กรุงเทพฯ 18 ก.ย.- อธิบดีกรมชลประทานระบุ ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อพร่องน้ำหน้าเขื่อนรองรับน้ำเหนือ พร้อมกันนี้ลดปริมาณการระบายผ่านเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพื่อไม่ให้น้ำปริมาณมากไหลลงมายังจุดบรรจบของแม่น้ำทั้ง 2 สายพร้อมกัน แล้วเร่งผลักดันออกทะเล
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ช่างบ่ายวันนี้ได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาขึ้น เพื่อพร่องน้ำหน้าเขื่อนรองรับน้ำเหนือ เนื่องจากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 18 -24 กันยายน ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคกลาง ประกอบกับลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นซึ่งจะมีฝนเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่า ปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน และสะแกกรังที่ไหลผ่านสู่แม่น้ำเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มีความจำเป็นต้องปรับการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ให้สอดคล้องกับสภาพน้ำฝน-น้ำท่า
สำหรับการปรับเพิ่มการระบายดำเนินการแบบเป็นขั้นบันได โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. จากอัตรา 1,948 ลบ.ม./วินาทีเป็น 1,990 ลบ.ม./วินาที ในเวลา 18.00 น. จากนั้นให้คงการระบายให้อยู่ในอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายน้ำแล้ว
ส่วนที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ทยอยปรับลดจาก 32 ลบ.ม./วินาทีเป็น 250 ลบ.ม./วินาทีเนื่องจากน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนลดลง ประกอบกับต้องการให้น้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาออกทะเลไปก่อน โดยแม่น้ำป่าสักไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าวัดพนัญเชิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงต้องจัดจราจรน้ำไม่ให้น้ำปริมาณมากจากทั้ง 2 เขื่อนไหลมายังจุดบรรจบพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย