารยูบีเอส (UBS) เข้าครอบงำกิจการหรือเทคโอเวอร์ธนาคารเครดิตสวิสเป็นเรื่องที่ให้ผลเชิงบวก เฟดยังคงมุ่งมั่นเรื่องต่อสู้กับเงินเฟ้อ และจับตาดูว่าการที่ธนาคารล้มเมื่อไม่นานมานี้ได้ทำให้ความต้องการบริโภคและการกู้ยืมชะลอตัวลงมากน้อยเพียงใด.-สำนักข่าวไทย