วอฃิงตัน 20 พ.ย. – กลุ่มภาคประชาชนเมียนมากล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐควรใช้มาตรการลงโทษธนาคารของเมียนมาที่ถูกนำไปใช้เพื่อหลบเลี่ยงช้อจำกัดของสหรัฐ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดวาระตัดแหล่งเงินตราต่างประเทศสำคัญของรัฐบาลทหารเมียนมา
กลุ่มประฃาสังคมหลายสิบกลุ่มส่งจดหมายไปถึงกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการคลังสหรัฐเมื่อวันจันทร์ เรียกร้องให้สหรัฐปิดกั้นธนาคารเมียนมา อีโคโนมิก แบงค์ ของทางการเมียนมา มิให้ใช้ระบบการเงินที่ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นหลักและเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศอื่น ๆ ดำเนินรอยตามแนวทางนี้
ไซมอน บิลเลนเนส ผู้อำนวยการบริหารของอินเตอร์เนชันแนล แคมเปญ ฟอร์ โรฮีนจา ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคประชาสังคมที่ร่วมลงนามในจดหมายฉบับนี้กล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมา พึ่งพาธนาคารต่างชาติ ผู้จัดหาเชื้อเพลิงเครื่องบิน และผู้ค้าอาวุธ เพื่อดำเนินการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ชณะนี้ยังมีโอกาสที่จะหยุดเครือข่ายสนับสนุนระหว่างประเทศที่ช่วยเหลือรัฐบาลทหารเมียนมา และชณะนี้เป็นช่วงเวลาที่กองทัพกำลังอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2021
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ได้รับจดหมายดังกล่าว แต่ไม่แสดงความเห็นใด ๆ ว่าจะมีการใช้มาตรการลงโทษรัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่มเติมในอนาคตหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า สหรัฐยังคงเดินหน้ากดดันรัฐบาลทหารเมียนมา ให้ยุติการใช้ความรุนแรงกับพลเรือนและยังคงพยายามปิดกั้นรายได้ของรัฐบาลทหารเมียนมา
เจ้าหน้าสหประชาชาติกล่าวในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายนว่า รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการลงโทษธนาคารของรัฐ 2 แห่งในเมียนมาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาต้องหันไปใช้บริการธนาคารเมียนมา อีโคโนมิก แบงค์ ในการจัดซื้ออาวุธและรับเงินรายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ ซึ่งได้มาจากหลายทาง รวมถึงการส่งออกแก๊สธรรมชาติ